ฤกษ์แต่งงาน ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญของว่าที่บ่าวสาวทั้งไทยและจีน เพราะพอลั่นวาจาว่าจะแต่งงานกันแล้วนะ พ่อแม่ญาติพี่น้องของทั้งสองฝ่ายต่างก็พากันยกโขยงไปหาเกจิอาจารย์ชื่อดัง หรือซินแสที่ครอบครัวเคารพนับถือเพื่อหาฤกษ์ดีอันเป็นมงคล ซึ่งน้อยครั้งนักที่คู่บ่าวสาวจะลงไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง จนบางครั้งก็ทำให้เกิดคำถามในใจว่า แล้วการไปดูฤกษ์แต่งงานนั้นต้องใช้อะไรบ้าง แพรว wedding เลยจัดข้อมูลมาให้บ่าวสาวได้รู้เผื่อจะได้เตรียมตัวไปหาฤกษ์ดีกันด้วยตัวเอง
ตามแบบฉบับการหาฤกษ์แต่งงานของคนไทยก็จะเหมือนเวลาที่เราไปดูดวงกันตามปกติ คือต้องใช้
- ชื่อ-นามสกุลของว่าที่บ่าวสาว
- วัน เดือน ปีและเวลาตกฟาก (เวลาเกิด) ของว่าที่บ่าวสาว
- ช่วงระยะเวลาที่ต้องการจัดงานแต่งว่าเป็นวันไหน เดือนไหน ปีไหน
ส่วนการหาฤกษ์แต่งงานแบบจีนนั้นก็จะมีรายละเอียดมากกว่าแบบไทยเล็กน้อย ซึ่งควรเตรียมข้อมูลให้ซินแสดังนี้
- ชื่อ-นามสกุลของว่าที่บ่าวสาว (ถ้ามีชื่อจีนให้แจ้งด้วย)
- วัน เดือน ปี เกิดของว่าที่บ่าวสาว
- วัน เดือน ปี เกิดของพ่อแม่บ่าวสาว (เฉพาะผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่)
- สถานที่ประกอบพิธีแต่งงาน เช่น บ้าน โรงแรม
- ทิศของหลังบ้านและหัวเตียง
- ช่วงระยะเวลาที่ต้องการจัดงานแต่งว่าเป็นวันไหน เดือนไหน ปีไหน
นอกจากนี้ หมอดูหรือซินแสบางท่านบางสำนักอาจขอข้อมูลเพิ่มเติม เช่น สถานที่เกิดของว่าที่บ่าวสาว อาชีพปัจจุบัน หลังจากแต่งงานแล้วจะอยู่ด้วยกัน หรือว่าใครจะย้ายเข้าบ้านใคร รวมถึงว่าทั้งคู่ต้องการมีลูกด้วยหรือไม่ เป็นต้น
หลังจากเตรียมข้อมูลดังกล่าวเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาเตรียมสิ่งของค่ะ ซึ่งของที่จะขาดไม่ได้เลยสำหรับการหาฤกษ์แต่งงาน (ถ้าขาดไปนี่ไม่ต้องไปดูฤกษ์เลยนะ!) ก็คือ “เงิน” ค่ะ บางที่ก็เรียกค่าบูชาครูหรืออะไรก็ตามแต่ โดยอัตราค่าบริการอยู่ที่ฟรี (พระบางท่านก็ใจดีไม่คิดเงินนะ) ไปจนถึงหลักหลายร้อยหลายพันบาทแล้วแต่สำนัก ใครสะดวกสบายใจจะไปสำนักไหนก็เช็คราคากันให้ดี บางที่อาจมีค่าใช้จ่ายมากกว่าการหาฤกษ์ เช่น เพิ่มเงินเพราะเป็นคู่ที่หาฤกษ์แต่งงานยาก ค่าแก้เคล็ดดวงชงหรือดวงไม่สมพงษ์กัน แบบนี้เป็นต้น
สิ่งต่อมาที่ต้องเตรียมก็คือ “ปากกา” และ “กระดาษจด” เพื่อไม่ให้หลงลืมสิ่งสำคัญ ซึ่งบางสำนักก็มีเจ้าหน้าที่นั่งฟังกับเราและช่วยจดด้วย แต่สำหรับใครที่กลัวจดไม่ทัน แนะนำให้เปิดแอพลิเคชั่นอัดเสียงในมือถือไปเลยค่ะ รับรองว่าเป๊ะทุกคำพูด ไม่มีตกหล่นแน่นอน
เรื่องสุดท้ายที่เราอยากให้ว่าที่บ่าวสาวจำและตระหนักไว้เสมอก็คือ บางครั้งฤกษ์แต่งงานที่ได้มาอาจจะไม่ตรงกับวันที่เราต้องการเสมอไป บางคนไม่สะดวก บางคนตรงกับวันหยุดและจะไม่มีแขกมา บางคนติดภารกิจการงานใหญ่หลวง แต่ยังไงตามอย่าเพิ่งนอยด์กันไปนะคะ มองดู “ฤกษ์สะดวก” ตามคำของพระที่ท่านว่า “ฤกษ์สะดวก คือฤกษ์ที่ดีสุด” แบบนี้น่าจะโอเคกว่าเนอะ
แต่ถ้าใครยังไม่มีคู่ ต้องไปตามไปอ่านกันด่วนๆ >>> 3 ความเชื่อเรื่องเนื้อคู่ ทำตามนี้รับรองสละโสดบอกเลิกคานชัวร์
ข้อมูล : astroneemo.net, fengshuitown.com