จะประหยัดค่า การ์ดเชิญ ยังไงให้งบไม่บานปลายดีนะ?? … มาดูเคล็ดลับดีๆ จากเรากันเลยค่ะ
เพราะ การ์ดเชิญ เป็นเรื่องที่บ่าวสาวทุกคู่เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องออเดอร์มาใช้ในงานแต่งงาน แต่สิ่งที่เลี่ยงได้คือการจ่ายค่าการ์ดเชิญราคาสูงเกินจำเป็นค่ะ ซึ่งในเรื่องนี้ แพรว wedding ขอคอนเฟิร์มว่าประหยัดได้จริงแน่แท้ทรู ส่วนวิธีการจะมีอะไรบ้าง ลองไปดูเคล็ดลับพร้อมๆ กับเราทีละข้อเลยค่ะ
1. เลือกการ์ดเชิญแบบสำเร็จรูป
ถ้าคิดจะประหยัดขอให้มองการ์ดเชิญแบบสำเร็จรูปที่ดูแล้วเรียบง่ายสุดๆ ค่ะ ไม่เน้นความหวือหวาใดๆ เป็นการ์ดเชิญแบบที่เห็นๆ กันทั่วไป แต่มีหลายแบบให้เลือกโดยไม่ต้องเสียค่าออกแบบใหม่ เพราะทางร้านจะทำแบบไว้เรียบร้อยแล้ว คุณทำหน้าที่แค่จิ้มแบบการ์ดที่ชอบ แล้วเลือกกระดาษแบบที่ใช่ จากนั้นใส่รายละเอียดงานแต่งงานขอคุณลงไป แค่นี้ก็ได้การ์ดเชิญที่ราคาคุมได้แล้วค่ะ
2. เลือกการ์ดเชิญแบบแผ่นเดียว
อีกทางเลือกที่ช่วยให้การ์ดเชิญของคุณไม่ต้องมีราคาแพงเกินจำเป็นคือ การเลือกการ์ดเชิญแบบแผ่นเดียวแล้วใส่รายละเอียดไว้ทั้งสองด้าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการ์ดเชิญที่ว่านี้ต้องไม่มีรายละเอียดหรือเทคนิคพิเศษใดๆ นะคะ
3. พิมพ์การ์ดเชิญเองง่ายๆ
ทางออกของความประหยัดในข้อนี้อาจต้องลงทุนสักหน่อยในเรื่องของการซื้อเครื่องพิมพ์ที่มีประสิทธิภาพในการพิมพ์การ์ดเชิญแบบที่ชอบ รวมถึงหมึกพิมพ์และกระดาษที่ต้องคำนวณไว้แบบเผื่อๆ ซึ่งแม้จะดูว่ายุ่งยาก แต่หลายคู่ก็เลือกทางนี้ เพราะมีแผนในการใช้เครื่องพิมพ์ต่อไปในอนาคต นอกจากนี้หลังบวกลบทุกสิ่งแล้ว สิ่งที่ได้มากกว่าความประหยัดคือความภูมิใจในความทรงจำนี้ร่วมกัน
4. เลี่ยงการใช้การ์ดที่มีเทคนิคหรือวัสดุพิเศษทั้งหลาย
อย่างที่บอกไปแล้วการ์ดเชิญที่ดูเรียบง่ายจะช่วยประหยัดเงินมากๆ ฉะนั้นเทคนิคพิเศษประเภทที่มีการปั๊มฟอยด์ ปั๊มนูน ฉลุลายหรือใส่ของตกแต่งทั้งหลายทั้งผ้าลูกไม้ เชือกพัน เม็ดคริสตัล รวมถึงวัสดุพิเศษอย่าง อะคริลิคขอให้ตัดไป เพราะคือต้นทุนที่เพิ่มเข้ามาในการผลิตโดยไม่จำเป็นค่ะ
5. เชิญแขกบางส่วนผ่านทางเว็บไซต์ให้บริการส่งฟรี
เพราะธรรมเนียมการส่งการ์ดเชิญเป็นใบๆ ให้กับผู้ใหญ่สำหรับบ่าวสาวชาวไทยยังคงเลี่ยงไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ลดปริมาณการพิมพ์เท่าที่จำเป็นโดยใช้เทคนิคการพิมพ์เองแบบข้อ 3 ที่บอกไปแล้วเข้าช่วย ส่วนแขกที่เหลือ ซึ่งอาจเป็นคนสนิทวัยเดียวกันอย่างบรรดาเพื่อนๆ ก็ใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือเชิญแขกมางานแต่ง
6. ตรวจทานทุกอย่างให้ดี
วิธีการช่วยประหยัดอีกอย่างคือ ความรอบคอบก่อนเซย์เยสให้ทางร้านพิมพ์ หรือพูดง่ายๆ คือ ตรวจทานรายละเอียดทุกอย่างให้ดี อย่ามีที่ผิดจะได้ไม่ต้องพิมพ์แก้ เพราะนั่นหมายถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้เว้นเสียแต่ว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมาจากทางร้านหรือมีข้อตกลงกับทางร้านการ์ดว่าสามารถแก้ไขได้ (กี่ครั้งๆ ก็ว่าไป)
7. กรองรายละเอียดที่จำเป็นและใส่ไว้ในการ์ดใบเดียว
การอัดแน่นรายละเอียดทุกสิ่งลงไปในการ์ดเชิญอาจดูเหมือนว่าจะมากมายเกินไป ฉะนั้นคัดกรองสิคะ เลือกแค่ข้อมูลสำคัญที่แขกพึงรู้ โดยพยายามกระชับและให้ทางร้านการ์ดจัดอาร์ทเวิร์คออกมาให้ลงตัว อย่าหลงกลคำเชียร์ให้แบ่งข้อมูลย่อยใส่กระดาษเป็นชิ้นๆ หรือทำเป็นการเซ็ตเด็ดขาด ถ้างบไม่ถึงและอยากประหยัดเงินในกระเป๋า
8. ทำการ์ดเองแบบ DIY ด้วยวัสดุต้นทุนต่ำ
ถ้าเชิญแขกไม่มาก และมีเวลาทำการ์ดเชิญเองก็เป็นทางเลือกให้ประหยัดเงินในกระเป๋าได้นะคะ แต่ขอบอกสักหน่อยว่า ต้องวางแผนการทำการ์ดให้ดีๆ อย่าออกแบบให้ซับซ้อน โดยเฉพาะเรื่องวัสดุที่เลือกใช้ รวมถึงวิธีการผลิตที่ไม่ควรยากจนเกินไป เพราะนอกจากจะท้อแท้ก่อนทำเสร็จ บางทีต้นทุนอาจมากกว่าการสั่งพิมพ์ได้
9. ใช้การ์ดรูปทรงปกติ
บางคนฝันไกลว่าการ์ดแต่งงานของฉันต้องเป็นวงกลม วงรีหรือแบบสี่เหลี่ยมมุมมนสวย ถ้าคุณอยากประหยัด ตื่นจากฝันและหันไปหาการ์ดเชิญทรงสี่เหลี่ยมมุมแหลมทั่วๆ ไปค่ะ เพราะนอกจากการ์ดรูปทรงแปลกๆ จะมีต้นทุนที่แพงแล้ว บางแบบอาจทำให้ต้องจ่ายค่าซองเพิ่มเพราะมีขนาดแปลกว่าทั่วไป
10.สั่งการ์ดที่มีซองมาให้เสมอ
ปกติแล้วร้านการ์ดแต่งงานจะให้ซองคู่มาด้วยตามจำนวนการ์ดที่สั่ง แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีร้านการ์ดที่บวกเพิ่มราคาซองเข้าไปนะคะ ฉะนั้นคุณจึงควรเช็คให้ดีและมั่นใจว่าร้านการ์ดที่คุณสั่งทำมีซองมาให้ด้วยอยู่แล้ว
เคลียร์กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว! เขียนการ์ดเชิญงานแต่งไทยยังไงไม่ให้แขกงง
เรื่อง : ดอกปีบ
ภาพเปิด : www.pexels.com a a