พูดคุยกับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเพื่อ เจาะลึกถึง ทรีทเม้น ที่ช่วยแก้ปัญหาหลุมสิวและยกกระชับผิวสำหรับว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวโดยเฉพาะ
หนึ่งในปัญหาผิวหน้าที่กวนใจว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่กำลังจะเตรียมตัวเสริมสวยเสริมหล่อให้ทันวันวิวาห์ น่าจะหนีไม่พ้นปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่าที่เจ้าบ่าวที่มักจะมีปัญหาเรื่องรูขุมขนกว้างรวมทั้งรอยแผลเป็นจากสิว ยิ่งยุคสมัยนี้ที่กล้องถ่ายรูปมีความคมชัดระดับ HD ยิ่งพาลให้เราไม่มั่นใจที่จะเอาใบหน้าออกกล้องเพราะกลัวว่าถ่ายภาพออกมาแล้วหลักฐานความไม่เรียบเนียนจะปรากฏออกมาให้เห็น
แพรวเวดดิ้งไม่รอช้า รีบหาข้อมูลเกี่ยวกับทรีทเม้นที่จะช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียนให้กับว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาว จนในที่สุดเราก็ได้พบกับ คุณหมอโจ้ นพ.ดิสพงศ์ ปณิฐาภรณ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจาก เดอะ ดีมิส คลินิก ผู้ที่จะมาให้รายละเอียดเกี่ยวกับ อี เมทริกซ์ (E- Matrix) ทรีทเม้นที่จะช่วยให้ผิวหน้าทั้งเรียบเนียนและกระชับขึ้น มาดูกันเลยว่าเจ้าทรีทเม้นตัวนี้เป็นอย่างไร และถ้าเราสนใจอยากทำ เราควรจะต้องรู้อะไรบ้างนะ
Q: ทรีตเม้นต์ อี เมทริกซ์ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง และทำงานอย่างไร?
A: ทรีตเม้นต์นี้โดดเด่นเรื่องการรักษาหลุมสิว ช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน เหมาะกับการรักษารอยแผลเป็นจากสิวไม่ว่าจะเป็นแบบหลุมลึก (Pitted Scar) หรือหลุมกว้าง(Box Scar) ทรีตเม้นต์ อี เมทริกซ์ ทำงานโดยใช้คลื่นแสง RF ลงไปช่วยเจาะสลายพังผืดที่อยู่ในผิวชั้นใน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนมาปิดโพรงใต้ผิว และทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น
Q: ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผลเต็มที่ และควรทำก่อนวันแต่งงานนานเท่าไร?
A: ปกติแล้วจะแนะนำให้ทำ 3-5 ครั้ง และแต่ละครั้งควรห่างกันอย่างน้อย1-2 เดือน โดยรวมแล้วจึงใช้เวลาประมาณ 6-8 เดือน หากทำครบคอร์สจริงๆจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ถึง 80% ทีเดียว
Q: ผิวหน้าแบบไหนบ้างที่คุณหมอไม่แนะนำให้ทำ อี เมทริกซ์?
A: ที่จริงแล้วทำได้เกือบทุกสภาพผิว แต่ผิวที่เป็นผื่นแพ้หรือยังเป็นสิว อาจจะต้องเริ่มด้วยการทำทรีตเม้นต์รักษาสิวอย่าง Isolaz หรือทรีตเม้นต์เลเซอร์ V-Beam เพื่อให้ผิวแข็งแรงและลดอาการแพ้ก่อน เพื่อสร้างพื้นฐานผิวที่ดี เหมาะสำหรับการทำอี เมทริกซ์ ต่อไป
เอาละ หลังจากที่เรารู้แล้วว่า เจ้าทรีทเม้นตัวนี้มีหลักการทำงานอย่างไร มาดูกันดีกว่า ว่าขั้นตอนการทำ อี เมทริกซ์ ประกอบด้วยอะไรบ้าง ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่สนใจอยากไปทำจะได้เตรียมตัวถูกจ้า
ขั้นตอนการทำ อี เมทริกซ์
จะมีผู้เชี่ยวชาญมาทำความสะอาดผิวหน้าให้เราโดยการเช็ดเครื่องสำอางออกจนหมดจด แล้วจึงเริ่มทายาชาให้ทั่วบริเวณผิวหน้าโดยเน้นลงยาชาหนาเป็นพิเศษในจุดที่คุณหมอจะเน้น ทิ้งยาชาไว้ประมาณ 40-45 นาทีเพื่อรอให้ออกฤทธิ์เต็มที่ หลังจากนั้นผู้เชี่ยวชาญจะให้เราล้างหน้าด้วยสบู่สูตรอ่อนโยน 1 ครั้ง หลังจากเช้ดผิวหน้าให้แห้งจะต้องเป่าลมเย็นเข้าสู่ผิวหน้าเพื่อให้แน่ใจว่าผิวหน้าแห้งสนิทจริงๆ ไม่อย่างนั้นจะมีผลต่อการทำงานของเครื่อง อี เมทริกซ์ ความรู้สึก ณ ขณะที่ทำ จะรู้สึกร้อนผ่าวๆบนผิวหน้าส่วนที่คุณหมอใช้เครื่องมือนาบลงไปเพื่อยิงคลื่นแสง แต่ไม่เจ็บมาก
หลังจากการทำอี เมทริกซ์ และขั้นตอนการดูแลผิวหน้า
หลังทำเสร็จทันที ผิวหน้าอาจจะบวมและแดง เราแนะนำให้พกมาส์กหน้ากากไปด้วยเพื่อใส่ปิดหลังจากทำเสร็จแล้ว หรือขอจากพี่ผู้เชี่ยวชาญก็ได้นะ ซึ่งอาการบวมและแดงนี้จะค่อยๆหายไปเองไม่กี่ชั่วโมงหลังทำเสร็จ พี่ผู้เชี่ยวชาญจะมาอธิบายวิธีการดูแลผิวหน้าอย่างละเอียดให้เราฟังอีกครั้ง ซึ่งได้แก่ ห้ามให้ผิวหน้าโดนน้ำเป็นเวลา 24 ชั่วโมง หลังจากวันแรกที่ทำ ผิวหน้าจะค่อยๆตกสะเก็ดเล็กๆ และจะค่อยๆหลุดไปเองภายในประมาณ 1 สัปดาห์ ระหว่างนี้แต่งหน้าและออกกำลังกายได้ตามปกติ แค่พยายามหลบเลี่ยงแสงแดดและทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยนค่ะ
อ่านจบแล้วอย่าเพิ่งหนีหาย เพราะเรายังมีอีก 2 ทรีทเม้นที่เราคัดสรรมาให้ว่าที่บ่าวสาวจากอีก 2 คลินิกชื่อดัง ติดตามกันต่อไปใน EP. 2 ของเรานะคะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ The Demis Clinic สาขา สยามสแควร์วัน โทร. 084-695-0712 หรือสาขา สาขา รามคำแหง ซ.110 โทร. 084-695-0186