4 คำถามสุดฮิตที่บ่าวสาวอยากได้คำตอบก่อนตัดสินใจจ้างช่างภาพเวดดิ้งคิวทองค่าตัวเหยียบแสน เราหาคำตอบมาให้แล้ว ซึ่งแน่นอนว่า จะเป็นคำตอบสวยๆ จากใครไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ 4 ช่างภาพเวดดิ้งค่าตัวเหยียบแสนทั้ง 4 ท่านต่อไปนี้
หมายเหตุ : เรียงลำดับการสัมภาษณ์ตามตัวอักษรภาษาอังกฤษ ไม่ได้เรียงตามราคาหรือฝีมือนะจ้ะ
คุณอาร์ม-จักร์กวินทร์ ภู่สวาสดิ์ จาก JAKAWIN PHOTOGRAPHY
แพงจัง ดีจริงเหรอ เว่อร์ไปรึเปล่า?
“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแพงหรือปล่าว แต่ถ้าเทียบกับช่างภาพต่างประเทศแล้ว ราคาของเราก็ถือว่าเป็นราคามาตรฐาน ซึ่งถ้าจะถามว่าแพงเพราะอะไร คงแพงด้วยวิธีการทำงานที่พิถีพิถันและคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้คุณ เราเน้นเก็บอารมณ์ ความรู้สึก เราทำงานแบบมืออาชีพ นับตั้งแต่ก่อนวันงานที่เราจะมีการศึกษาลำดับงานของคุณอย่างละเอียด ความต้องการของบ่าวสาว ประชุมทีมเพื่อมองปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้และหาแผนอุดรอยรั่วไว้ก่อน เมื่อถึงวันงานจะมอบหมายหน้าของทีมงานอย่างเป็นระบบ แต่ละคนแตกต่างกัน มีช่างภาพส่วนตัวให้กับทางผู้ใหญ่โดยเฉพาะ เราพยามยามสร้างบรรยากาศในงานให้มีความสุขแล้วค่อยเก็บภาพ เพราะภาพความรัก ความอบอุ่น อ้อมกอด รอยยิ้มหยดน้ำตา คือทุกความประทับใจที่เกิดขึ้นในเวลาไม่กี่วินาที และไม่สามารถย้อนกลับมาได้ ผมและทีมงานจึงต้องพร้อม เพื่อผลิตผลงานในวันสำคัญของคู่บ่าวสาวให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดครับ ซึ่งถามว่าดีไหมที่คุณจ้างในราคาสูง แล้วได้สิ่งนี้กลับไป ผมว่าลูกค้าน่าจะเป็นคนที่ตอบได้ดีที่สุดนะครับ
“ฉะนั้นถ้าบ่าวสาวสงสัยว่า คุ้มไหมเนี่ยถ้าจ่ายไปขนาดนั้น ผมว่า ความรู้สึกคุ้มไม่คุ้มขึ้นอยู่กับคนที่เคยใช้ครับ ผมอยากให้ทุกคู่ที่สนใจจะจ้าง JAKAWIN ลองถามเพื่อนถามคนที่เคยใช้ ว่าสิ่งที่ได้กลับไปมันคุ้มจริงไหม นั่นน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดครับ”
จ่ายแพงขนาดนั้น แปลว่างานนี้ไม่มีคำว่าพลาดใช่ไหม
“ไม่มีใครอยากให้งานที่ทำออกมาด้วยความตั้งใจมีคำว่าพลาดแน่นอนครับ ยอมรับว่า ในช่วงแรกๆ ของการเข้ามาทำงานด้านนี้มีงานพลาดเกิดขึ้นบ้าง เพราะเรายังอ่อนประสบการณ์จึงเกิดข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ขึ้นมาให้ทีมงานปวดหัว แต่ทุกครั้งเราแก้ไขได้เสมอ และเป็นทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งนั่นกลายมาเป็นบทเรียนที่ทำให้เรานำมาปรับปรุงทีมงานและตัวผมเอง บางทีความพลาดที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องที่เราคาดเดาไม่ได้ เป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้าจริงๆ เช่นตอนที่ไปถ่ายพรีเวดดิ้งที่ปารีสแล้วกล้องหายในวันสุดท้ายของการทำงาน เราชะล่าใจคิดว่าการเก็บกล้องไว้ในรถแล้วไปกินข้าวใกล้ๆ จะไม่เกิดเรื่องไม่ดีขึ้น แต่ด้วยระบบการทำงานที่เราถ่ายภาพเสร็จแล้วแบคอัพงานเก็บไว้วันต่อวัน ทำให้ไฟล์ภาพที่หายไปแค่เฉพาะภาพในวันนั้น เราก็รับผิดชอบด้วยการถ่ายซ่อมให้ที่ประเทศไทย ฉะนั้นไม่ว่าความพลาดที่เกิดขึ้นมาเกิดด้วยเหตุผลอะไร ในความเป็น Jakawin Photography ยังคงการันตีคุณภาพว่า แม้จะเจอข้อพลาดเล็กๆ น้อยๆ ในวันงาน แต่สุดท้ายแล้วรูปที่คุณได้นั้น ภาพจะต้องแสดงถึงการถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกของบ่าวสาว หรือบุคคลที่อยู่ในรูปให้มากที่สุด”
ว่ากันว่าถ้าคุณไปถ่ายเองราคาจะต่างจากที่มีแค่ทีมงานมากกว่าเท่าตัวจริงไหม
“ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เงื่อนไขในการมีผมไปด้วยหรือไม่มีอยู่ 2 อย่างนะครับ อย่างแรกคือตัวผมเองคนเดียวสามารถรับงานได้เต็มที่วันละ 2 คิวคือ เช้ากับเย็น ซึ่งนั่นแปลว่าจองเมื่อไหร่ก็ได้ครับ ถ้าคิวว่างคุณก็ได้คิวผมไปเลย ตราบใดที่ไม่มีคนมาแทรก เพราะถ้าคุณมาช้า คุณก็อดเพราะผมมีแค่ตัวคนเดียว (หัวเราะ) จะแต่งพรุ่งนี้โทรมาวันนี้ก็ได้ ถ้าผมยังว่างอยู่ แต่จะเสี่ยงไหม ถ้าเราตัดความเสี่ยงด้วยการจองเร็วยิ่งดี เพราะถ้าในวันเดียวกันมีคนจองไปแล้วทั้งสองคิว ผมก็ไม่สามารถไปถ่ายภาพให้ได้จริงๆ หลังจากนั้นอยู่ที่ว่าบ่าวสาวจะเปลี่ยนไปใช้ทีมอื่นหรือยังคงใช้ทีมงานจากเราโดยไม่มีผม ซึ่งก็จะเข้าสู่เงื่อนไขอีกข้อคือ บ่าวสาวบางคู่ชื่นชอบและชื่นชมในคุณภาพงานของทีมเรา แต่งบประมาณไปไม่ถึง ก็สามารถเลือกใช้งานเฉพาะทีมงานของเราได้โดยไม่ได้มีผม และผลงานทุกชิ้นต้องผ่านการการันตรีจากผมทุกครั้ง ซึ่งข้อนี้สำคัญมากครับ คู่บ่าวสาวอาจจะมองว่าคุณภาพงานจะดีไหม แน่นอนครับผมตรวจผลงานทุกชิ้น ก่อนส่งถึงมือบ่าวสาว เพื่อทำให้บ่าวสาวเชื่อใจได้ว่างานทุกงานมีคุณภาพแน่นอนครับ
“ส่วนในเรื่องราคาคงต้องบอกว่า เรามีหลากหลายราคาให้ลูกค้าเลือกจะดีกว่า เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่า เราต้องการซัพพอร์ตความต้องการของลูกค้าที่ไว้ใจและชื่นชอบในงานของเรา จึงมีการปรับราคาต่างๆ กัน คือ วันงานแต่งงานถ้าจ้าง Jakawin Photography จะมีช่างภาพนิ่งไปทั้งหมด 5 คน รวมผมด้วย และผู้ช่วยช่างภาพ 2 คน ในราคา 120,000 บาท ต่อคิวงาน 6 ชั่วโมง แต่ถ้าไม่มีผมไป เราจะใช้ชื่อ BOX WEDDING ราคาอยู่ที่ 55,000 บาทและ ถ้าสุดท้ายแล้วงบประมาณคุณมีไม่มากแต่ต้องการมาตรฐานการทำงานและภาพจากเราจะอยู่ที่ ช่างภาพ 2 คน ในราคา 33,000 บาท”
ในระดับราคาและช่างภาพเกรดเดียวกัน จะตัดใจเลือกจ้างคนไหนดี คุณมีคำแนะนำไหม
“เริ่มต้นที่การนัดเจอช่างภาพก่อนเลยครับ เพราะเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด การมานั่งคุยกัน คุณจะได้เห็นหน้าค่าตา ลักษณะการพูดจาของทีมงานว่าคลิกกันไหม เคมีตรงกันหรือเปล่า ไม่ใช่แค่ดูรูปอย่างเดียวแล้วยกหูจองเลย แบบนั้นพลาดมาเยอะแล้วครับ และถ้ารู้สึกยังไม่คลิก ไม่ต้องจองครับ เชคเรื่องนี้ก่อนค่อยตัดสินใจ อันนี้ผมไม่พูดถึงผลงานนะครับ จากนั้นขอแนะนำให้บอกความต้องการของคุณไปเลยว่าต้องการอะไร สิ่งที่กังวลมีอะไรบ้าง เค้าทำในสิ่งที่คุณต้องการได้หรือปล่าว เพราะมุมมองช่างภาพและลูกค้าต่างกัน ถ้าความรู้สึกหลังพูดคุยเข้ากันได้ ผมว่าช่างภาพคนนั้นแหละคือ คำตอบของคุณครับ”
บอกกันชัดๆ ตรงนี้เป็นการปิดท้าย เผื่อจะมีอีกหลายคนที่สับสนว่า เจ้าของแบรนด์ Jakawin Photography มีชื่อเล่นว่าอะไรกันแน่ เฉลย…คุณอาร์ม-จักร์กวินทร์ ภู่สวาสดิ์ นะจ้ะ ส่วนรูปร่างหน้าตาก็…ตามภาพเลยจ้ะ
บทสัมภาษณ์ คุณนุก NARAKORN PHOTOGRAPHY อยู่ที่หน้าถัดไปค่ะ