Step 3 : กำหนดงบประมาณ
โดยส่วนมากราคาของแหวนเพชรจะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติ 4Cs ที่เราบอกไว้ข้างต้น ซึ่งว่าที่บ่าวสาวควรตั้งงบที่คุณจะจ่ายไปกับแหวนแต่งงานไว้ก่อนที่จะเดินเข้าร้านเพชร โดยเลือกจัดลำดับความสำคัญของจ่ายตามคุณสมบัติที่คุณมองหา เช่น คุณภาพของเพชร, ตัวเรือน หรือรูปแบบการฝังและการสลักข้อความ เป็นต้น แต่ถ้างบของคุณต่ำกว่าแบบแหวนแต่งงานที่วางไว้ คุณอาจจะเลือกตัวเรือนหรือการฝังที่ถูกกว่าหน่อย แล้วค่อยมาเปลี่ยนหรือเพิ่มการประดับเพชรหลังจากแต่งงานไปแล้วก็ได้
Step 4 : ตัดสินใจเลือกร้าน
การหาข้อมูลของแต่ละร้านเป็นสิ่งสำคัญ โดยอาจจะเข้าไปสอบถามด้วยตัวเองที่ร้าน หรือเลือกอ่านรีวิวตามอินเตอร์เน็ต หรือจะสอบถามจากผู้ที่มีประสบการณ์มาก่อน ซึ่งก่อนอื่นบ่าวสาวต้องหาสไตล์ของแหวนแต่งงานที่คุณชื่นชอบและเข้ากับงบประมาณที่คุณมี เช่น คุณชอบแหวนสไตล์ฝังเพชรเม็ดเดียวแบบโซลิแตร์บนตัวเรือนทอง ก็เป็นสไตล์ที่สามารถโชว์เพชรได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าหากคุณอยากได้เพชรทรงไข่ (Oval) ที่ขนาบข้างด้วยเพชรทรงบาเก็ตต์ส คุณก็จะต้องกระจายเงินของคุณให้พอสำหรับเพชร 3 เม็ด เพราะฉะนั้นคุณก็อาจจะต้องลดหลั่นคุณสมบัติ 4Cs ของเพชรแต่ละเม็ดให้แตกต่างกันไป
และเมื่อคุณพร้อมที่จะเข้าไปลองสวมแหวนที่ร้าน ต้องเข้าใจก่อนว่า “แสงไฟในร้านเพชรจะช่วยให้เพชรส่องประกายสวยงามมากเป็นพิเศษ” เพราะฉะนั้นเพื่อที่คุณจะได้เห็นสีของเพชรที่แท้จริง ให้ลองยืนใกล้หน้าต่างหรือบริเวณที่มีแสงธรรมชาติ และอย่าลืมสำรวจตำหนิบนเพชรให้ดี ทั้งแบบที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และแบบที่ต้องใช้เครื่องส่อง
และหากว่าที่บ่าวสาวรู้ถึงความต้องการของตัวเองอย่างชัดเจนแล้ว อย่าลืมตรวจสอบคุณสมบัติ 4Cs ให้ดี และสำหรับคู่ที่ออกแบบแหวนแต่งงานใหม่อย่าลืมสอบถามระยะเวลากับทางร้านให้ดีด้วย
สำหรับคู่ไหนที่เลือกซื้อแหวนแต่งงานแบบออนไลน์ เพื่อความชัดเจน ในรูปภาพคุณอาจจะเห็นเพชรว่ามีความใสสะอาดมาก หรือเห็นตำหนิที่ขอบด้านข้างที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตามเปล่า อย่าลืมอ่านรายละเอียดของเพชรให้ดีว่าได้รับการรับรองจากสถาบันต่างๆ ไว้ว่าอย่างไรบ้าง และถ้าหากเว็บไซต์นั้นมีวิดีโอแบบ 360 องศาก็อย่าลืมดูให้ละเอียด เพื่อเช็คให้รอบคอบอีกทีหลังจากดูภาพถ่าย
และไม่ว่าคุณจะซื้อแหวนแต่งงานที่ไหน อย่าลืมขอใบรับประกันเพชรมาด้วย เพื่อเป็นการการันตีคุณสมบัติของเพชรที่คุณครอบครอง และเพื่อรับประกันเพชรที่ประดับอยู่บนแหวนแต่งงานของคุณว่าได้รับเพชรที่ถูกต้องตามคุณสมบัติที่ต้องการ
Step 5 : การประหยัดค่าใช้จ่าย
1. เลือกเพชรที่น้ำหนัก 0.9 กะรัตแทนเพชรน้ำหนัก 1 กะรัต (หรือ 1.9 กะรัตแทน 2 กะรัต) เพราะเป็นความต่างของขนาดที่แทบจะสังเกตุความต่างของขนาดไม่เห็น แต่สามารถช่วยให้บ่าวสาวประหยัดได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์
2. บาลานซ์ระหว่างสีและความคมชัด เพื่อให้ได้เพชรขนาดใหญ่ที่มีค่าใช้จ่ายน้อยลง บ่าวสาวบางคู่อาจจะเลือกเพชรแบบ F Color แต่สามารถเลือกขนาดของกะรัตที่ใหญ่ได้ หรือจ่ายเงินได้น้อยลงในจำนวนกะรัตเดียวกัน
3. เลือกความสะอาดของเพชรในระดับที่น้อยสำหรับเพชรทรงกลม เพชรบางรูปทรงสามารถซ่อนตำหนิไว้ได้ (เช่นเพชรทรง Emerald หรือ Asscher) หากคุณเลือกรูปแบบของเพชร ให้เลือกความสะอาดของเพชรให้มากกว่าสีของเพชร
4. มองข้ามตัวเรือนแบบแพลตตินั่ม ตัวเรือนทองคำขาวนั้นสามารถประหยัดเงินให้คุณได้มากกว่า
ดูแบบแหวนแต่งงานและเครื่องประดับเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!