ยินดีด้วยค่าคุณว่าที่เจ้าสาว^^ หลังจากคุณตอบเซย์เยสกับเหตุการณ์ ขอแต่งงาน ในวันนั้น หลังจากนั้นล่ะคุณควรเริ่มทำอะไรบ้างหน่ะหรอ?
กำลังอิ่มเอมใจกับโมเม้นต์ในวันนั้นอยู่ใช่ไหมคะ งั้นแพรว wedding จะมาเรียกสติให้คุณเอง กับ 9 สิ่งแรกที่คุณต้องทำหลังจากถูก ขอแต่งงาน งานนี้คุณว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องเริ่มเตรียมตัวเรื่องอะไรบ้าง หรือช่วงนี้ควรจะปล่อยชิลไปก่อนดี แต่ที่แน่ๆ ก่อนที่คุณจะเริ่มอัพโซเชียลกระจายข่าวสารการแต่งงานของพวกคุณ มาดูกันก่อนดีกว่า 9 สิ่งที่คุณควรทำก่อนจะเริ่มวางแผนจัดงานแต่งงานอย่างจริงจังนั้นต้องทำอะไรกันบ้าง ไม่เช่นนั้นจะแอบเสียใจภายหลังไม่รู้ด้วยน้า อิอิ
1. ฉลอง!
มันต้องฉลองสิคะถูกขอแต่งงานทั้งที ก่อนที่คุณจะบอกกับครอบครัวและเพื่อนๆ ใช้เวลาสักครู่กับว่าที่คู่แต่งงานของคุณ อาจจะเลือกไปบาร์ที่คุณชื่นชอบ เชียส! แก้วแชมป์เปญฉลองกันพอเป็นพิธี และควรเก็บเกี่ยวช่วงเวลาดีๆ นี้ไว้ร่วมกันสองคนก่อนนะคะ เพราะวันข้างหน้ายังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่คุณทั้งคู่จะได้เหนื่อยกับการเตรียมงานนี้แน่!
2. เซตวันที่
เมื่อคุณพูดคุยเกี่ยวกับงานแต่งงานของคุณให้คนอื่นได้รับรู้แล้ว คาดว่าต้องมีคำถามอีกมากมายที่คุณต้องโดนถามแน่ๆ รวมทั้งคำถาม เมื่อไหร่คุณจะได้ฤกษ์แต่งงาน? รีบไปหาฤกษ์และเปิดเผยโดยเร็ว แล้วมาแจ้งทุกคนทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณต้องการจัดงานแต่งงานในช่วงเวลาที่เป็นที่นิยมของปี อย่างเช่น ปลายปีหรือในวันหยุดแบบนี้ต้องรีบล็อคคิวเพื่อนของคุณไว้ รวมไปถึงเรื่องการจองสถานที่ คิวช่างภาพ คิวช่างแต่งหน้า-ทำผม ที่ต้องจองกันล่วงหน้ายาวๆ เลย
3. แชร์ข่าว
ด้วยความตื่นเต้นคุณอาจจะรีบบอกข่าวดีนี้ให้กับทุกคนได้รับรู้ โดยเฉพาะคนสนิท แต่ขอแนะนำว่าไม่ควรอัพปุ๊บปั๊บลงโซเชียลเดี๋ยวนั้นเลย ทำตามประเพณีกันสักหน่อย เริ่มจากการที่ทั้งคู่ควรพากันไปกราบคุณพ่อคุณแม่ขอทั้งสองฝ่าย บอกกล่าวท่านสักหน่อย ส่วนเพื่อนฝูงคนสำคัญอื่นๆ ให้ใช้การโทรบอกหรือจะ Facetime ก็ได้ อย่าทำให้พวกเขารู้สึกน้อยใจว่าได้มารู้ไปพร้อมๆ กับทุกคน เหมือนกับว่าเขาไม่ใช่คนสนิทของคุณยังไงยังงั้น หลังจากที่คุณได้บอกทุกคนอย่างส่วนตัวแล้ว ทีนี้ก็จัดหนักจัดเต็มเซลฟี่แหวนโพสต์ลงโซเชียลกันได้รัวๆ เลยจ้า
4. จัดงานปาร์ตี้
เคยได้ยินคำว่าปาร์ตี้สละโสดไหมคะ? เป็นปาร์ตี้ที่ส่วนใหญ่มีแต่เพื่อนคนสนิทของเรา ทางด้านฝ่ายหญิงก็จัดปาร์ตี้กับกลุ่มเพื่อนของตัวเอง ฝ่ายชายก็เช่นกัน จัดกันให้เต็มที่สนุกสุดมันแบบไม่ต้องเกรงใจอีกฝ่ายมากนัก ปลดปล่อยเลยค่ะ จะแดนซ์จะดื่มหนักขนาดไหนจัดไปเล้ยยย เพราะหลังจากคุณเริ่มใช้ชีวิตคู่ คุณอาจจะต้องห่างไกลกับคำว่างานปาร์ตี้ไปเลยก็ได้น้า คิคิ
5. ประกันแหวนของคุณ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้พูดคุยกับตัวแทนประกันภัยเกี่ยวกับความคุ้มครองในกรณีที่แหวนเพชรวงโตเท่าไข่ห่านของคุณจำเป็นต้องได้รับการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่หรือเปล่า ก่อนอื่นให้ทำการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณีที่ได้รับการรับรอง ซึ่งส่วนใหญ่จะให้บริการนี้เมื่อคุณซื้อและแน่ใจว่าคุณเข้าใจเงื่อนไขทั้งหมดของทางร้าน ตรวจสอบว่าคุณจะได้รับความคุ้มครองหรือไม่ ถ้าหากแหวนสูญหาย ถูกขโมย หรือชำรุด และต้องมาเรียกร้องภายในกี่วัน ตรวจสอบให้ดีก่อนนะคะ อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้
6. ตั้งงบประมาณ
ก่อนที่จะตัดสินใจว่างานแต่งงานของคุณจะออกมาเป็นแบบไหน คุณต้องตั้งเงื่อนไขสิ่งที่คุณต้องสูญเสียให้กับงานนี้ก่อน นั่นคือ เรื่องงบประมาณที่เป็นสิ่งสำคัญมากๆ คุณทั้งคู่ต้องพูดคุยกันเกี่ยวกับลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในงาน ตั้งงบของสิ่งนั้นไว้คร่าวๆ ถามให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะพอใจหรือไม่กับค่าใช้จ่ายที่อยู่ประมาณนี้ แล้วหลังจากนั้นคุณทั้งคู่อาจไปพูดคุยกับครอบครัวของคุณว่าจะอยากมีส่วนร่วมในเรื่องงบประมาณหรือไม่
7. ร่างรายชื่อแขก
เมื่อตั้งงบประมาณเรียบร้อยแล้ว ให้พวกคุณทั้งสองลิสต์รายชื่อคนที่คุณจะเชิญมางานแต่งงาน เพราะบางครั้งการตัดสินใจว่าควรเชิญใครมาและไม่ควรเชิญใครมา อาจทำให้คุณเกิดสงครามกับครอบครัวได้ เช่น คุณพ่อคุณแม่ของคุณอาจจะเชิญเพื่อนของพวกท่านมาด้วย โดยที่คุณไม่ได้สนิทอะไรด้วยเลย และคิดว่างานนี้จะไม่เหมาะกับพวกผู้ใหญ่แน่ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ขอให้คุณใช้เหตุผลเรื่องภาวะการเงินในการจัดงานครั้งนี้เป็นเหตุผล ว่าอาจถึงกับให้พวกคุณล้มละลายเลยก็ได้ แค่นี้พวกผู้ใหญ่คงไม่กล้าจะขัดใจพวกคุณแล้วล่ะค่ะ
8. มโนภาพวาดฝันงานแต่งงาน
แสดงประเภทงานแต่งงานที่คุณทั้งสองต้องการ อาจเป็นการวาดฝันในวัยเด็กของคุณหรือเลือกรูปแบบงานแต่งงานที่สะท้อนถึงรสนิยมในตอนนี้ก็ได้ทั้งนั้นค่ะ เมื่อวาดฝันแล้วก็ให้นึกถึงความเป็นไปได้ในปัจจัยต่างๆ ด้วยนะคะ แม้คุณอาจจะอยากได้งานแต่งงานในห้องบอลรูมอันโอ่อ่า แต่ด้วยงบประมาณที่ไม่ได้มากมายสักเท่าไหร่ จึงทำให้ต้องเปลี่ยนมาเป็นพิจารณาถึงความเป็นได้อื่นๆ เช่น ในสวนหลังบ้าน ก็ให้บรรยากาศดีไม่แพ้กัน เช่นเดียวกับการเลือกธีมงานแต่งที่ยังมีปัจจัยเรื่องของสถานที่มาเกี่ยวข้อง
9. เลือกสถานที่
ตอนนี้คุณก็มีงบประมาณและรายชื่อแขกทั้งหมดแล้วก็ถึงเวลาที่คุณต้องเลือกสถานที่จัดงานแต่งงาน กุญแจสำคัญในการเลือกสถานที่ดีๆ คือ สถานที่นั้นควรที่จะกว้าง มองเห็นบรรยากาศได้ไกลก็จะยิ่งดีมาก ลองใช้ตัวเลือกในการเลือกสถานที่ให้แตกต่างกันไม่ใช่เฉพาะที่คุณคิดว่าต้องการสถานที่นี้เท่านั้น เพราะฤกษ์ของคุณที่ได้มาทางสถานที่ก็อาจจะไม่ว่างก็ได้น้า เพราะฉะนั้นควรมีแผนสำรองไว้กันเหนียวด้วยนะคะ เพราะคุณไม่มีทางรู้หรอกว่าจริงๆ แล้วคุณชอบอะไรที่สุดกันแน่
ส่วนทางด้านคุณผู้ชายที่ยังไม่ได้ขอสาวในดวงใจของคุณแต่งงาน ก็รีบๆ กันหน่อยน้า อย่าปล่อยให้เธอรอเก้อ เตรียมตัววางแผน เอ้ย หาข้อมูลไว้เลยว่าจะขอสาวทั้งทีต้องเตรียมอะไรกันบ้าง มาดูกันค่า หนุ่มๆ ต้องจำไว้ให้ขึ้นใจ เมื่อถึงวันขอแต่งงาน 4 อย่างนี้ ต้องมี!
เรียบเรียงข้อมูลจาก : marthastewartweddings.com
ภาพจาก : huffingtonpost.com, thespruce.com, pexels.com