เตรียมงานแต่ง ให้ดี รับรองงานดีไม่มีพลาด
ทันที่ทีคู่รักตกลงปลงใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน แน่นอนว่าสิ่งที่จะตามมาก็คือการจัดงานวิวาห์นั่นเอง โดยบางคู่ก็รีบจัดเตรียมทุกอย่างจนอาจหลงลืมบางอย่างที่จำเป็นก่อนเริ่ม เตรียมงานแต่ง แพรว wedding เลยขอมาดึงสติว่าที่บ่าวสาวกับ 5 ข้อที่ควรรู้ก่อนเริ่มเตรียมงานแต่ง
1. อย่าเริ่มแพลนงานก่อนตั้งงบประมาณ
แน่นอนว่าคู่รักหลายคู่มีงานวิวาห์ในฝันอยู่ในใจและอยากที่จะทำให้ได้ออกมาตามนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสถานที่ การตกแต่ง หรือธีมงานที่หรูเริดอลังการ แต่กลับหลงลืมไปว่าแล้วงบประมาณในกระเป๋านั้นเพียงพอที่จะเป็นไปได้ในการจัดงานวิวาห์ในฝันตามที่ตัวเองอยากได้หรือเปล่า บางคนวางแผนมาอย่างดีแต่สุดท้ายต้องล้มไม่เป็นท่าเพราะเงินไม่ถึง สุดท้ายแล้วก็ต้องปรับทุกอย่างตามงบ ทั้งตัดจำนวนแขก ตัดงบการตกแต่ง หรือปรับเมนูอาหาร กลายเป็นต้องวุ่นวาย 2 รอบ เพราะฉะนั้นจะดีกว่าไหมถ้าว่าที่บ่าวสาวลองตั้งงบประมาณในการจัดงานแต่งขึ้นมาก่อน จะได้รู้ว่าต้องใช้เงินไปกับส่วนไหนเท่าไหร่บ้า
2. อย่าจัดงานเอ้าท์ดอร์โดยไม่มีแผนสำรอง
ข้อนี้สำคัญมากสำหรับว่าที่บ่าวสาวที่คิดจะจัดการแต่งแบบเอ้าท์ดอร์ เพราะคุณไม่สามารถจะเอาแน่เอานอนกับสภาพอากาศเมืองไทยที่อาจมีฝนตกได้ทุกฤดูกาลเลย เพราะฉะนั้นการเตรียมแผนสำรองในวันสำคัญจึงเป็นสิ่งจำเป็นและควรทำเป็นอย่างยิ่ง เช่น อาจจะต้องสั่งจองเต๊นท์ หรือให้ทางสถานที่เตรียมห้องไว้ให้ในกรณีฉุกเฉิน เพราะถ้าไม่เตรียมรับมือไว้ งานแต่งสวยๆ ของคุณอาจกลายเป็นงานสงกรานต์ได้นะจ๊ะ
3. อย่าประมาทค่าใช้จ่ายในการจัดงานเอ้าท์ดอร์
งานกลางแจ้งไม่ใช่แค่การกางเต๊นท์สีขาวสวยๆ แล้วจบ เหมือนตามรูปภาพที่ว่าที่บ่าวสาวเห็นหรือนำมาเป็นเรฟเฟอร์เรนซ์นะคะ เพราะคุณยังต้องมีงบค่าขนส่งและติดตั้งทุกสิ่งอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นเต๊นท์ครัวนอกสถานที่ โต๊ะเก้าอี้ สุขาเคลื่อนที่ ระบบไฟ เครื่องเสียง พัดลม นี่ยังไม่ควมค่าจัดการที่เพิ่มขึ้นและการเตรียมแผนสำรองกรณีฝนตกอีกนะ
4. อย่าเชิญแขกเยอะจนล้นห้อง
แขกคนนี้ก็สำคัญ แขกคนนั้นก็ขาดไม่ได้ ทำไปทำมาเลยตัดออกไม่สักคน จึงกลายเป็นว่างานแต่งของบ่าวสาวนั้นกลายเป็นงานแฟร์รวมญาติพี่น้องเพื่อนสนิททุกหมู่เหล่าไปเลย แถมมองไปทางไหนก็เห็นแต่คนๆๆๆ จนกลายเป็นกลบความสวยงามอลังการในงานแต่งที่คุณอุตสาห์เสกสรรค์มาจนหายวับไปกับการเบียดเสียดเยียดยัด แถมการคมนาคมภายในงานก็ไม่สะดวกเพราะแขกจะยืน-เดินก็ลำบาก แถมยังมองไม่เห็นหรือไม่ได้ยินช่วงพิธีการไปอีก ที่สำคัญอาหารอาจจะหมดเกลี้ยงก่อนที่พิธีการจะเริ่ม โอโห เชื่อสิว่างานนี้แขกได้บ่นกันยันลูกบวชโน่นนนน
5. วางใจทีมงาน
หากว่าที่บ่าวสาวตัดสินใจเลือกใช้เวดดิ้งแพลนเนอร์ ก็อาจจะต้องทำการบ้านกันสักนิดนะคะ ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยเอาเจ้าไหนก็ได้จนต้องมาเสียใจภายหลัง เพราะฉะนั้นว่าที่บ่าวสาวควรเลือกทีมงานที่ไว้ใจได้จากการพูดคุย ประสบการณ์ และผลงานที่ผ่านมา จากนั้นเมื่อได้เวดดิ้งแพลนเนอร์เป็นที่เรียบร้อย สิ่งต่อมาที่ว่าที่บ่าวสาวต้องทำก็เพียงแค่บรีฟสิ่งที่ต้องการให้ละเอียดแล้วติดตามผลเป็นระยะก็พอ ไม่ใช่จิกและนอยด์ทุกอย่างจนไม่เป็นอันทำอะไร แบบนี้ก็ไม่ไหวนะจ๊ะ
มีเรื่องที่ต้องรู้ล่วงหน้าแล้ว ก็มีเรื่องที่บ่าวสาวต้องระวังด้วยนะกับ >> เช็กด่วน!! 10 เรื่องพลาดที่บ่าวสาวต้องระวังในช่วงเตรียมงานแต่งงาน
ภาพ huffingtonpost.com