งานแต่งงานสุดแนวของคุณจี๊ป & คุณเก่ง ที่บ่าวสาวและเหล่าแขกจัดหนักจัดเต็มแบบไม่มีใครยอมใคร

งานแต่งงาน สุดแนวนี้เป็นงานของคู่รักสายอาร์ตคุณจี๊ปและคุณเก่ง ทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลากว่า 15 ปีที่ทั้งคู่ได้รู้จัก ได้รัก และได้เดินทางมาถึงช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือ การแต่งงาน และแน่นอนว่าด้วยความที่เป็นเด็กสายอาร์ตเรียนศิลปะด้วยกันมาทั้งคู่ งานแต่งสุดแนวงานนี้จึงเกิดขึ้นในธีม My Fair Lady ที่จัดขึ้นที่ About Studio บอกเลยว่าจัดเต็มตั้งแต่เจ้าบ่าว เจ้าสาว ไปจนถึงแขกที่มาร่วมงานเลยทีเดียว

“ส่วนตัวจี๊ปเป็นคนชอบดอกไม้ ชอบพวก headdress พวกหมวก ก็เลยสรุปกันว่างั้นจัดเป็นธีม My Fair Lady ซึ่งเป็นธีมที่มาจากภาพยนตร์เลยล่ะกัน” คุณจี๊ป เจ้าสาวสุดแนวเล่าถึงที่มาของธีมงานที่เธอและคุณเก่ง เจ้าบ่าวลงมือทำกันเองทั้งหมดจะมีก็แค่เฉพาะทีมรันคิวเท่านั้นที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวคู่นี้ไม่ได้ลงมือทำ โดยใช้เวลาเตรียมงานประมาณ 3 เดือน เชิญแขก 550 คน

“ตอนแรกจี๊ปกับแฟนไม่รู้เลยว่างานแต่งงานต้องเริ่มทำอะไรยังไงบ้าง แต่โชคดีที่ก่อนหน้านี้จี๊ปมีโอกาสได้ไปช่วยงานเพื่อนสนิท 2 คู่ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมงานก็เลยได้รู้คร่าวๆ ว่าเขาต้องทำอะไรกันก่อนบ้าง คือช่วยแทบจะทุกขั้นตอนแล้วเพื่อนก็บอกว่าต้องมีอย่างนี้ๆ นะ จนได้รู้ว่ามันมีเวดดิ้งแพลนเนอร์ มีทีมรันคิว มีทีมนู่นนี่เยอะมาก”

ส่วนเหตุผลหลักๆ ที่คุณจี๊ปและแฟนเลือกที่จะลงมือจัดงานแต่งงานด้วยตัวเองก็เพราะว่า บรรดาเพื่อนๆ ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า จริงๆ แล้วเวดดิ้งแพลนเนอร์ก็คล้ายๆ กับอาชีพของคุณจี๊ปอยู่ไม่น้อย ซึ่งไม่น่าจำเป็นที่จะต้องจ้าง “เพื่อนๆ บอกกับจี๊ปว่า จี๊ปสามารถคิดรายละเอียดธีมงานเองได้ สามารถติดต่อประสานงานกับซัพพลายเออร์ต่างๆ ที่เรามีอยู่แล้วได้ จี๊ปกับแฟนก็เลยตัดสินใจทำกันเอง แล้วจ้างแค่เฉพาะทีมรันคิว เพราะเราไม่รู้พวกพิธีต่างๆ ซึ่งทีมรันคิวก็ช่วยตรงนี้ได้เยอะ”

นอกจากธีมงานของคุณจี๊ปจะแตกต่างไม่เหมือนใครแล้ว ไทม์ไลน์การจัดงานของเธอก็ยังไม่เหมือนใครอีกด้วย “พิธีหมั้นเริ่มแห่ขันหมากประมาณบ่ายโมง แล้วเลี้ยงฉลองต่อในช่วงเย็นยาวไปถึงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ สาเหตุที่จี๊ปเลือกไทม์ไลน์แบบนี้เพราะเข็ดจากงานแต่งงานของเพื่อน 2 งานที่บอกไป ตอนนั้นเราไปช่วยเขาเยอะ ต้องตื่นเช้า ทำทุกอย่าง พอตอนกลางคืนเรารู้สึกว่าเราสนุกได้ไม่เต็มที่มันเหนื่อยจนเหมือนเราน็อคไปเลย ก็แอบคิดว่าถ้าเป็นงานตัวเองต้องตายกว่านี้แน่ๆ ถ้าต้องตื่นตี 4 มาแต่งหน้ารู้สึกว่าเราต้องเหนื่อย กลัวงานตอนกลางคืนเราจะไม่เต็มที่ แล้วเราก็จัดงานกันเองหมดทุกอย่างด้วย ก็เลยดูแค่ฤกษ์วันอย่างเดียว ส่วนเวลาเอาที่เราสะดวกเป็นหลัก ซึ่งงานพิธีก็มีแค่สวมแหวน รดน้ำสังข์ แล้วก็ยกน้ำชา”

“ส่วนที่เลือกจัดงานแต่งงานที่ About Studio เพราะว่าเพื่อนเราเป็นสายปาร์ตี้ คิดว่าถ้าจัดที่โรงแรมไม่น่าจะเหมาะเพราะเราคอนโทรลแขกไม่ได้ เช่น เดี๋ยวไวน์หก หรือโน่นนี่จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ เลยมาจบที่สตูดิโอที่เป็นพื้นที่โล่ง แล้วเราเสกทุกอย่างให้มาอยู่ในที่โล่งดีกว่า ถึงจะเหนื่อยแต่เพื่อนๆ ที่มาร่วมงานก็จะได้สนุกกันได้อย่างเต็มที่ ซึ่งก็เหนื่อยจริงๆ (หัวเราะ)”

แบ็คดร็อปก้อนเมฆที่ออกแบบให้เป็นเลเยอร์โดยเป็นงานเพ้นต์มือทั้งหมด งานนี้น้องๆ ของคุณจี๊ปมาช่วยกันทำเพื่อเป็นของขวัญวันแต่งงานให้กับเจ้าบ่าวเจ้าสาว ไฮไลต์คือสามารถใช้ไฟยิงก้อนเมฆให้เปลี่ยนเป็นแบบต่างๆ สามารถเล่นสีสันได้ เช่น เปลี่ยนให้เป็นแสงตอนเย็น แสงตอนพระอาทิตย์ตก หรืออย่างงานตอนเช้าก็ให้เป็นแสงธรรมชาติไปเลย

และแน่นอนว่าเรื่องชุดแต่งงานของเจ้าสาวเป็นเรื่องที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้ “ชุดงานหมั้นเป็นชุดจากแบรนด์ T AND T ช่วยตัดให้ ส่วนชุดเย็นเป็นชุดจากแบรนด์ Theatre โดยทุกชุดจี๊ปบอกไปแค่ธีมงานว่าเป็นแบบนี้ การ์ดแต่งงานเป็นแบบนี้ ซึ่งเขาก็คงเห็นความเป็นเราเลยดีไซน์ออกมาให้เป็นเรามากที่สุด ซึ่งเราก็ชอบตั้งแต่แบบสเก็ตที่เขาส่งมาให้ดูเลย อย่างชุดเย็นจาก Theatre ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ซื้อบ่อยอยู่แล้ว อีกอย่างจี๊ปรู้จักกับพี่อาร์ต อารยา ซึ่งพี่อาร์ตสนิทกับพี่จ๋อมที่เป็นเจ้าของแบรนด์ พี่ๆ ทั้งสองคนก็เลยช่วยกันออกแบบชุดแต่งงานให้เรา ส่วนชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้คุณธีร์ ผาสุก ทำชุดให้เป็นของขวัญค่ะ

“นอกจากนี้พี่อาร์ตและพี่จ๋อมก็ช่วยดูเรื่องชุดเจ้าบ่าวให้ด้วยว่าลุคโดยรวมควรเป็นแบบไหน เพราะสูทเจ้าบ่าวเราสั่งตัดที่ร้านสูทปกติ เป็นสูทสไตล์วินเทจแบบ 3 ชิ้น อย่างชุดสูทตอนเย็นพี่อาร์ตบอกว่าต้องเป็นสีโดรฟเกรย์เท่านั้น เพราะเจ้าบ่าวผิวค่อนข้างเข้มแล้วสีนี้ก็เข้ากับชุดเจ้าสาวด้วย ที่พิเศษอีกอย่างคือโบไทที่พี่จ๋อมทำให้เพื่อให้ลิงค์กับผ้าของชุดเจ้าสาว ส่วนผ้าเช็ดหน้าก็เป็นสีโอโรสด์เพราะชุดเจ้าสาวเป็นโบสีขาวขลิปขอบเป็นสีโอโรสด์จะได้ดูไปด้วยกัน พี่ๆ ดูไปถึงเรื่องความสูงของรองเท้า ซึ่งรองเท้าเจ้าบ่าวหาซื้อไม่ได้พี่อาร์ตถึงขั้นสั่งให้เลยว่าต้องเป็นแบบนี้ เลือกหนัง เลือกสีให้ ซึ่งเราสองคนดีใจมากที่ได้พี่ทั้งสองมาช่วย”

เดรสโค้ดมันๆ ที่แขกมาร่วมงานให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี “เรื่องนี้ตอนแรกก็คิดหนักเหมือนกัน เพราะมันไม่ใช่งานปาร์ตี้แต่เป็นงานแต่งงานที่มีแขกหลากหลายกลุ่ม เราก็เกรงใจแขกท่านอื่นๆ ว่าเขาจะหาชุดยังไง ลำบากไหม เราก็เลยออกแบบเป็น mood board ให้ว่าผู้หญิงแต่งประมาณนี้ ผู้ชายแต่งประมาณนี้ ซึ่งเราไม่ได้กำหนดโทนสีสามารถใส่สีอะไรมาก็ได้ เพราะด้วยธีมมันก็ยากอยู่แล้ว อย่างผู้หญิงก็มีทั้งชุดใหญ่ ชุดกลางที่หาได้ทั่วไป หรือจะใส่สูทมีหมวกแบบผู้ชายก็ได้ ส่วนผู้ชายจะง่ายหน่อยเพราะใส่สูทธรรมดาก็เข้าธีม หรือบางคนอาจจะเพิ่มพร็อพพวกหมวกทรงสูง ไม้เท้า ซึ่งตอนส่งธีมเดรสโค้ดไปก็บอกเขาว่าจะแต่งหรือไม่แต่งก็ได้เอาที่สะดวกเลยขอแค่มาร่วมงานเท่านั้นเอง อยากให้มาสนุกด้วยกัน”

การ์ดแต่งงานและของชำร่วยที่คุณจี๊ปออกแบบด้วยตัวเอง

และด้านล่างคือลิ้งก์ของพี่ๆ แลเพื่อนๆ ที่มาให้ความช่วยเหลือเจ้าบ่าวเจ้าสาวในเรื่องต่างๆ ซึ่งคุณจี๊ปทำกราฟิกออกมาได้น่ารักมากกกกก

https://www.facebook.com/sakyai.mongkonprasert/media_set?set=a.10217555432891521&type=3&sfns=mo

Recommended