เหตุเพราะใช้ลู่วิ่งเป็นสื่อรัก และเหตุเพราะขอความรักบนสนามวิ่ง นี่จึงเป็นที่มาของการจัด งานแต่งงาน แบบเวดดิ้งรันครั้งแรกในเมืองไทย ณ กระโจมแตร สนามราษฎร์ สวนหลวง ร.9 ท่ามกลางเพื่อนนักวิ่งเกือบสองพันที่มาร่วมเป็นพยานในงานวิวาห์แสนอบอุ่นของพี่นง-ทนงศักดิ์ ศุภทรัพย์ และน้องติ๊ก-ชลธิชา ล้ำเลิศยุทธศิลป์ คู่รักต่างวัยที่ชีวิตเปลี่ยนไปเพราะการวิ่ง
จุดสตาร์ทของความต่างที่ลงตัว
“การวิ่งเปลี่ยนชีวิตได้ทุกมิติ ทั้งเรื่องสุขภาพและความสัมพันธ์” นักแสดงรุ่นใหญ่ คุณนง-ทนงศักดิ์ ให้คำจำกัดความสั้นๆ ของการวิ่งไว้อย่างน่าสนใจ ก่อนที่จะเปิดใจกับทีมงาม เราถึงที่มาของงานแต่งงานนอกกรอบในแบบเวดดิ้งรัน ที่ส่งให้กระแสการวิ่งกลับมาอยู่ในสปอร์ตไลต์ของคนทั่วไปได้อีกครั้ง ซึ่งการวิ่งนี่เองเป็นจุดเริ่มต้นทำให้คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่เลี้ยงลูกโดยลำพังมาตลอด 11 ปีอย่างคุณนงกล้าลุกขึ้นมาเปิดประตูหัวใจให้รักครั้งใหม่กับ คุณติ๊ก-ชลธิชา เจ้าสาวสายเฮลท์ตี้ที่อายุต่างกันถึง 20 ปี
เรื่องราวความรักของคนทั้งคู่คงจะไม่เกิดขึ้นหากไม่ได้พ่อสื่ออย่าง คุณหนึ่ง-สรัญ ลิ้มสวัสดิ์วงศ์ เจ้าของโรงแรม S31 เป็นผู้นำพาให้ทั้งสองมารู้จักกันกลางเวทีมวยในยิมของโรงแรม โดยคนหนึ่งคือเพื่อนรุ่นพี่ที่รักการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ อีกคนคือเซลล์ของโรงแรมที่เข้ามาเรียนรู้เรื่องการออกกำลังเพื่อที่จะนำประสบการณ์ไปบอกต่อลูกค้า และเมื่อพบกันบ่อยเข้าจนเริ่มคุยกันถูกคอ คุณนงจึงได้ใช้การวิ่งเป็นสื่อกลางพยายามชวนคุณติ๊กให้ก้าวออกจากฟิตเนสไปสู่สนามวิ่งของจริง และ ณ ปลายทางของเส้นชัยในงานวิ่งสู่ชีวิตใหม่ (Thai Health Day 10K Run 2015) นั่นเองที่คุณนงได้คุกเข่าขอคุณติ๊กแต่งงานท่ามกลางการจัดการของลูกทั้ง 3 และต่อหน้าเพื่อนพ้องนักวิ่งที่ต่างก็แอบส่งเสียงเชียร์คู่รักนักวิ่งคู่นี้มาตลอด 4 ปี
มินิขันหมากมาราธอน
เมื่อการวิ่งคือสิ่งที่ทั้งคู่รัก และทั้งคู่ก็มีเพื่อนพ้องนักวิ่งที่รักอยู่ในทุกสนาม การตระเวนแจกการ์ดเชิญแขกมาร่วมงานในห้องบอลรูมขนาดใหญ่จึงไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่นึกถึง ตรงกันข้ามบรรยากาศของสนามหญ้าและลู่วิ่งต่างหากที่เป็นคีย์ของงาน และกลายเป็นที่มาของการจัดงานวิ่งให้เป็นงานแต่งงานไปในตัว
“ด้วยความที่เป็นงานเวดดิ้งรันที่ยังไม่เคยมีใครจัดมาก่อนเราจึงต้องคิด ออกแบบงานเองทั้งหมดในแนวทางที่เราอยากให้เป็น ดังนั้นแทนที่จะนึกถึงเวดดิ้งแพลนเนอร์ ผมกลับนึกถึงโปรรุจน์ (มารุต บุรณศิล) ทีมชัตเตอร์รันนิ่ง ซึ่งชำนาญด้านการจัดงานวิ่งโดยเฉพาะ แต่ถ้าหากจะตั้งหน้าตั้งตาวิ่งอย่างเดียวก็ขาดสีสัน ผมกับติ๊กเลยให้ทางกลุ่มพังกี้รันเนอร์สนำโดยน้องเหมียว (จุฬาลักษณ์ สยามวาลา) มาช่วยเติมเรื่องของสไตล์และสร้างมูดแอนด์โทน ด้านอิมเมจิ้น บาย โอ๋ (พี่โอ๋-พี่เนี้ยว) เข้ามาช่วยงานพิธีการ ตกแต่งบริเวณกระโจมแตรและโดยรอบ ทั้งหมดจึงทำให้งานแต่งงานกับงานวิ่งสามารถผสมผสานกันได้อย่างลงตัวจริงๆ”
หลังจากสรุปลงตัวเรื่องรูปแบบของงาน การเปิดเชิญชวนให้นักวิ่งเข้ามาลงทะเบียนจึงเริ่มขึ้น จากครั้งแรกที่เปิดรับเพียง 400 คน แต่เมื่อมีผู้สมัครมานับพันจึงได้มีกติกาน่ารักๆ เพิ่มเข้ามา โดยให้แต่ละคนบอกเล่าแรงบันดาลใจรวมทั้งชีวิตที่เปลี่ยนไปจากการวิ่ง
และจากความตั้งใจเดิมที่ขอขยายจำนวนเปิดรับนักวิ่งเพียง 800 คน เสียงเรียกร้องก็ทำให้ทั้งคู่ต้องขยายจำนวนไปถึง 1,800 คน มีครบทุกวัย และทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งนักวิ่งจากชมรมวิ่งต่างๆ กลุ่มนักวิ่งแฟนซีที่เช่าชุดไทย ห่มสไบมาวิ่งอย่างไม่กลัวร้อน กลุ่มนักวิ่งวีลแชร์ นักวิ่งผู้พิการทางสายตา นักวิ่งคู่รัก กลุ่มครอบครัว ที่จะขาดไม่ได้คือคู่บ่าวสาวที่นุ่งโจงสวมชุดไทยสวยงามจูงมือออกวิ่งนำเป็นหัวขบวน ซึ่งความจริงก็คือขบวนขันหมากที่ต้องใช้ระยะเวลาร่วม 45 นาทีบนเส้นทาง 3 กิโลเมตรจึงจะถึงเส้นชัยที่ออกแบบเป็นซุ้มแหวนหมั้นขนาดใหญ่ให้ทุกคนได้แชะภาพเก็บเป็นที่ระลึก
เสน่ห์แห่งวิถีไทย
แม้คอนเซ็ปต์จะเป็นงานเวดดิ้งรัน คุณนงก็ไม่ลืมที่จะใส่เสน่ห์ความเป็นไทยลงไป ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืดที่ทำสีคล้ายเสื้อม่อฮ่อมสกรีนรูปผ้าขาวม้าคาดเอวสำหรับนักวิ่งชาย และลายพวงมาลัยดอกไม้สำหรับผู้หญิง
เติมความครึกครื้นสนุกสนานด้วยคณะแตรวง นางรำ และกลองยาวระดับครูที่ร่วมอยู่ในขบวน แต่ที่เรียกเสียงฮาได้จริงๆ และทำให้งานวิ่งมีจังหวะอันเนิบช้าของการเดินเข้ามาสลับ ได้แก่ จุดเช็คพอยท์ระหว่างทางที่ทีมงานได้จัดกิจกรรมแบบไทยๆ รวมทั้งการประแป้งที่สองแก้มให้ได้ฝ่าด่าน เพื่อยืนยันการรับเหรียญที่ระลึก และที่เรียกเสียงฮือฮาตบท้ายคือการนำประวัติบ่าวสาวมาขับร้องเป็นเพลงลำตัดโดยศิลปินแห่งชาติ แม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ ซึ่งขับกล่อมต้อนรับแขกทุกคนอยู่กลางแจ้งได้อย่างอยู่หมัด
และอย่างที่คุณนงและคุณติ๊กได้เน้นย้ำมาตลอดการสัมภาษณ์ว่าอยากให้งานแต่งงานของทั้งคู่เป็นเหมือนทีเซอร์ชวนคนทุกเพศวัยให้หันมารักสุขภาพด้วยการลุกออกมาวิ่ง สินสอดทองหมั้นที่แบกใส่หาบใส่ตะกร้ามาในขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวจึงแปรจากเงินทองกลายเป็นอุปกรณ์กีฬาครบครัน ทั้งรองเท้า ถุงเท้า หมวก นาฬิกา เสื้อผ้า เพื่อแทนความหมายถึงการมอบสุขภาพกายดีซึ่งถือเป็นทรัพย์สมบัติที่ล้ำค่าให้ฝั่งเจ้าสาว
ด้านพิธีรดน้ำสังข์ก็จัดขึ้นอย่างอบอุ่นท่ามกลางญาติสนิทและเพื่อนนักวิ่งที่มาห้อมล้อมอยู่รอบกระโจมแตร ที่ตกแต่งด้วยอุบะ ปลาตะเพียนสาน และการจัดดอกไม้แบบไทยอย่างสวยงาม พร้อมเสียงขับกล่อมไวโอลีน และเบส ของน้องกวางนักวิ่งที่อาสามาเล่นให้ระหว่างพิธีการ ก่อนจะปิดท้ายงานช่วงเช้าด้วยการชวนเพื่อนนักวิ่งมาร่วมบริจาคทำบุญสร้างอุโบสถ ณ วัดใหม่ศรีร่มเย็น จ.เชียงราย พร้อมรับแพ็คเกจฮันนีมูนจากพระอาจารย์เอกชัย สิริญาโณ ประธานในพิธีสงฆ์เป็นคอร์สปฏิบัติธรรม 3 วัน 2 คืน
งานฉลองแสนอบอุ่น
จากงานเวดดิ้งรันในช่วงเช้าก็เปลี่ยนบรรยากาศเข้าสู่ความอบอุ่นของงานฉลองมงคลสมรสในช่วงค่ำของวันเดียวกัน ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมเอส31 สุขุมวิท ซึ่งยังคงความสดชื่นของมวลดอกไม้กลางสวนอันเป็นธีมหลักของงาน นอกจากแบ็คดร็อปที่เน้นไปที่ดอกกุหลาบ ไฮเดรนเยีย และกล้วยไม้แล้ว การใช้เฉดสีชมพูและฟ้าพาสเทลยังช่วยเติมความสนุกสนานได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับสแตนดี้ขนาดเท่าตัวจริงในแอคติ้งสนุกๆ รวมทั้งชุดเจ้าสาวที่แอบแต้มดอกไม้สามมิติสีม่วง ฟ้า บริเวณชายกระโปรงยาว บ่งบอกบุคลิกสาวหวานที่ซ่อนความขี้เล่นได้เป็นอย่างดี
นอกเหนือไปจากความสนุกสนานและสดชื่นแล้ว อีกสิ่งที่แขกทุกคนสัมผัสได้คือความอบอุ่นของทั้งสองครอบครัวที่ช่วยกันจัดงานนี้ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นโชว์บัลเล่ต์ พร้อมแดนซ์ที่แสนน่ารักจากหลานสาวทั้ง 3 ของคุณติ๊กซึ่งบินตรงมาจากออสเตรเลีย รวมทั้งบทเพลงเพราะๆ จากคุณอุ้ย- รวิวรรณ จินดา และเพื่อนสนิทอย่างคุณบิลลี่ โอแกน
อีกสิ่งที่ทำให้แขกทุกคนต้องอมยิ้มคือมุมแกลลอรี่โชว์ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งแนวรักสุขภาพของบ่าวสาว ที่มีลูกๆ เข้ามาร่วมเฟรมอย่างอบอุ่น และถ้าไม่นับการรันคิวงานซึ่งลูกๆ ของคุณนงแบ่งหน้าที่กันได้ดีเยี่ยมดั่งเวดดิ้งเพลนเนอร์มือโปรแล้ว การที่ลูกทั้ง 3 ได้แก่ แทนรัก ปัญญ์เพชร และเปี่ยมรัก ยกมือขันอาสามาเป็นพิธีกรหลักของงาน ดูจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนให้กับทุกคำถามที่ยิงเข้ามาว่า “ลูกๆ เห็นด้วยกับการเริ่มต้นใหม่ครั้งนี้หรือไม่”
แต่งในแบบที่เป็นเรา
อีกความน่ารักของงานที่จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้คือการนำไลฟ์สไตล์รักสุขภาพ รวมทั้งความชอบของทั้งคู่เข้ามาใส่ไว้ในทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นน้ำแข็งประดับที่แกะสลักเป็นรูปนักวิ่ง เมนูอาหารที่คัดสรรมาจากร้านโปรดของบ่าวสาว ทั้งปอเปี๊ยะ ข้าวหมูแดง ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก ส้มตำไก่ย่าง อาหารญี่ปุ่น รวมทั้งของหวานเพื่อสุขภาพของผองเพื่อนอย่างโยเกิร์ตแลนด์ที่มาร่วมแจม โดยทุกเมนูล้วนเน้นไปที่ความหนักท้อง เพื่อไม่ให้แขกต้องกลับไปแวะกินก๋วยเตี๋ยวต่อระหว่างทางกลับบ้าน
ปิดท้ายด้วยความสนุกของการเปิดตัวเจ้าสาว ที่ให้หลานๆ ตั้งขบวนพาเหรดเต้นนำออกมา ก่อนจะขึ้นไปส่งท้ายด้วยการโยนช่อดอกไม้ให้กับกลุ่มสาวและหนุ่มโสด งานนี้เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ได้เป็นอย่างดี กับการส่องสปอร์ตไลต์ไปที่นุ่มกล้ามโตมาดเข้มอย่าง ครูดาม ศรีจันทร์ แห่งครูดามยิม ซึ่งทำหน้าที่ถือช่อดอกไม้ขึ้นมาบนเวที โดยช่อดอกไม้ที่ว่าได้ผูกนวมชกมวยสีชมพูติดไว้ ผู้โชคดีรับได้ก็รับไปเลยแพ็คเกจคลาสเรียนต่อยมวยที่โรงแรมเอส 31 ฟรีตลอด 1 ปีเต็ม สมกับเป็นงานแต่งสายเฮลธ์ตี้อย่างแท้จริง
WE Directory
- ชุดเจ้าสาว – ชุดเจ้าบ่าว : (งานวิ่งและแห่ขันหมาก) คุณจีจี้ โทร.08-9774-8124 (งานฉลอง) Peter Kelly โทร.08-1684-9344
- แต่งหน้า: สุภาพร สิงห์สำราญ โทร. 08-6334-0117
- ทำผม: ธนณัฏฐ์ ลาภไชยวัฒน์ โทร.09-9636-2955
- ออร์แกไนเซอร์และตกแต่งสถานที่: Shutter Running โทร.0-2111-2201 www.shutterrunning.com, Punky Runners เฟซบุ๊ก: punkyrunners, Imagine by Oh โทร. 08-63079349 เฟซบุ๊ก: imaginebyoh.weddingplanner
เรื่อง : พัชราพิไล / ศรัณยู
ภาพ : ดวงพร