ตอนแรกที่คำว่า “จิ๋มล็อก” ลอยเข้าหู มาดามคิดถึงภาพลูกและแม่กุญแจเข้าคู่คล้องกันแบบกลมเกลียว ( แต่ถ้าบางคนคิดภาพตามไม่ได้ แนะนำให้นึกถึงเวลาโดนตุ๊กแกงับนิ้วไว้ไม่ปล่อยนั่นแหละ) แต่ครั้นพอหาข้อมูลเข้าจริงๆ ก็พบว่า คนที่ให้กำเนิดคำนี้ขึ้นมาเขาเทพจริงๆ เพราะด้วยอาการที่เกิดคงหาคำอื่นมาแทนที่เป็นไม่ได้ เพียงแต่ว่าอาการล็อกที่ว่า คนปลดล็อคในบางโอกาสกลับกลายเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าตัวน่ะสิ

สรุปง่ายๆ เข้าใจไวๆ ในเบื้องต้นของอาการนี้คือ อาการที่เข้าได้ออกไม่ได้ของน้องชายในระหว่างปฎิบัติการ โดยเฉพาะขณะที่สาวๆ ถึงประตูสวรรค์ ณ ตอนนั้นกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหดเกร็งอย่างรุนแรงจนล็อกน้องชายซะแน่นประหนึ่งว่าอย่าจากชั้นไป แต่ในความจริงแล้ว อาการนี้อาจเกิดตั้งแต่ยังไม่มีการสอดใส่เลยก็เป็นได้ เพราะรูปแบบอาการคือการหดเกร็งของน้องสาวแบบกะทันหัน ถ้าตอนที่เกิดยังไม่มีการใช้งานก็โอเค แต่ถ้าเกิดระหว่างจึ๊กๆ อยู่ละก็ งานนี้มีเจ็บตัวคู่ เพราะน้องชายของเขาจะโดนกล้ามเนื้อบริเวณน้องสาวบีบรัดไว้แบบไม่ให้ไปไหน ครั้นจะดื้อรั้นดึงดันดิ้นหนีก็มีแต่เจ็บกับปวด

วิธีที่จะจับแยกออกจากกันมีอยู่ 2-3 วิธี แต่ก่อนอื่นทำความเข้าใจต้นเหตุแห่งทุกข์ครั้งนี้กันก่อนว่าเกิดอาการล็อกได้ด้วยเหตุปัจจัยต่างๆ กันไป แต่เปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่คือ  ความคิดและสภาพจิตใจของฝ่ายหญิง ที่บางคนอาจมีความหลังไม่ดีงามเท่าไหร่เกี่ยวกับการมีเซ็กส์ บางคนเคยมีแล้วเจ็บจนขยาด บางคนเคยโดนล่วงละเมิดมา ความร้าวรานนั้นก็เลยฝังจำ พอจะออกศึกอีกครั้งจิตใต้สำนึกเลยสร้างเกราะป้องกันโดยอัตโนมัติ เรียกว่าเรื่องความกลัวในใจส่งผลจนเกิดภาวะกล้ามเนื้อหดรัดเกร็งจนไม่สามารถควบคุมได้ และอาจมีบางนางที่เกิดอาการล็อกเพราะปัญหาทางสรีระส่วนตัว รวมถึงกลัวการมีเซ็กส์ครั้งแรกด้วย

อีกเหตุปัจจัยคือ ล็อกเพราะอาการตกใจระหว่างมีเซ็กส์ ไม่ว่าจะตกใจเพราะมีคนแอบมองโดยไม่รู้ตัว ตกใจเพราะดันทะลึ่งไปมีเซ็กส์ในที่ต้องห้าม (อย่างข่าวจุดประกายเรื่องจิ๋มล็อกที่ฝรั่งหนุ่มสาวจิ้มกันในน้ำไงล่ะ) พอเห็นคนก็ตกใจ น้องหนูเลยเกิดอาการหดเกร็งกะทันหัน ผลคือล็อกซะแน่นเลยจ้า

มาถึงวิธีจับแยกกันดีกว่า มาดามขอร่ายแบบสั้นๆ กระชับๆ เลยว่า ถ้าเมื่อไหร่เกิดอาการล็อกขึ้นมา จงอย่าผลีผลามงัดมันออกมาโดยพลการ เพราะมีมาแล้วที่พอล็อกปั๊บก็เกิดอายแถมยังใจร้อน จึงทำทุกทางให้หลุดออกจากกัน ผลคือได้เลือดค่ะ ซึ่งเลือดที่ได้มาจากแผลฉกรรจ์ด้วยนะจ๊ะ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าแผลเกิด ไม่ใช่เขาที่เจ็บหนักเพราะอย่างมากก็แค่ห้อเลือดบวมเป่ง แต่น้องหนูของสาวๆ นี่แหละช้ำสุด

สิ่งพึงทำคือ ตั้งสติ เพื่อให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายในจิตใจ ถือซะว่าได้นั่งคุยกันเบาๆ พอใจเริ่มนิ่ง อาการหดเกร็งก็จะค่อยๆ คลายลง เปอร์เซ็นต์การหลุดก็จะมีมากขึ้น นี่จึงเป็นทางรอดเบื้องต้นที่คู่รักจิ๋มล็อกพึงลองก่อน  แต่ถ้าตั้งสติมั่นเท่าไหร่ก็ไม่คลาย จงอย่าอายแล้วพากันมาห้องฉุกเฉินซะดีๆ ให้คุณหมอช่วยฉีดยาคลายกล้ามเนื้อที่น้องสาว (ย้ำว่าฉีดที่น้องสาว) ส่วนว่าต้องวางยาสลบช่วยหรือไม่นั้น มาดามไม่อาจตอบได้ เพราะบางแหล่งข้อมูลก็ว่าวางทั้งคู่เพื่อช่วยให้ใจสงบ แต่บางแหล่งข้อมูลบอกว่าไม่จำเป็น

สุดท้ายที่มีคนถามมาดามมาก็คือ เกิดได้กับใครบ้าง มีอาการเตือนหรือเปล่า อ่านตามดีๆ นะจ๊ะ…อาการนี้มักเกิดขึ้นกับสัตว์ เช่นสุนัข แต่สำหรับมนุษย์อย่างเราๆ อาการจิ๋มล็อกเกิดได้กับทุกคน โดยไม่มีอาการนำร่อง เพราะต้นตออยู่ที่จิตใจเป็นหลัก ฉะนั้นถ้าจะให้ดี ว่างๆ สาวๆ ขมิบช่องคลอดไว้บ้างก็ช่วยให้ความเสี่ยงน้อยลง เพราะถือเป็นการเอ็กเซอร์ไซส์น้องสาวให้มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงไว้เสมอ ถ้าทำได้ รับรองว่าเปอร์เซนต์การเกิดอาการจิ๋มล็อกแทบจะไม่มี แถมน้องสาวยังกระชับนำความสุขมาให้คุณทั้งคู่อีกด้วย

เรื่อง : Madam Hong Hern

ภาพ : www.medicaldaily.com

เอาอีกแล้วค่ะคุณขา….คนรอบตัวมาดามเนี่ย ช่างสรรหาเรื่องราวสไตล์ เซ็กส์ มาให้มาดามได้คิดอีกแล้ว ทีแรกว่าจะเขียนภาคต่อของเรื่องถุงยางให้อ่านกัน แต่เพื่อนดี้สายด่วนโทรเข้ามาขอคำปรึกษาแบบเหนียมๆ ซะก่อน มาดามจึงขออนุญาตตัวเองลัดคิวทองถือโอกาสนี้ช่วยเพื่อนคิดปัญหาของนางก่อนนะคะ

เรื่องของเรื่องคือนางมีความอยากค่ะ ก็จะอยากอะไรล่ะค่ะนอกจากอารมณ์กับเรื่องอย่างว่า แต่นางไม่รู้ว่าจะบอกแฟนว่ายังไงดีเพื่อให้เขาสนองความต้องการให้โดยไม่มองว่านางไม่เป็นกุลสตรี (ไม่รู้จะคิดมากทำไม ในเมื่อเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ ว่าไหม) ลองมาดูวิธีที่มาดามแนะนำเพื่อนสาวดูนะคะ เผื่อคุณรู้สึกแบบเธอขึ้นมาจะได้หยิบทริคนี้ไปใช้ได้ทันอารมณ์พีค

1. เช็คสติของเขาก่อนค่อยเลือกวิธี

ก่อนจะเลือกวิธีบอกเขาว่าคุณกำลังอยากมีเซ็กส์ต้องดูก่อนว่า อารมณ์ที่ว่าเกิดขึ้นตอนที่อีกฝ่ายมีสติหรือหลับใหลอยู่ เพราะตอนมีสติเนี่ยเขาจะรับรู้ความต้องการของคุณได้ง่ายกว่าอยู่แล้ว จะใช้วิธีไหนก็ดูจะมีลุ้นมากกว่า แต่ถ้าเกิดเขาหลับใหลอยู่ แล้วคุณสะกิดอาจมีเหวี่ยงขึ้นมาได้ ก็แหม คนกำลังพัก ดันมาปลุกซะได้ ตรงจุดนี้จึงต้องเช็คก่อนนะคะ

2. ลงมือก่อนไม่เห็นแปลก

ทีนี้ถ้าเขาสติเต็ม มาดามขอให้เริ่มต้นด้วยวิธีเบาๆ อย่างการเข้าไปนัวเนียดูก่อน เช็คดูสิว่าเขาสานต่อหรือเปล่า ถ้าสานต่อก็แสดงว่าการเริ่มต้นด้วยตัวเองประสบผลโดยไม่ต้องเอ่ยปาก ในกรณีที่เขาหลับอยู่ คุณก็เริ่มได้แต่ไม่ใช่จู่โจมตึงตังเดี๋ยวเขาจะหัวใจวายซะก่อน ค่อยๆ สัมผัสแบบเล่นปูไต่ให้เขาค่อยๆ รู้สึกตัว เน้นในจุดที่มั่นใจว่าปลุกอารมณ์ให้เขากระเจิงได้ รับรองไม่ผิดหวัง

3. ใช้คำพูดช่วยปลุกปั่น

แต่ถ้าเกิดนัวเนียก็แล้ว แทบจะใช้กำลังก็แล้ว เขาก็ยังนิ่งแบบไม่เข้าใจในท่าที ลองเปลี่ยนมาแหย่ด้วยการใช้คำพูดเชิญชวนดูไหม แต่ต้องพูดแบบทีเล่นทีจริง ติดสองแง่สองง่ามสักหน่อย ทะลึ่งนิดๆ ให้เขาได้คิดตาม ได้เอะใจสักหน่อย ซึ่งถ้าจะพูดก็ต้องกล้านะจ๊ะ เปล่งเสียงชัดถ้อยชัดคำไปเลยจะได้ตรงจุด ซึ่งคำศัพท์เฉพาะคำไหนที่เหมาะกับคู่ของคุณคงต้องบอกว่า ควรเลือกคำที่คุณทั้งคู่รู้กันสองคนและสามารถสื่อความหมายได้ตรงความต้องการว่าเรามามีเซ็กส์กันเถอะ อะไรทำนองนั้น

4. แสดงความต้องการอย่างจริงใจ

ถ้าลงมือเองก็ไม่ได้เรื่อง พูดอ้อมก็ยังไม่เกิดอะไร สิ่งพึงทำคือจงแสดงความต้องการแบบตรงไปตรงมากับเขาไปเลยค่ะ แต่จะต้องแสดงในช่วงจังหวะที่เขาอารมณ์ดีเพื่อให้เขารู้สึกว่าไม่ได้ถูกเรียกร้องมากเกินไปหรือเป็นการกล่าวหาว่าเขาทำหน้าที่แฟนได้ไม่สมบูรณ์ แต่เป็นการบอกเพื่อให้เข้าใจว่าบางครั้งคุณเองก็มีความต้องการเหมือนกัน และของแบบนี้ไม่ใช่เรื่องผิด ไม่ใช่เรื่องน่าอาย เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนที่อยากแสดงออกซึ่งความรักในรูปแบบต่างๆ ต่อกัน

ลองดูนะคะ ถ้าคุณเกิดอยากมีเซ็กส์กับคนที่รัก ไม่จำเป็นต้องเก็บกดมันเอาไว้ แต่อย่าลืมดูองค์ประกอบต่างๆ อย่างที่มาดามว่าไปแล้ว ได้ผลยังไงบอกกันบ้างนะคะ

เรื่อง : Madam Hong Hern

ภาพ : http://www.gistmill.info