สร้างคาแร็กเตอร์ให้งานแต่งงานด้วย แคเทอริ่ง สุดสร้างสรรค์จาก i do catering

คุณเก่ง – ฉัตรชัย แป้นโพธิ์กลาง กรรมการผู้จัดการ i do catering ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการ Wedding Party มายาวนานกว่า 10 ปี กับการสร้างสรรค์เมนูอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวช่วยให้งานแต่งงานของบ่าว – สาวแตกต่างและมีคาแร็กเตอร์ การันตีได้จากผลงานที่ได้รับเสียงชื่นชมจากบ่าว – สาวอยู่เสมอ และนี่คือคำแนะนำดีๆ จากฟู้ดสไตลิสต์คนเก่งที่อยากส่งต่อถึงบ่าว – สาวที่กำลังมองหา แคเทอริ่ง สำหรับวันสำคัญเพื่อให้งานในฝันออกมาเพอร์เฟ็กต์

Idea Dream Organization = i do catering

“เราเป็นครีเอทีฟแคเทอริ่งสร้างสรรค์เมนูค็อกเทลที่มุ่งเน้นตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการรูปแบบอาหารที่มีคาแร็กเตอร์ให้เข้ากับธีมงานและสถานที่ เน้นอาหารดีไซน์เก๋มีกิมมิก โดยคำนึงถึงธีมสีและธีมงานเป็นหลัก เช่น หากธีมงานเป็นดอกไม้เราก็ทำซูชิที่มีดอกไม้หรือน้ำสลัดกลิ่นไซรัปดอกกุหลาบ หรือหากบ่าว – สาวกลัวว่าค็อกเทลคำเล็กจะไม่อิ่ม เราสามารถทำเป็นเฮฟวี่ค็อกเทลได้ในบางเมนู เช่น ครีเอตภาชนะใส่อาหารที่สามารถกินได้เลย โดยใช้ขนมปัง แผ่นเกี๊ยวทอด หรือแผ่นแป้งมาทำเป็นช้อนหรือถ้วยก็ช่วยให้แขกอิ่มท้องมากขึ้น และมีบริการค็อกเทลคู่กับฟู้ดสเตชั่นที่มีเชฟมาทำให้กินแบบร้อนๆ ให้เลือกกว่า 100 เมนูด้วย

“นอกจากนี้ i do catering ยังมีเซตสำหรับแขกผู้ใหญ่หรือแขกวีไอพีที่ไม่สะดวกลุกไปหยิบค็อกเทลหรือต่อแถวที่ฟู้ดสเตชั่นไว้บริการ โดยจัด โต๊ะอาหารแบบลองเทเบิลหรือโต๊ะกลมอย่างสวยงาม เสิร์ฟเมนูค็อกเทลบนไฮทีให้แขกกินร่วมกันโดยมีพนักงานคอยเติมอาหารให้เรื่อยๆ พร้อม เซตอาหารจานหลักอีก 1 จานที่จัดมาให้อย่างสวยงาม โดยมี 2 เมนู ให้แขกเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งพร้อมบริการเสิร์ฟถึงโต๊ะ”

i do catering ที่เป็นมากกว่าแคเทอริ่ง

“อาหารของ i do catering ทุกคำเราคิดมาให้แล้วว่าต้องทำอย่างละกี่คำถึงจะเหมาะสมพอดี เช่น แขก 100 คน เราทำ 10 เมนูคละกันไปอย่างละ 100 คำ เท่ากับจะมีค็อกเทลเสิร์ฟในงานทั้งหมด 1,000 คำ แขก 1 คน จะได้กินทั้งหมด 10 คำ อย่างละ 1 คำ แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่าแขกจะกินเมนูไหนอย่างละกี่คำ เพราะฉะนั้นเชฟจะดูเมนูที่บ่าว – สาวเลือกโดยใช้ประสบการณ์การทำงานในวงการมากว่า 10 ปี แล้วจัดสรรจำนวนเมนูต่อคำให้เข้ากับความนิยมในแต่ละเมนู โดยยังคงจำนวน 1,000 คำไว้เหมือนเดิม แต่สัดส่วนของแต่ละเมนูจะมากน้อยต่างกันไป ซึ่งจากการวิเคราะห์นี้ บ่าว – สาวจึงมั่นใจได้ว่าเมนูต่างๆ จะเพียงพอสำหรับแขกในงานแต่งอย่างแน่นอน”

เทรนด์อาหารในงานแต่งงาน

“ตอนนี้เทรนด์อาหารค็อกเทลยังเป็นแบบฟิวชั่นผสมผสานระหว่างความอินเตอร์กับความเป็นไทย เน้นรูปแบบที่สวยงามพร้อมรสชาติควบคู่ไปกับเทรนด์พร็อปส์ที่ช่วยเพิ่มกิมมิกให้อาหาร เช่น เมนูเมี่ยงทูน่าที่มีหลอดสำหรับบีบซอสลงในตัวเมี่ยงแทนการเสิร์ฟแบบราดน้ำซอสที่อาจทำให้อาหารดูไม่น่ากินและเลอะเทอะง่าย จึงช่วยให้เมนูดูสวยงามน่ากินมากขึ้น และตอนนี้คนไม่ได้เสพแค่การกินอย่างเดียว แต่นิยมถ่ายรูปก่อน เพราะฉะนั้นถ้าอาหารมีลูกเล่นก็ช่วยเพิ่มอรรถรสได้อีกทาง ซึ่งความสวยงามก็ต้องมาพร้อมรสชาติที่อร่อยและคุณภาพของวัตถุดิบที่ใหม่สดสะอาดเสมอด้วย”

บ่าว – สาวต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนเข้ามาพบแคเทอริ่ง

“บ่าว – สาวต้องทราบจำนวนแขกคร่าวๆ และแจ้งว่าจะจัดงานเช้าหรืองานเย็น โดย 1 เดือนล่วงหน้าก่อนวันงานเราจะนัดบ่าว – สาวเข้าไปดูสถานที่จริงและคอนเฟิร์มจำนวนแขกอีกครั้งเพื่อความแน่นอน หากเป็นงานเช้าจะแนะนำว่าให้มีคอฟฟี่เบรกกินคู่กับขนม แซนด์วิช หรือพาย และมีซุ้มอาหารเบาๆ อย่างข้าวต้มปลาหรือกุ้ง พร้อม egg station ที่มีเชฟมาปรุงให้กินร้อนๆ หลังจบมื้อเช้าหาก บ่าว – สาวมีเลี้ยงกลางวันต่อ หลายคู่นิยมเลือกค็อกเทลคู่กับฟู้ดสเตชั่น หรือบางคู่อาจเลือกเป็นบุฟเฟต์ ซึ่งบุฟเฟต์ของเราก็จะจัดตกแต่งไว้ให้อย่างสวยงาม”

คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับบ่าว – สาวที่กำลังมองหาแคเทอริ่ง

“อยากให้คำนึงถึงความต้องการของตัวเองเป็นหลัก โดยดูว่ารูปแบบงานที่ต้องการเป็นแบบไหน เพราะทุกแคเทอริ่งก็มีจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่ บ่าว – สาวต้องให้ความสำคัญคือ รสชาติและคุณภาพของวัตถุดิบ สุดท้ายอยากให้มองว่างานแต่งงานเป็นงานของคุณสองคน อยากให้เลือกทำทุกอย่างจากสิ่งที่ตัวเองชอบ อย่ายึดติดกับเทรนด์มากเกินไปจนลืมว่าตัวตนจริงๆ ของเราเป็นแบบไหน ไม่อย่างนั้นผ่านไป 10 ปีเราอาจรู้สึกว่าวันนั้นไม่ใช่ตัวตนของเราเลย และปัจจุบันผู้ใหญ่ก็เปิดกว้างยอมรับมุมมองความคิดของเด็กสมัยใหม่มากขึ้น ดังนั้นในเมื่อวันนี้เป็นวันของคุณ เราก็อยากให้คุณมีความสุขที่สุดและเลือกรูปแบบการจัดงานที่เป็นงานในแบบของคุณจริงๆ”