มาทำความรู้จัก 14 ช่วงบนของชุดเจ้าสาวก่อนตัดสินใจเลือกกันดีกว่า

14 ช่วงบนของชุดเจ้าสาว ที่เจ้าสาวไม่รู้ไม่ได้

ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายเคยเป็นกันไหมคะ เวลาที่ดูแบบ ชุดเจ้าสาว แล้วถูกใจอยากใส่แบบนี้บ้าง แต่พอถึงเวลาบอกช่างตัดชุดกลับนึกไม่ออกบอกไม่ถูกว่า เอ๊ะ! ชุดแบบนั้นเขาเรียกว่าอะไรนะ ถ้าใส่ไปแล้วจะเหมาะกับเราหรือเปล่า ใครที่ยังข้องใจสงสัยเรื่องนี้อยู่ แพรว wedding ตัดเฉพาะ ช่วงบนของชุดเจ้าสาว พร้อมชื่อเรียกแบบสากลมาให้ดูกันก่อน เวลาเดินเข้าร้านจะได้บอกช่างแบบถูกต้องเป๊ะๆ

แบบที่ 1 : Sweetheart – เกาะอกรูปหัวใจ

ช่วงบนของชุดเจ้าสาว

ที่เรียกว่าเกาะอกรูปหัวใจก็เพราะตรงกลางช่วงอกจะเว้าลงคล้ายกับด้านบนของรูปหัวใจ ช่วยทำให้คอและลำตัวดูยาวขึ้น เน้นกระดูกไหปลาร้า หน้าอก และทรวดทรงองค์เอวให้เด่นชัดขึ้น เหมาะกับเจ้าสาวที่มีรูปร่างเล็ก ช่วงไหล่แคบ มีคอและคางสั้น

แบบที่ 2 : Straight Across – เกาะอก

ช่วงบนของชุดเจ้าสาว
ชุดแต่งงานจากร้าน Coco Chic

เกาะอกแบบธรรมดาที่ผู้หญิงทุกคนสามารถใส่ได้ แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าสาวที่มีไหล่กว้างมากๆ ขอให้เลี่ยงเกาะอกประเภทนี้ เพราะจะยิ่งเผยให้เห็นช่วงไหล่มากขึ้น ควรเลือกใส่แบบคอวีหรือคอยูจะช่วยพลางไหล่ได้ดีกว่า

แบบที่ 3 : Semi-Sweetheart – เกาะอกรูปครึ่งหัวใจ

ช่วงบนของชุดเจ้าสาว
ชุดแต่งงานจากร้าน Mirror Mirror Bangkok

เกาะอกรูปครึ่งหัวใจคล้ายกับเกาะอกรูปหัวใจ ต่างกันเพียงแค่ตรงกลางช่วงอกจะเว้าลงไปน้อยกว่าเกาะอกรูปหัวใจ แต่ยังคงช่วยให้คอและลำตัวดูยาวขึ้น และเน้นที่กระดูกไหปลาร้า หน้าอก และรูปร่างเหมือนกัน เหมาะกับเจ้าสาวที่ไม่อยากให้เว้าจนเห็นร่องออกเยอะเกินไป รวมถึงเจ้าสาวร่างเล็ก ช่วงไหล่ไม่กว้างมาก คอและคางค่อนข้างสั้นก็ขอแนะนำให้เลือกชุดแบบนี้เช่นกัน

แบบที่ 4 : V-Neck – คอวี

ช่วงบนของชุดเจ้าสาว
ชุดแต่งงานจากร้าน Coco Chic

ชื่อก็บอกอยู่แล้วชัดเจนว่าช่วงคอจะเป็นลักษณะตัววี ใส่ได้ทั้งเจ้าสาวที่อกเล็กไปจนกระทั่งเจ้าสาวที่มีอกใหญ่แล้วมีร่องหน้าอกหน้าใจอยากจะอวด ส่วนเจ้าสาวคนไหนที่โครงหน้ายาวอาจต้องเลี่ยง เพราะมันจะทำให้คุณดูหน้ายาวขึ้นไปอีก แต่สำหรับเจ้าสาวที่มีคอสั้น ขอบอกเลยค่ะว่าชุดแบบคอวีเวิร์คสุดๆ

แบบที่ 5 : Asymmetric/One-Shoulder – ไหล่เดี่ยว

ช่วงบนของชุดเจ้าสาว

ชุดแบบไหล่เดี่ยวคือมีสายคาดไว้ที่หัวไหล่ข้างใดข้างหนึ่ง จะซ้ายหรือขวาก็ได้ ช่วยเน้นให้หัวไหล่ดูโดดเด่น เหมาะกับเจ้าสาวที่มีช่วงไหล่แคบ แนะนำว่าถ้าเลือกให้ชุดช่วงบนเป็นแบบไหล่เดี่ยวแล้ว ช่วงล่างตั้งแต่เอวลงไปไม่ควรจะมีดีเทลเยอะมากนัก ขอบอกว่าชุดแบบนี้เหมาะกับเจ้าสาวที่หน้าอกเล็ก ไม่มั่นใจว่าหน้าอกที่มีอยู่จะพอให้เกาะ รวมถึงคนที่พอจะมีหน้าอกแต่ก็กลัวจะเกาะไม่อยู่ด้วยค่ะ

แบบที่ 6 : Off-Shoulder – เปิดไหล่/เกาะไหล่

ช่วงบนของชุดเจ้าสาว
ชุดแต่งงานจากร้าน Mirror Mirror Bangkok

ชุดแบบเปิดไหล่ขอบด้านบนของชุดจะอยู่ใต้หัวไหล่ เน้นให้เห็นกระดูกไหปลาร้า หัวไหล่ และต้นแขนอย่างชัดเจน เหมาะกับเจ้าสาวที่มีช่วงคอสั้นและไหล่แคบ ส่วนใครที่รู้ตัวว่าหน้าอกใหญ่ก็ควรเลี่ยงชุดแบบเปิดไหล่นะจ๊ะ เพราะมันจะเน้นให้หน้าอกดูใหญ่มากขึ้น แต่สำหรับคนที่ต้นแขนใหญ่ หากเลือกชุดแบบนี้แล้วมีผ้าลูกไม้ต่อแขนออกมาสักนิดก็จะสามารถพลางต้นแขนได้เช่นกัน

แบบที่ 7 : Queen Anne

queenanne500

เป็นชุดที่ปิดไหล่ มีแขนเล็กน้อย บางชุดอาจเป็นแขนกุด ลักษณะที่สำคัญคือมีปกเสื้อเชื่อมด้านหน้ากับด้านหลัง ส่วนด้านหน้านิยมเป็นแบบคอวี หรือแบบเกาะอกรูปหัวใจ เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่อยากจะเผยหน้าอกแบบพองาม ดูเรียบร้อย ไม่โป๊จนเกินไป อีกทั้งเจ้าสาวยังสามารถเพิ่มดีเทลส่วนด้านหลังด้วยเป็นผ้าลูกไม้แบบซีทรูหรืออาจเว้าหลังเป็นรูปหัวใจก็ได้นะ

แบบที่ 8 : High Neck – คอเต่า/คอจีน

highneck500

ชุดแบบคอเต่าหรือคอจีนเหมาะกับเจ้าสาวที่คอยาว แต่มีรูปร่างค่อนข้างเล็กและสามารถเลือกช่วงแขนให้เป็นแขนกุด แขนสั้น หรือแขนยาวก็ได้

แบบที่ 9 : Halter – มีสายคล้องคอ

halter500

เป็นชุดที่มีสายคล้องคอจากด้านหลังเชื่อมมาด้านหน้า ซึ่งด้านหน้าจะเลือกเป็นแบบคอวี เกาะอกรูปหัวใจ หรือเกาะอกแบบธรรมดาก็ได้ เน้นให้เห็นลำคอและช่วงไหล่ชัดเจน เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่มีหน้าอกใหญ่ คอยาว ไหล่กว้าง และสูง ส่วนเจ้าสาวที่ช่วงคอสั้นและหน้าอกเล็กควรเลี่ยงชุดประเภทนี้

แบบที่ 10 : Bateau/Boat Neck – คอปาด

bateau500

ชุดแบบเบโท หรือที่คนไทยเรียกกันว่าคอปาดจะมีส่วนปลายอยู่ตรงหัวไหล เน้นกระดูกไหปลาร้าที่ชัดเจน เหมาะกับเจ้าสาวที่มีหน้าอกเล็ก ช่วงไหล่แคบ สำหรับคนไหล่กว้างขอให้เลี่ยงเพราะจะทำให้ไหล่ของคุณดูกว้างขึ้นไปอีก

แบบที่ 11 : Jewel – คอกลม

jewel500

มีลักษณะคล้ายกับเสื้อทีเชิ้ต เหมาะกับเจ้าสาวที่มีหน้าอกเล็ก และถ้ามีแขนจะนิยมใส่แบบแขนกุดหรือแขนสั้น

แบบที่ 12 : Illusion

ชุดแต่งงานจากร้าน Anaya Wedding Dress

เป็นชุดที่มีลักษณะคล้ายกับแบบ Jewel แต่จะต่างกันตรงแบบอิลลูสชั่นนั้น ผ้าที่ต่อจากช่วงอกขึ้นไปจะเป็นผ้าโปร่งหรือผ้าลูกไม้แบบซีทรู ซึ่งตรงช่วงอกเจ้าสาวก็สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นแบบเกาะอกรูปหัวใจหรือเกาะอกธรรมดา ชุดแบบนี้จะดูเรียบร้อย ไม่โป๊จนเกินไป เหมาะกับงานพิธีที่ต้องมีการก้มลงกราบผู้ใหญ่

แบบที่ 13 : Square – คอเหลี่ยม

 

ชุดเจ้าสาวแบบคอเหลี่ยมจะช่วยให้ช่วงคอดูยาวขึ้น เหมาะกับเจ้าสาวที่มีหน้าอกเล็กและไหล่แคบ นิยมใส่เป็นแบบสายเดี่ยว แขนสั้น หรือแขนตุ๊กตา

แบบที่ 14 : Scoop – คอกว้าง/คอยู

scoop500

ชุดแบบสกู๊ปจะมีช่วงคอเว้าลงมาเป็นลักษณะตัวยู เป็นสไตล์คลาสสิกนิยมใส่กันอย่างแพร่หลาย เหมาะกับเจ้าสาวทุกรูปร่าง สามารถตัดให้เว้าโค้งไปถึงด้านหลังได้ จะเว้าเพียงเล็กน้อยแค่ช่วงเอวหรือถ้ามั่นใจในหุ่นก็สามารถเว้าโชว์แผ่นหลังไปจนถึงสะโพกเลยก็ได้

อ่านบทความเพิ่มเติม

10 จุดว่าที่เจ้าสาวต้องเช็คชุดแต่งงานให้ชัวร์ก่อนรับมาใส่ในวันแต่งงาน

ส่อง เทรนด์ชุดแต่งงาน แฟชั่น พลอย – เฌอมาลย์ นิตยสารแพรว wedding มิ.ย. 63

เทรนด์ชุดเจ้าสาว จากร้าน The Classic Studio & Planner สวยหรูดูมีระดับ

Recommended