รอยช้ำหลบไป…เทคนิคสุดเจ๋งอยู่ตรงนี้

เรื่อง : ตะนอยสอนสวย

          เฮลโล่…สาวๆ ชาว WE-MAG.com ทั้งหลายที่กำลังเตรียมเข้าสู่ประตูวิวาห์หรือกำลังรอช่อดอกไม้หล่นใส่มือ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการก่อนนะคะ “ตะนอย” คือผู้ที่จะมาคอยมอบความรู้เกี่ยวกับเรื่องความสวยงามให้กับสาวๆ เอาให้สวยกันตั้งแต่หนังศีรษะจรดปลายเล็บเท้าเพื่อรับวันสำคัญต่างๆ ที่กำลังจะมาถึงกันเลยทีเดียว ยังไงก็ฝากตัวไว้ในอ้อมอกด้วยนะคะ

esebju

          เรื่องแรกที่ตะนอยนำมาฝากเพื่อนสาวชาว WE-MAG.COM เป็นเคล็ดลับดีๆ สำหรับสาวซุ่มซ่ามที่มักเจ็บตัวจากการชนนู่นกระแทกนี่จนเกิดเป็นรอยฟกช้ำดำเขียวเอาง่ายๆ เพราะหากเกิดในบริเวณไม่สำคัญอย่างแขนขาก็อาศัยเสื้อผ้าปกปิดได้ แต่ถ้าโดนจังๆ เข้าที่ใบหน้าจะสวมหมวกโม่งก็คงไม่งาม (ยิ่งถ้าใส่แว่นดำด้วยก็ชี้ตัวได้เลย ฮ่า!) สาวบางนางถึงขั้นมีรอยช้ำลามปามมาถึงต้นคอ (เอ๊ะ! หรือรอยดูด) ตะนอยรู้สึกเห็นใจไม่อยากให้ใช้พลาสเตอร์ปิดเหมือนสก็อยสุดซ่า จึงได้นำเทคนิคเมคอัพกลบรอยช้ำที่อาจจะไม่ขั้นเทพ แต่รับรองว่าปกปิดได้แบบไร้ที่ติ..จริงๆ นะ
          ก่อนอื่นตะนอยขอแนะนำให้สังเกตก่อนว่ารอยฟกช้ำของคุณอยู่ในระดับไหน หากเป็นสีแดงแสดงว่ายังอยู่ในอาการบาดเจ็บขั้นเริ่มต้น ซึ่งอาจจะต้องพึ่งการเมคอัพนานสักหน่อยจนกว่ารอยช้ำจะโบกมือลา แต่ถ้าเริ่มกลายเป็นสีม่วงเมื่อไหร่ก็เตรียมฉีกยิ้มได้เลย เพราะเป็นสัญญาณบอกว่ารอยช้ำกำลังจะจากไปในเร็ววัน แต่ครั้นจะใช้รองพื้นโป๊ะๆ คอนซีลเลอร์แตะๆ ตะนอยบอกได้คำเดียวเลยว่ายังสตรองงงง! ไม่พอค่ะ เพราะรอยช้ำสีแดงและสีม่วงต้องการการปกปิดด้วยวิธีที่ต่างกัน

เลือกสีให้เริด…สวยเชิดในวันบอบช้ำ

ssss
          หากรอยฟกช้ำยังเป็นสีแดงไม่มีสีอื่นเจือปน ตะนอยแนะนำให้ใช้รองพื้นและเบสโทนสีเขียวที่นอกจากจะปกปิดได้เรียบเนียนแล้วยังได้ความเป็นธรรมชาติแถมมาด้วย แต่ถ้ารอยช้ำเริ่มมีสีเหลืองปนเข้ามาต้องคอลซีลเลอร์สีเหลืองหรือเหลืองอมส้มผสมกัน รับรองว่าเนียนกริบชนิดเพื่อนไม่ทัก ส่วนใครที่เข้าสู่ระยะสีม่วงต้องเบสสีเหลืองอ่อนและเขียวเท่านั้น จำไว้เสมอว่าสีเบสผิดชิวิตเปลี่ยนนะจ๊ะ

รอยช้ำน้องใหม่ แดงสะใจไร้สีใดเจือปน
          มาเริ่มกันที่รอยช้ำน้องใหม่เห็นกันจะๆ แดงๆ บนผิวกันเลยดีกว่า เริ่มกันเลยนะคะ…ก่อนแต่งหน้าตะนอยขอให้คุณลงไพรเมอร์เพื่อป้องกันเมคอัพหลุดระหว่างวัน ซึ่งในจุดนี้ตะนอยขอแนะนำแบบเนื้อเจลใสนะคะ เพื่อไม่ให้สีเบส คอนซีลเลอร์ และรองพื้นผิดเพี้ยนไปจากที่ควรจะเป็น จากนั้นใช้คอนซีลเลอร์สีสว่างกว่าใบหน้า 1 เฉด แต้มลงบริเวณรอยฟกช้ำก่อนเป็นอันดับแรก แล้วจึงเติมทับด้วยคอนซีลเลอร์สีที่ใกล้เคียงกับสีผิวจริงอีกครั้ง เพื่อไม่ให้บริเวณที่ปกปิดดูสว่างสะดุดตาจนเพื่อนล้อว่า พจมาน สว่างว้าบบบ!

ระยะสุดท้าย ใกล้ถึงเส้นชัย
          คราวนี้มาถึงสเต็ปรอยช้ำสีม่วง ซึ่งเป็นสีสุดท้ายก่อนที่จะเชิดหน้าสู่โลกกว้าง พร้อมยิ้มมุมปากว่าสวยแล้วจ้า เริ่มทำตามตะนอยได้เลยค่ะ
          ขั้นตอนที่ 1 ลงเบสแล้วต่อด้วยรองพื้นแบบครีม (ย้ำ! ว่าแบบครีมเท่านั้น) ถ้ายังกลบได้ไม่สะใจอาจโบกคอนซีลเลอร์เพิ่มเพื่อความสบายใจ ต่อด้วยขั้นตอนที่ 2 เลือกใช้คอนซีลเลอร์แบบเนื้อทึบที่เท็กเจอร์ไม่แห้งเกินไป (ไม่ใช่เนื้อหนาแต่เม็ดสีต้องแน่น) ในเฉดสีอมส้ม ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงสีเนื้อปลาแซลมอนเข้าไว้เพื่อช่วยให้สีรองพื้นใกล้เคียงกับสีผิวจริงมากที่สุด แล้วปิดท้ายด้วยขั้นตอนที่ 3 ถ้ารอยเริ่มจางลงอาจไม่ต้องพึ่งคอนซีลเลอร์อีกต่อไป เพราะเพียงแค่ลงรองพื้นสีเข้มกว่าผิว 1 เฉด แล้วตามด้วยลงสีอ่อนกว่าผิว 1 เฉดหรือสีที่ตรงกับสีผิวอีกรอบ ก็เนียนได้แบบไม่ต้องพึ่งกอเอี๊ยะแล้ว

dermablend-zombie-boy-1
          แต่หากสาวๆ ไม่อยากยุ่งยากกับหลายขั้นตอน ตะนอยมีรองพื้นขั้นเทพที่ทำให้หลายคนถึงกับตกตะลึงอ้าปากค้างมาแล้ว นั่นคือรองพื้น Dermablend Professional แค่ชื่ออาจยังนึกไม่ออกแต่ถ้าบอกว่าเป็นรองพื้นที่ใช้เนรมิตชายหนุ่มที่รอยสักทั้งใบหน้าและลำตัว ให้กลายเป็นบุรุษสุดสุภาพขึ้นมาแบบทันตาเห็น เชื่อว่าหลายคนต้องร้องอ๋อเพราะกลบมิดชนิดที่ว่าช่างสักต้องทิ้งเข็ม
          ซึ่งรองพื้นยี่ห้อนี้มีเนื้อครีมที่บางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ แถมยังมีคุณสมบัติกันแดด น้ำ และเหงื่อแบบครบสูตร ติดทนนาน มีให้เลือกทั้งหมด 4 เฉดสีคือ Ivory, Light, Tawny, caramel หากสาวๆ คนไหนสนใจสามารถสั่งซื้อหรือหาชมได้ทางอินเตอร์เน็ตเท่านั้นนะจ๊ะ
          ตะนอยว่าเป็นไอเทมสุดว้าวที่สาวๆ ควรมีไว้ในครอบครอง เพราะมีคุณสมบัติในการปกปิดที่ต้องมอบโล่ห์ให้ โดยเฉพาะกับสาวๆ ที่เป็นโรคแพ้ใบตองทั้งหลาย…

ภาพ : www.instructables.com

Recommended