โยนดอกไม้…ทำไมต้องโยน? แล้วจะโยนช่อดอกไม้ให้เพื่อนสาวได้ยังไงบ้าง เราพร้อมตอบทุกข้อสงสัยแล้ว
หลายคนคงจะสงสัยกันใช่ไหมล่ะว่าทำไมในตอนท้ายของงานฉลองมงคลสมรสจะต้องมีการ โยนดอกไม้ ด้วย ไม่โยนไม่ได้เหรอ แล้วทำไมเวลาโยนทีไร สาวโสดทั้งหลายจะต้องแย่งกันออกไปรับรับทุกที วันนี้เราจะมาไขปริศนาให้หนุ่มๆ สาวๆ หายสงสัยพร้อมแนะวิธีโยนดอกไม้ถึงมือสาวโสดคนต่อไป
ทำไมถึงโยนช่อดอกไม้?
ต้องบอกก่อนว่าในอดีตดอกไม้ที่เราเห็นกันว่าเจ้าสาวถือนั้น เพียงแค่ถือประดับไว้เพื่อความสวยงามในวันแต่งงาน ไม่ได้นำมาโยนแต่อย่างใด โดยเจ้าสาวบางคนจะถือช่อสมุนไพรแทนช่อดอกไม้ก็มีเช่น พวงกระเทียม, ช่อเครื่องเทศ เนื่องจากเชื่อกันว่าในวันแต่งงานมักจะมีปีศาจขี้อิจฉาแฝงตัว เข้ามาทำลายความสุขของบ่าวสาวในวันแต่งงาน เพราะเครื่องเทศมีกลิ่นแรงเหล่านี้จะช่วยขับไล่ทำให้พวกปีศาจ วิญญาณร้าย หรือสิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้าใกล้เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ แต่พอมาในยุคสมัยกรีกโรมันก็ได้เริ่มดัดแปลงจากช่อดอกไม้หรือช่อสมุนไพรมาเป็นมงกุฎแทน แต่ยังคงเป็นมงกุฎดอกไม้ที่ประดับไปเครื่องเทศสมุนไพรเช่นเดิม
พอมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 14 ในยุโรป เริ่มเกิดความเชื่อที่ว่าถ้าได้ชิ้นส่วนจากชุดเจ้าสาวไปเป็นที่ระลึกจะทำให้พบเนื้อคู่และมีโอกาสได้แต่งงานในเร็วๆนี้ซึ่งชิ้นส่วนที่สาวๆ ทั้งหลายต้องการคือ สายรัดใส่ถุงน่อง (Garter) ด้วยความเชื่อที่ว่าอยู่ใกล้อวัยวะเพศหญิงจึงเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ ทำวันแต่งงานเกิดความวุ่นวาย เจ้าสาวโดนชุดกระชากลากตัวเพื่อที่จะเอาชิ้นส่วนของชุดหรือสายรัดถุงน่องให้ได้ ทำให้ประเพณีนี้อยู่ได้ไม่นาน จนในที่สุดก็เปลี่ยนมาเป็นการโยนช่อดอกไม้จนถึงปัจจุบัน
ดอกไม้อะไรที่นิยม ?
ดอกไม้ที่ได้รับความนิยมคงจะหนีไม่พ้น กุหลาบ เยอบีร่า ลิลลี่ เพียวโอนี่ สแตติส และยิปซียิปโซ นอกจากเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักแล้ว ยังไม่เหี่ยวเฉาง่ายด้วยนะ หรือถ้าจะใช้ดอกอื่นๆ ตามความชอบหรือเลือกดอกที่เข้ากับธีมงานก็ไม่ว่ากัน แต่แนะนำว่าควรเลือกดอกไม้ที่อยู่ได้นานโดยไม่ต้องพึ่งน้ำมากหนัก เพราะกว่าจะเจ้าสาวจะโยนก็ช่วงค่ำ ถ้าช่อดอกไม้เหี่ยวช้ำ ไม่สดขึ้นมา แล้วจะหาว่าไม่เตือนนะจ๊ะ
ทีนี้มาดูวิธีการโยนดอกไม่กันบ้าง เท่าที่เราเห็นส่วนใหญ่คือ เจ้าสาวหันหลังโยนหรือไม่ก็หันหน้าโยน หันข้างบ้างละ ซึ่งรู้ไหมว่าไม่มีกฎข้อไหนบังคับไว้ว่าห้ามโยนแบบอื่นนะ เพราะยังมีวิธีแจกดอกไม้ที่เก๋ไก๋กว่านั้น ไปดูเลย
- หันหลังโยน และหันหน้าโยน
เป็นวิธีเบสิคทั่วโลกที่นิยมใช้กันมาอย่างนมนาน ถ้าเจ้าสาวคนไหนชอบความคลาสสิกละก็ ใช้วิธีนี้ได้เลย แต่เวลาโยนโยนให้สุดแรงเลยนะจ๊ะภาพจะได้ออกมาสาวๆ ถ้าหันหลังโยนละก็อย่าลืมมองเพดาน หรือแชนเดอร์เลียร์ด้วยนะ โยนแรงทำของเข้าเสียหายงานเข้าแน่นอน แต่ถ้าจะหันหน้าโยนเล็งเลยจ้าอยากโดนหาใครมุมไหนเอาตามต้องการได้เลย
2. ดึงริบบิ้น
เป็นอีกวิธีที่ครีเอทไม่เบา สำหรับการดึงริบบิ้นแล้วได้ช่อดอกไม้ไปเลย แต่แนะนำว่าต้องดูปริมาณของเพื่อนเจ้าสาวและปริมาณริบบิ้นด้วยนะจ๊ะ อย่าลืมผูกริบบิ้นกับช่อดอกไม้แค่เส้นเดียวนะจ๊ะ ไม่งั้นเพื้อนเจ้าสาวดึงแย่งกันตายเลย และวิธีนี้ต้องจัดการให้ดีละ ถ้าพันกันขึ้นมานี่งานเข้าเลยนะ
3. การเล่นเกม
ถึงจะดูเหมือนเป็นวิธีธรรมดา แต่ก็สามารถสร้างความสนุกแต่เสียงหัวเราะภายในงานได้ บ่าวสาวอาจเลือกเกมที่ตนเองชอบมาเล่น เช่น ตอบคำถาม เก้าอี้ดนตรี แข่งกินอาหาร เสี่ยงเซียมซี ใครเป็นที่สุดก็รับช่อดอกไม้ไปเลย
4. ตั้งใจให้เป็นพิเศษ
ในกรณีที่บ่าวสาวมีคนที่อยากให้ช่อดอกไม้อยู่ในใจแล้ว ก็สามารถเลือกเฉพาะเจาะจงได้เลยเช่น พ่อสื่อหรือแม่สื่อที่ทำให้ทั้งคู่เจอกัน หรือเรียกเพื่อนเจ้าสาวทั้งหมดมารับเลยก็ได้ แต่ถ้าอย่าบอกก่อนล่วงหน้าละ ให้เจ้าตัวเซอร์ไพร้ส์ในวันงานเลย
ส่วนเจ้าบ่าวก็อย่าพึ่งน้อยใจไปเลย สาวๆ เขาแจกช่อดอกไม้กันไปแล้ว เจ้าบ่าวก็แจกได้เช่นกันนะจ๊ะ โดยส่วนใหญ่ที่นิยมคือโยนตุ๊กตา ลูกฟุตบอลเล็กๆ หรือโยนของที่เตรียมมาเป็นพิเศษ ให้กับเพื่อนเจ้าบ่าวใครได้ก็รับรางวัลไปเลย
เป็นไงกันบ้างจ๊ะสาวๆ อ่านจบแล้วพอจะได้ไอเดียในการโยนดอกไม้กันบ้างไหม แต่อย่างไรแล้วกิจกรรมสนุกๆ แบบนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ความชอบของบ่าวสาวและธีมงานเลยคะ ส่วนหนุ่มสาวที่พึ่งได้รับดอกไม้ไปก็อย่าพึ่งคิดว่าตนจะได้แต่งงานแน่นอน ตามคำพูดที่ใครๆ เขาบอก ที่สุดแล้วต้องให้คุณทั้งคู่เป็นคนตัดสินใจเองนะ ส่วนใครที่รับดอกไม้มาเป็นสิบๆ ช่อแล้วยังไม่มีแฟน ก็รอต่อไปนะ คิดซะว่าเนื้อคู่กำลังเดินทางมาจ้า
รู้อย่างนี้แล้วก็ไปเลือกช่อดอกไม้เจ้าสาวสวยๆ รอไว้เลย >>> 30 ช่อดอกไม้เจ้าสาว กับสีสุดฮิตไม่ว่าจะเป็นงานแต่งสไตล์ไหนก็คุมโทน
ภาพเปิด :เรือนประกายเพชร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี