รวมพิกัด 24 สถานที่ฮันนีมูนเหนือความคาดหมาย

9. ก้อนหินอูลูรู, ประเทศออสเตรเลีย

9

จุดหมายปลายทางสำหรับคู่รักที่ชื่นชอบทะเลทราย ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ภูเขาขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า Ayers Rock หรือเรียกสั้นๆ ว่า The Rock ด้วยความที่ตั้งอยู่นอกเมือง ทำให้คุณได้ซึมซับบรรยากาศและเรียนรู้วิถีชีวิตชนบทอันห่างไกลของออสเตรเลียได้อย่างสมบูรณ์

การพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ระหว่างมื้อค่ำท่ามกลางหมู่ดาวระยิบระยับ พร้อมนั่งเฮลิคอปเตอร์ชมวิวก้อนหินขนาดยักษ์ในมุมสูง รวมถึงชมแสงแดดลอดผ่านช่องใกล้กับหลุม Mutitjulu Water และชมภาพวาดในถ้ำที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ท้องถิ่น คือสิ่งที่คุณต้องทำ

10. เมืองคาราเตีย, สาธารณรัฐคอสตาริกา

10

คาราเตีย คือสถานที่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติ Corcovado อีกทั้งคุณยังสามารถไปสำรวจป่าฝนและดำน้ำแบบ Scuba ได้ง่ายๆ เพียงแค่นั่งเรือเพื่อข้ามไปยังเกาะ Caño

โดยเริ่มต้นเช้าแสนสุขด้วยการเล่นโยคะหรือถ้าอยากออกกำลังกายเยอะหน่อยก็สามารถเลือกไต่เขาไปยังน้ำตกใกล้ๆ เพื่อเล่นน้ำได้ รวมถึงการไปดำน้ำลึกที่เกาะ Caño ซึ่งคุณจะได้รับใบรับรองหลังจากดำน้ำเสร็จด้วย ทั้งนี้ขอแนะนำให้คุณเลือกทำกิจกรรมนี้เป็นอย่างแรกเพื่อที่จะได้ประหยัดเวลาไปทำอย่างอื่นนั่นเอง

11. เมืองควีนทาวน์, ประเทศนิวซีแลนด์

11

เมืองสวยๆ อย่าง ควีนทาวน์ ถือว่าเป็นจุดหมายปลายทางในฝันสำหรับคู่รักที่ชื่นชอบการผจญภัย เพราะมีป่าขนาดใหญ่ที่รอคอยให้คุณและคนรักออกไปสำรวจพร้อมกัน

ขอให้คุณเตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปปล่อยสิ่งที่อยู่ในหัวออกมาให้หมดด้วยการโดดบันจี้จัมพ์ที่ความสูง 43 เมตร บนสะพาน Kawarau หลังจากที่อะดรีนาลีนหลั่งเรียบร้อยแล้ว ก็ต่อด้วยการปีนเขาที่ Routeburn ต่อเลย

12. ลา ริโอคา, ประเทศสเปน

12

การลิ้มรสไวน์โลกใหม่กับมื้ออาหารสุดพิเศษคือวัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่คุณและคนรักไม่ควรพลาด พร้อมไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมไวน์ Vivanco ที่ก่อตั้งโดยช่างทำไวน์ชื่อดัง Pedro Vivanco กับลูกชายทั้งสอง เพราะคุณจะได้ชมคอเล็กชั่นที่เปิดขวดไวน์ รวมไปถึงขวดไวน์ที่ถือกำเนิดมาตั้งแต่ยุคโรมันไปจนถึงขวดที่ออกแบบฉลากโดยจิตรกรชื่อดังอย่าง Picassos ต่อด้วยการรับประทานอาหารกลางวันท่ามกลางวิวสวนองุ่นที่ Museum’s café แต่ถ้าคุณคิดว่าการดื่นไวน์ยังไม่สนองนีดคุณมากพอ ลอกมาทำทรีทเมนต์ด้วยไวน์ที่สปา Caudalíe Vinothérapie Spa ในโรงแรม Marqués de Riscal สิจ๊ะ เพราะทุกอย่างจากที่นี่เขาทำมาจากองุ่นทั้งสิ้น

13. ประเทศแทนซาเนีย

13

ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกาคือถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมากกว่า 25,000 สายพันธุ์ท่ามกลางทัศนียภาพแสนสวยของ Ngorongoro Crater สีเขียวขจี ที่เกิดจากการทรุดตัวของภูเขาไฟเมื่อกว่า 2 ล้านปีมาแล้ว

หลังจากคุณใช้เวลาทั้งคืนไปกับปาร์ตี้สุดเหวี่ยงที่ Arusha ขอให้ไปผ่อนคลายที่ Manyara โดยระหว่างทางต้องไม่พลาดที่จะเตรียมกล้องมาถ่ายภาพฝูงยีราฟ Masai จากนั้นเดินทางไปที่ Serengeti เพื่อร่วมทริปสุดคลาสสิก อย่างการนั่งรถชมซาฟารีที่ Ngorongoro Crater พร้อมจิบไวน์และชมแรดดำได้อย่างเต็มตา

14. ฮ่องกง, ประเทศจีน

14

หากคุณและคู่ชีวิตจะชื่นชอบวัฒนธรรมและความสมบูรณ์ของแหล่งช็อปปิ้งและร้านอาหารอันหลากหลาย ฮ่องกง ถือว่าเป็นคำตอบที่เหมาะกับคุณแบบสุดๆ ทั้งนี้ต้องไม่พลาดนั่งรถรางขึ้นไปยอด Victoria Peak เพื่อชมวิวเมืองที่สวยที่สุดจากจากบน Peak Tower หรือนั่งเรือ Star Ferry ที่ Tsim Sha Tsui เพื่อชมเมืองโดยรอบ แต่ถ้าคุณอยากได้บรรยากาศแบบจีนดั้งเดิมต้องไปชมที่หมู่บ้านชาวประมง Tai O ซึ่งเป็นหมู่บ้านดั้งเดิมที่ยังทำบ้านจากไม้

15. เคปทาวน์, ประเทศแอฟริกาใต้

15

หากคุณนึกถึงสถานที่ที่มีกิจกรรมที่ดูผาดโผนขอแนะนำให้ไป เคปทาวน์ เพราะที่นี่คือคำตอบที่ลงตัวอย่างยิ่งสำหรับคุณ ไม่ว่าจะเป็นการเดินตามหาสัญลักษณ์ชื่อดังอย่าง Table Mountain หรือภูเขาที่มีรูปร่างแบนบริเวณด้านบนคล้ายโต๊ะ หรือการนั่งรถไปยัง Stellenbosch เขต Cape Winelands เพื่อชมสถาปัตยกรรมแบบ Cape Dutch รวมถึงไร่องุ่น และดำน้ำเคียงคู่กับนกแพนกวินที่หาด Boulders เป็นอันขาด

16. เมืองแอลการ์, ประเทศโปรตุเกส

16

สิ่งที่ทำให้ชายหาดแห่งนี้ดูคึกคักอยู่ตลอดเวลาคือ น้ำทะเลสีฟ้าเข้ม และหน้าผาสูงตระหง่านที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ดูแล้วโรแมนติกแบบสุดๆ พร้อมเช่าเรือยอร์ชไปยัง Arte Náutica และลองลิ้มชิมรส MozambiqueTtiger Prawns ที่ร้านอาหารริมทะเลอย่าง Armação de Pera หรือจะใช้เวลาเดินเล่นในสวนส้ม มะกอก และไร่องุ่นขนาด 1,465 ไร่ เพื่อรับกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ที่ Herdade dos Grous

Recommended