กว่าที่คนเราจะเจอกันมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะคะ ยิ่งมาถึงขั้นได้แต่งงานกันก็ยากเอาเรื่องขึ้นไปอีก และต่อให้ได้แต่งงานกันจริงๆ ชีวิตคู่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคนสองคนที่โตมาคนละแบบต้องมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน มีหลายคู่รักเลยทีเดียวที่บางครั้งก็ทำอะไรผิดพลาดไป โดยเฉพาะในช่วงปีแรกของชีวิตแต่งงานที่การปรับตัวยังไม่ลงตัว วันนี้แพรว wedding ก็เลยนำสรุป 3 เรื่องพลาดสุดฮิตที่กลายเป็นปัญหาในชีวิตคู่มาฝาก เอาเป็นว่าคู่ไหนดีอยู่แล้วก็ยินดีด้วย แต่คู่ไหนไม่ชัวร์ว่าเข้าข่ายไหม มาดูกัน
เรื่องพลาดลำดับที่ 1 : ไม่เคยคุยกันเรื่องนิสัยแย่ๆ ของอีกฝ่าย
บางคนเข้าใจนะคะว่าคนเรามาจากต่างครอบครัว ต้องเจออะไรที่ไม่เหมือนกันมาก่อน ส่งผลให้ความคิดความอ่านความเห็นต่างกัน และหวังว่าแต่งงานไปจะปรับตัวทำความเข้าใจได้ อันนั้นก็จริง แต่หลายคู่ตกม้าตายที่รู้สึกกับนิสัยไม่ดีของอีกคนแล้วปล่อยปละ ไม่บอกไป ก็เลยทำให้เกิดปัญหาไงคะ
ลองคิดดูค่ะ หากเราจำเป็นต้องอยู่กับคนๆ นึงไปตลอดชีวิต มันก็เป็นเรื่องจำเป็นที่เราจะต้องคุยกันได้ในทุกๆ เรื่อง ยิ่งเรื่องนิสัยแย่ๆ ของอีกฝ่ายยิ่งต้องรับรู้กันไว้ให้ดี เพราะตอนแรกที่จีบกัน มันอาจจะยังพอทนได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็คงไม่มีใครรับประกันความอดทนของอีกฝ่ายได้ใช่มั้ยคะ ถ้าคู่รักของคุณมีนิสัยชอบทิ้งของเกลื่อนกลาด หรือไม่ยอมล้างจานเลย ก็คงต้องพูดคุยบอกกล่าวในข้อเสียนั้นตรงๆ แล้วค่อยๆ ช่วยกันหาทางปรับปรุงเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ
เรื่องพลาดลำดับที่ 2 : ไม่คุยกันเกี่ยวกับเรื่องเงิน
ไม่ว่าคุณจะเป็นคู่รักใช้เงินกองกลาง หรือแยกกระเป๋าตัวใครตัวมัน แต่เมื่อมาอยู่ด้วยกันก็ต้องมีอะไรตรงกลางอยู่แล้ว จะเป็นค่าไฟ ค่าน้ำ อะไรที่ใช้ด้วยกัน ซึ่งค่านั่นนี่กลายเป็นหัวข้อความคิดว่าเธอเอาเปรียบฉันมานักต่อนัก เพราะเรื่องเงินไม่ว่าจะกับใครก็เป็นเรื่องสำคัญค่ะ แต่คู่รักก็มักจะหลีกเลี่ยงการพูดคุยตกลงเกี่ยวกับเงินในช่วงแรกๆ ของชีวิตแต่งงานทั้งนั้น เพราะมันจะทำลายความโรแมนติก และอาจจะนำไปสู่การทะเลาะกันได้
ฉะนั้นลองมาคิดกันใหม่ดีกว่า เพราะเราต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ควรต้องช่วยกันรับผิดชอบด้วย คุยตกลงกันให้ชัดไปเลยว่าต้องใช้เงินค่าอะไรบ้าง ควรเก็บเงินเท่าไหร่ หรือใครมีหน้าที่ดูแลเงิน ที่สำคัญจ่ายได้แค่ไหนจะมากจะน้อย บอกกันไปเลยตรงๆ อย่าได้กั๊ก ดีกว่ามาหมุนเงินไม่ทันแล้วโดนตัดไฟไม่รู้นะ
เรื่องพลาดลำดับที่ 3 : หน้าที่ในบ้านไม่เท่ากัน
แม้จะไม่ได้มีกฎตายตัวที่ต้องให้ผู้หญิงทำงานบ้านทุกอย่างและคุณผู้ชายทำงานนอกบ้านคนเดียวจนอาจจะคิดว่าการทำงานนอกบ้านเป็นเรื่องที่เหนื่อยมาก เมื่อเทียบกับงานในบ้าน ซึ่งจริงๆ แล้วเดี๋ยวนี้สามีภรรยาต่างก็ช่วยกันออกไปทำงานนอกบ้านแทบทั้งนั้น ฉะนั้นถ้าคุณเป็นคู่รักที่ทำงานนอกบ้านเหมือนกัน ลองมาแบ่งหน้าที่งานในบ้านกันบ้างดีไหมคะ เพราะงานบ้านก็ไม่ใช่เบาๆ นะคะ ไหนจะต้องเตรียมอาหารทั้ง 3 มื้อ เก็บกวาดทำความสะอาด และยิ่งถ้ามีลูกตัวน้อยด้วยนี่ยิ่งโหดร้ายมากสำหรับคุณแม่บ้านทั้งหลาย ดังนั้นอะไรที่ช่วยได้ก็ควรจะช่วยกันทำ ถือเป็นการแสดงความรักต่อกันอย่างหนึ่งด้วยนะคะ
ภาพ : https://i.pinimg.com