คำถามสุดฮิตที่บ่าวสาวถามเข้ามาบ่อยๆ คือ จัดงานแต่งต้องใช้เงินเท่าไหร่ ซึ่งเราก็เคยตอบไปแล้วนะคะว่า เรื่องเงิน หรือ งบงานแต่ง นั้นขึ้นอยู่กับฐานะและความพึงพอใจที่จะจ่ายของแต่ละคู่ เรียกว่าใครมีมากก็อาจไม่จำเป็นต้องจ่ายมากเสมอไป ใครมีน้อยก็จัดงบใช้กันอย่างพอเพียง เพราะสุดท้ายก็ได้งานแต่งในฝันได้เหมือนกัน แต่ก็มีคำถามส่งมาอีกว่า แล้วงบประมาณส่วนไหนพอจะตัดทิ้งได้บ้าง เราสรุปมาแล้วจากประสบการณ์ตรงของเจ้าสาวตัวจริงว่า มีงบประมาณบางส่วนที่แม้คุณจะเซ็ตเป็น “ศูนย์” ก็ยังแต่งงานได้ แต่จะมีอะไร ทำไมถึงยังแต่งได้ ไปเช็คกันเลยค่ะ
- ค่าสถานที่ เป็น “ศูนย์” ได้ : ถ้าคุณมีบ้านหลังโตที่สามารถปรับพื้นที่ให้กลายมาเป็นสถานที่แต่งงานได้ก็ไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ก็แหม…บ้านก็บ้านตัวเองแล้วจะเสียค่าเช่าให้ใครล่ะ ฉะนั้น งบประมาณในส่วนนี้จึงตัดทิ้งออกไปได้เลย
- ค่าพิธีกร เป็น “ศูนย์” ได้ : ถ้าคุณไหว้วานเพื่อนมาเป็นพิธีกรก็ตัดทิ้งได้ หรือถ้าอยากให้เป็นสินน้ำใจก็น้อยนิดมากๆ (แต่ส่วนใหญ่เพื่อนจะยินดีทำให้ฟรีนะ)
- ค่าเค้ก เป็น “ศูนย์” ได้ : ถ้าคุณซื้อแพ็กเกจจัดงานแต่งในโรงแรม ในแพ็คเกจนั้นมักจะมีเค้กแต่งงานมาให้อยู่แล้ว
- ค่าเช่าของ เป็น “ศูนย์” ได้ : ถ้าคุณพอใจในรูปแบบการตกแต่งสถานที่ที่รวมอยู่ในแพ็คเกจที่ซื้อ หรือถ้าเลือกสถานที่จัดงานที่มีความสวยอยู่ในตัว พร้อพชิ้นเล็กไปจนถึงชิ้นใหญ่ที่จะผลาญงบประมาณของคุณก็ไม่ต้องมีอีกต่อไป
- ค่าที่พักสำหรับแขก เป็น “ศูนย์” ได้ : ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงว่าห้ามเชิญแขกต่างจังหวัดมาร่วมงานนะคะ แต่เชิญโดยระบุบอกไปอย่างชัดเจนเลยว่า แขกต้องดูแลตัวเองในส่วนนี้ ทีนี้ก็อยู่ที่แขกจะตัดสินใจแล้วว่าจะเดินทางมาร่วมงานไหม ถ้ามาก็เท่ากับว่า แขกเต็มใจจะมายินดีและดูแลตัวเองในเรื่องดังกล่าว (คำเตือน!! ต้องบอกกล่าวอย่างชัดเจนตั้งแต่แรกเชิญนะ จะได้ไม่มีเสียงเม้าท์ตามมาให้ปวดใจทีหลัง)
- ค่าช่างภาพ เป็น “ศูนย์” ได้ : ในกรณีที่คุณมีเพื่อนเป็นช่างภาพแล้วเขายินดีมาถ่ายให้ฟรี (หรือคุณขอให้ช่วยมาถ่ายให้ฟรีหน่อย!!) หรือมีเพื่อนที่รักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ แถมยังมีฝีมือและศิลปะในการถ่ายภาพอีกต่างหาก ก็อาจจะไหว้วานให้มาถ่ายภาพให้ที (ถือว่าเป็นของขวัญแต่งงานให้ก็ได้นะ คริคริ) หรืองบประมาณนี้สามารถเป็น “ศูนย์” ได้ ถ้าคุณไม่ได้ต้องการภาพถ่ายขั้นเทพ แต่อยากได้เพียงภาพในงานแต่งงานที่ถ่ายกันเองสนุกๆ เพื่อเก็บไว้ระลึกถึงช่วงเวลาแห่งความประทับใจแบบคนกันเอง
- ค่าวงดนตรี เป็น “ศูนย์” ได้ : เปิดแผ่นสิคะ หรือจะจัดเพลย์ลิสต์ในยูทูปกันมาแบบยาวๆ ไปเลย แล้วทีนี้จะจ่ายทำไมกับค่าวงดนตรี
- ค่าการ์ดเชิญ เป็น “ศูนย์” ได้ : จัดงานเล็กๆ ไม่ต้องพิมพ์การ์ดแต่งงานก็ได้ เพราะเพียงแค่ยกมือถือขึ้นมาส่งไลน์กรุ๊ปบอกเพื่อนหรือโพสต์ลงเฟซบุ๊กชวนมางานกันแบบตัวต่อตัว แถมเดี๋ยวนี้ในเฟซบุ๊กก็มีฟีเจอร์ที่สามารถตั้ง Event ได้และส่งเตือนไปยังเพื่อนๆ ในเฟซของคุณ ให้พวกเขาได้ตอบกลับมาว่า จะมา ไม่มา หรืออาจจะมา ก็ช่วยให้บ่าวสาวประเมินจำนวนแขกคร่าวๆ ได้อีกด้วย ทำแบบนี้ ค่าการ์ดก็ไม่ต้องจ่าย สบ๊ายสบาบเนอะ
- ค่าชุดแต่งงาน เป็น “ศูนย์” ได้ : เจ้าสาวอาจจะยากหน่อย แต่ถ้าเป็นคุณเจ้าบ่าวก็พอจะมีความเป็นไปได้ ถ้ามีสูทอยู่แล้วก็หยิบมาสวมได้เลย หรือหลายคนที่ชีวิตนี้ไม่มีสูทสักตัว เราเชื่อว่าคุณมีเพื่อนที่มีสูท ฉะนั้น ‘ยืมค่ะ’ ไม่ต้องเขิน แค่นี้ค่าสูทก็เป็น “ศูนย์” ได้แล้ว
- ค่ารองเท้าแต่งงาน เป็น “ศูนย์” ได้ : อันนี้จริงแท้แน่นอน ชุดยาวคลุมเท้าก็หยิบรองเท้าคู่โปรดใส่สบายมาใช้ หรือถ้ามีคู่สวยสภาพดีแล้วจะเสียเงินซื้อมาใส่แค่ในวันเดียวไปทำไม จริงมั้ย
- ค่าแต่งหน้าทำผม เป็น “ศูนย์” ได้ : คิดไม่ถึงล่ะสิคะ ว่าค่าแต่งหน้าทำผมก็สามารถตัดออกไปได้ ซึ่งเหตุผลที่คุณสามารถตัดงบประมาณส่วนนี้ออกไปได้ก็เพราะคุณสามารถแต่งหน้าได้เอง แบบว่าแต่งสวยอยู่แล้ว บวกกับไม่ได้ต้องการความแปลกใหม่บนใบหน้า แต่พอใจกับรูปแบบการแต่งหน้าที่เป็นตัวของตัวเอง เน้นความเป็นธรรมชาติ ส่วนเรื่องทรงผมคงต้องจำกัดกันหน่อยว่า ถ้าคุณทำผมเป็นก็แน่นอนว่าไม่ต้องควักเงินจ่ายเช่นกัน แต่ถ้าแค่ทำได้ แต่ไม่มั่นใจ อันนี้ก็คงต้องบวกงบเข้าไปอีกนิดหน่อยเนอะ
หวังว่าลิสต์รายการค่าใช้ง่ายที่สามารถเซ็ตเป็น “ศูนย์” ได้ที่เราร่ายไปทั้งหมดนี้ จะช่วยเป็นแนวทางให้ว่าที่บ่าวสาวได้จัดสรรและตัดสินใจเกลี่ยค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่งงานได้ง่ายและประหยัดขึ้นนะคะ
ภาพ pexels.com, pinterest.com
อ่านบทความเพิ่มเติม
เคล็ดลับตัดรองเท้าแต่งงานยังไงให้ได้ดั่งใจ แถมใส่สบายในวันวิวาห์