วิธีคำนวณ การ์ดแต่งงาน และของชำร่วย พร้อมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ไม่ควรพลาด!!

สั่ง การ์ดแต่งงาน และของชำร่วย ยังไงให้เป๊ะ พร้อมความสวยเก๋ถูกใจ

แม้ในยุคที่บ่าวสาวสามารถเชิญแขกผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กได้ แต่ยังไงบัตรเชิญหรือ การ์ดแต่งงาน ที่จับต้องได้ก็ยังมีความจำเป็นและแขกมักจะถามถึงเสมอ แต่จะทำยังไงให้บัตรเชิญหรือการ์ดแต่งงาน รวมไปถึงของชำร่วยนั้นสวยเก๋เท่ถูกใจทั้งผู้ให้และผู้รับ แพรว wedding มีไอเดียดีๆ มาฝาก พร้อมหลักการคำนวณการสั่งของทั้งสองอย่างให้เป๊ะอีกด้วย

การ์ดแต่งงาน หรือบัตรเชิญ

– เมื่อวางแผนจะแต่งงานให้ว่าที่บ่าวสาวลิสต์รายชื่อแขกของตัวเองอย่างละเอียด เช่น บ้านคุณยาย…(ชื่อ) 1 ซอง 4 คน, เจ้านาย…(ชื่อ) 1 ซอง 2 คน ฯลฯ จากนั้นนำทุกรายชื่อมารวมกันแล้วสั่งการ์ดเผื่อ 50-100 ซอง (แล้วแต่จำนวนแขก) ซึ่งข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกขนาดห้องจัดเลี้ยงด้วย

– ถ้าคำนวณการ์ดขาดไปแล้วต้องสั่งเพิ่ม ร้านส่วนใหญ่จะรับออเดอร์อย่างต่ำ 100 ใบ (สำหรับการ์ดสำเร็จ) หรือ 200-250 ใบ (สำหรับการ์ดดีไซน์) ดังนั้นถ้าพิมพ์น้อยราคาอาจสูงกว่าเดิม หรือบางร้านแม้ราคาเท่าเดิมแต่ถ้าต้องการงานด่วนก็ต้องจ่ายเพิ่มอยู่ดี

– ควรขอซองเกินจำนวนการ์ดเผื่อไว้ในกรณีจ่าหน้าซองผิด หรือวางไว้หน้างานเผื่อแขกขอ

– สะกดชื่อ-นามสกุลแขกอย่างถูกต้อง และระบุให้ชัดว่า…และครอบครัว หรือ…และภรรยา แขกจะได้รับทราบว่าได้รับเชิญกี่คน หรือแขกจะได้สะดวกใจว่าสามารถพาครอบครัว หรือภรรยาไปร่วมงานด้วยได้ และอาจจะหลีกเลี่ยงการจ่าหน้าซองด้วยหมึกสีดำสำหรับการจ่าหน้าซองให้กับผู้ใหญ่ เพราะผู้ใหญ่บางท่านอาจจะถือเรื่องนี้

การ์ดแต่งงาน

ข้อควรรู้ก่อนสั่งทำการ์ดแต่งงานแบบ Made to Order

– อันดับแรกบ่าวสาวต้องกำหนด Mood & Tone และอารมณ์ของการ์ดแต่งงานไปคุยกับร้านการ์ด โดยอาจจะกำหนดจากธีมงานบวกกับความชอบส่วนตัวของบ่าวสาวก็ได้ และถ้าหากบ่าวสาวมีแบบหรือสไตล์ที่ชอบก็อาจจะนำภาพหรือการ์ดจริงๆ มาให้ทางร้านได้ดูเป็นตัวอย่าง เพื่อที่ทางร้านจะได้ออกแบบได้อย่างตรงใจ พร้อมกำหนดเนื้อหรือรูปแบบกระดาษให้กับทางร้านด้วยว่าบ่าวสาวอยากได้แบบไหน เช่น กระดาษแบบแข็งหรือกระดาษแบบอ่อน รวมไปถึงเรื่องเทคนิคการพิมพ์ต่างๆ ที่บ่าวสาวต้องการด้วย เช่น ปั๊มนูนหรือปั๊มฟรอยด์ เป็นต้น

– บ่าวสาวควรเคลียร์กับทางร้านให้ชัดเจนถึงคำว่า “ออกแบบ” เพราะคำนี้สำหรับทางร้านนั้นหมายถึง การออกแบบใหม่ตั้งแต่ศูนย์เพื่อคู่ของบ่าวสาวโดยเฉพาะ หรือหมายถึงการปรับเปลี่ยนรายละเอียดจากแบบที่มีอยู่ เพื่อที่จะได้เข้าใจตรงกัน แฮปปี้ทั้งสองฝ่าย

– การ์ดออกแบบใหม่ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 40-50 บาท และถ้าสั่งจำนวนมากราคาจะถูกลง

– หากบ่าวสาวต้องการการ์ดแต่งงานในรูปแบบอี-การ์ดด้วย อาจจะลองเจรจากับทางร้านเพื่อขอไฟล์และนำไปปรับใช้ แต่ยังไงก็ต้องไม่ลืมว่าสังคมไทยเป็นสังคมที่ละเอียดอ่อน ถึงยังไงการส่งการ์ดแต่งงานของจริงก็ยังเป็นการแสดงถึงความตั้งใจในการเชิญและเพื่อให้ผู้ได้รับเชิญเกิดความสบายใจที่จะไปร่วมงานด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะสำหรับแขกผู้ใหญ่ และเพื่อเป็นการตัดปัญหาที่ว่า “ทำไมคนอื่นได้การ์ด แล้วฉันได้แค่อี-การ์ด!!”

ของชำร่วย

– ควรสั่งของชำร่วยเผื่อไว้อย่างน้อย 50-100 ชิ้น (แล้วแต่จำนวนแขก) เพราะถึงแม้ว่บ่าวสาวจะกำหนดของชำร่วยไว้ 1 ชิ้นต่อ 1 ซอง แต่แขกบางท่านอาจขอเพิ่ม ถ้าเกิดกรณีเช่นนี้ควรบอกให้แขกมารับเพิ่มหลังงาน เพื่อให้แขกที่มาทีหลังได้รับของชำร่วยอย่างทั่วถึง เพราะฉะนั้นอย่าลืมกระซิบบอกผู้ที่ทำหน้าที่อยู่ที่โต๊ะลงทะเบียนด้วยนะคะ ว่าให้ใจแข็งสักนิดและต้องพูดจาด้วยความนอบน้อมและยิ้มแย้มด้วยน้า

– ของชำร่วยเหลือดีกว่าขาด เพราะหากสั่งเพิ่มราคาจะสูงขึ้นอีกเล็กน้อย อีกทั้งการส่งของตามทีหลังจะยุ่งยากและไม่ได้ความรู้สึกดีๆ เหมือนรับจากหน้างาน แต่ถ้ากรณีที่บ่าวสาวสั่งของชำร่วยมาเยอะจนเหลือก็อาจจะนำไปแจกคนที่เราไม่ได้เชิญมางานแต่ง หรือเชิญแล้วเขาไม่สะดวกมาก็ได้ เพื่อเป็นการแสดงถึงความมีน้ำใจไปในตัว

– เมื่อบ่าวสาวได้รับของชำร่วยและการ์ดแต่งงานจากร้านแล้ว อย่าลืมเก็บของทั้งสองอย่างไว้เป็นที่ระลึกสำหรับตัวเองและพ่อแม่ของบ่าวสาวด้วย หากมาคิดได้ทีหลังไม่เหลือให้เก็บและจะเสียใจภายหลังเอาได้น้า

รู้แล้วก็มาดูแบบการ์ดแต่งงานสวยๆ กันต่อเลย 8 ไอเดียการ์ดแต่งงานสุดเก๋ที่บ่งบอกสไตล์ของบ่าวสาวได้

ภาพ : pexels.com, pinterest.com

Recommended