6. ลองบางอย่างที่แตกต่างออกไป
บางคนอาจมีแบบแหวนที่ชอบในใจอยู่แล้ว แต่อย่าเพิ่งปิดโอกาสในการมองหาแหวนแต่งงานแบบอื่นๆ ดูบ้าง เพราะคุณอาจจะพบว่าสิ่งที่คิดว่าดีกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าอาจจะดีกว่าสิ่งที่คุณฝันไว้ก็ได้ และการได้เข้าไปพบกับผู้เชี่ยวชาญที่ร้าน คุณก็ได้คำแนะนำดีๆ กลับมาด้วย ว่าแบบไหนที่เหมาะและไม่เหมาะกับคุณ และหากได้มีโอกาสลองแหวนแต่งงานแล้ว ก็อาจจะลองทำกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ อย่าง การเขียนหนังสือ หรือการเล่นโทรศัพท์ เพื่อทดสอบว่าคุณสามารถทำกิจกรรมได้สะดวกสบายในแหวนแต่งงานวงนี้หรือไม่
7. คิดถึงการใช้งานที่ยาวนาน
ในขณะที่คุณกำลังกังวลว่า แหวนแต่งงานวงสวยนี้จะอินเทรนด์หรือไม่ เราอยากให้คุณคิดใหม่ว่า อีก 20 หรือ 40 ปีข้างหน้าแหวนวงนี้ยังจะดูทันสมัย หรือร่วมสมัยอยู่หรือเปล่าจะดีกว่า เพราะฉะนั้นอย่ายึดติดกับแฟชั่นมากเกินไป เพราะแหวนแต่งงานนั้นหากใส่ไปเรื่อยๆ แล้วอยากเปลี่ยนแปลงก็ย่อมได้ เช่น อาจจะเพิ่มการประดับเพชร หรือใช้เพชรเม็ดเดิมแต่เปลี่ยนจากตัวเรือนทองเป็นแพลตตินั่ม เป็นต้น หรืออาจจะเปลี่ยนวงใหม่เพื่อฉลองวันครบรอบแต่งงานก็ได้เหมือนกันนะ
8. คำนึงถึงการบำรุงรักษา
เพื่อให้แหวนแต่งงานประดับเพชรใสกิ๊งเหมือนใหม่ตลอดเวลา คุณต้องหมั่นทำความสะอาดนะคะ เช่น อาจจะแช่ในน้ำอุ่น แล้วขัดทำความสะอาดด้วยแปรงขนนุ่ม แล้วซับให้แห้งด้วยผ้าขนหนูเนื้อนิ่ม แต่ถ้าคุณคิดว่า การทำความสะอาดเพชรให้เปล่งประกายอยู่เสมอนั้นยุ่งยากเกินไป ก็อาจจะเลือกเป็นแหวนแต่งงานแบบเกลี้ยงที่ดูแลรักษาได้ง่ายกว่า เพราะเพียงแค่ใช้ผ้าที่ไม่มีขนเช็ดถูทำความสะอาด เช่น ผ้าชามัวส์ เท่านี้ก็ช่วยให้แหวนเกลี้ยงใสกิ๊งแล้ว
9. ไซส์ต้องถูกต้อง
คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยถอดแหวนแต่งงานออก เพราะฉะนั้นแหวนวงนี้จะอยู่ติดนิ้วคุณไปทั้งในหน้าร้อน หน้าฝน ตอนออกกำลังกาย หรือแม้แต่ตอนตั้งครรภ์ แม้กระทั่งตอนที่คุณอ้วนขึ้นหรือผอมลงด้วย เพราะฉะนั้นเพื่อหาขนาดแหวนที่ถูกต้อง เหมาะสมกับสภาพอากาศหรือสภาพร่างกายที่เปลี่ยนไป แนะนำให้คุณจัดวันที่จะไปลองแหวนแต่งงานเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ร่างกายและอุณหภูมิในร่างกายปกติที่สุด ไม่ควรไปลองแหวนในตอนเช้า เพราะร่างกายอาจบวมน้ำที่เก็บกักไว้ตั้งแต่เมื่อคืน หรือหลักจากที่คุณเพิ่งออกกำลังกาย เพราะนิ้วมืออาจมีความบวมขึ้นนิดหน่อย หรือแม้กระทั่งตอนที่ร่างกายของคุณมีอุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นมากๆ เพราะจะส่งผลต่อการขยายและหดตัวของนิ้วมือ
10. ตรวจสอบคุณภาพ
แหวนควรมีใบรับประกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแหวนเพชรที่มีราคาแพง ในกรณีที่เกิดความชำรุดเสียหาย เพชรหลุด หรือมีรอยบิ่น ในกรณีที่เกิดจากความผิดพลาดของทางร้านหรือความประมาทของเรา ทางร้านจะสามารถซ่อมแซมให้ได้หรือไม่ และทั้งหมดนี้จะอยู่ในเงื่อนไขการรับประกันหรือเปล่า อีกทั้งยังควรจะต้องมีใบเซอร์รับรองเพชร เพื่อให้เรามั่นใจ ว่าเพชรที่เราได้มานั้นมีคุณภาพถูกต้องตามมาตรฐานสากล ถ้ามีใครตั้งคำถามถึงคุณภาพของเพชร สามารถอ้างอิงถึงใบรับประกันนี้ได้เลย
รวมไปถึงต้องมี Certificate ของเพชร ซึ่งเพชรแต่ละเม็ดจะมีการยิงเลเซอร์หมายเลขของเพชรสลักอยู่ เพื่อใช้ตรวจสอบว่าเป็นเพชรเม็ดเดียวกับที่ออกใบรับรอง (Certificate) ซึ่งแน่นอนว่าไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า วิธีการตรวจสอบคือการใช้กล้องส่องเข้าไปในเม็ดเพชร เพื่อตรวจสอบว่าหมายเลขที่เพชรนั้นเป็นเลขอะไร เพื่อนำมาเทียบกับใบรับรองว่าใช่หมายเลขเดียวกันหรือไม่ ควรตรวจสอบทั้งตอนเลือก และตอนมารับแหวนเพชร เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราได้เพชรเม็ดที่เลือกไว้ และตรงตามใบรับรองจริงๆ
ดูแบบแหวนแต่งงานและเครื่องประดับเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!
ภาพ unsplash.com