ถึงแม้จะไม่ได้รับเกียรติให้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวในงานแต่ง แต่ถ้าคุณได้รับเชิญจากบ่าวสาวให้ ไปงานแต่ง อย่างเป็นทางการแล้วล่ะก็ งานนี้ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณก็คงมีความสำคัญกับบ่าวสาวไม่น้อยเช่นกัน เพราะฉะนั้นไปดูกันดีกว่ามีอะไรบ้างนะที่คนเป็นแขกอย่างเราต้องระวัง ไม่เผลอไปทำอะไรจนกลายเป็นแขกที่ไม่พึงประสงค์ให้เจ้าภาพต้องส่ายหน้าหนี
1. ลืมคอนเฟิร์มไปงาน
ถ้าหากในการ์ดเชิญมีข้อความให้คุณตอบยืนยันว่าจะไปร่วมแสดงความยินดี ก็อย่าลืมตอบกลับว่าจะไปหรือไม่ไป เพราะบ่าวสาวอาจกำหนดที่นั่งของแต่ละคนมาแล้ว หรือเป็นงานเฉพาะจริงๆ เขาจะได้เตรียมที่นั่งให้ได้ถูก
2. สายเสมอ
หลายคนถือคติ “ไปสายหน่อยดีกว่าไปก่อนงานเริ่ม” อยากบอกว่าผิดมหันต์ เพราะที่จริงควรไปก่อนเวลาที่ระบุในการ์ดนิดหน่อย และถ้าไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาล่ะก็ห้ามไปหลังงานเริ่มเด็ดขาด ลองคิดดูว่าเขากำลังทำพิธีกันอยู่แล้วมีคุณเดินเข้าไปในงาน แค่คิดก็หนาวแล้ว
3. โทรไปถามสารพัดอย่างกับบ่าวสาว
ช่วงก่อนแต่งงานเป็นเวลาที่บ่าวสาวยุ่งกับภารกิจชีวิตมาก ทางที่ดีอย่าโทรไปรบกวนเลย ถ้าสงสัยอะไรก็ลองถามจากเพื่อนในก๊วนที่ไปงานด้วยจะดีกว่า แต่ถ้าสุดท้ายแล้วไม่มีใครตอบได้สักคนค่อยส่งข้อความไปถามบ่าวสาวก็ได้
4. ลืมปิดเสียงโทรศัพท์
อันนี้สำคัญสุดๆ โดยเฉพาะระหว่างกำลังทำพิธีทางศาสนาหรือพิธีที่ต้องการความเงียบสงบ เกิดคุณใช้ริงโทนสุดมันส์แล้วดังแหวกความเงียบขึ้นมา สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือสายตาคนทั้งงานที่หันมามองไงคะ บรื๊อออ
5. หนีบผู้ติดตามไปด้วย
ก็เข้าใจหรอกนะว่าไปคนเดียวแล้วเหงา แต่ถ้าเจ้าภาพไม่ได้เขียนว่าพาเพื่อนไปได้ก็อย่าพาคนอื่นไปเลยนะคะ เพราะบางทีเขาเตรียมโต๊ะเตรียมอาหารมาพอดีตามจำนวนแขกแล้ว
6. ใส่ชุดขาวและชุดสีเดียวกับเพื่อนเจ้าสาว
คนที่สวยที่สุดในงานแต่งคือเจ้าสาว เพราะฉะนั้นแขกที่ไปงานห้ามแย่งซีน พวกชุดขาว ครีม ออฟไวท์ แชมเปญเหล่านี้ห้ามเลือกมาใส่เด็ดขาดยกเว้นจะเป็นแบบเรียบปลอดภัยจริงๆ สีเดียวกับชุดเพื่อนเจ้าสาวก็ไม่ควรนะ อ้อ! ยีนส์ก็ไม่ใช่ทางออกสำหรับชุดไปร่วมงานแต่งงานนะคะ
7. ชาวก้มหน้า
อาจต้องร้องเพลง “ห่างกันซักพัก” ให้กับโทรศัพท์เครื่องโปรด แล้วเงยหน้าขึ้นมาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว เพราะเป็นการเสียมารยาทขั้นสุดจริงๆ หากคุณจะเอาแต่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์โดยไม่สนใจพิธีแต่งงานเลย
8. สาดแฟลชเจิดจ้า
เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ถ่ายภาพได้ แต่ก่อนถ่ายเช็คให้แน่ใจด้วยว่าไม่ได้เปิดแฟลชไว้ ไม่อย่างนั้นแสงแฟลชจะไปรบกวนคนอื่นๆ ในงาน
9. วิ่งหนีพิธีทางศาสนา
บางคนอาจจะบอกว่า “เบื่อจุงพิธีทางศาสนา” แต่ห้ามชิ่งหนีเด็ดขาด ถึงแม้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ต้องสำรวม แต่ก็เป็นพิธีที่สวยงาม และไม่ได้เห็นกันได้บ่อยๆ อีกอย่างบ่าวสาวเขาเชิญมาเพราะอยากให้คุณร่วมแสดงความยินดีในทุกช่วงเวลานะ
10. เตรียมท้องให้ว่างแล้วไปจัดหนักในงาน
บอกเลยว่าเสียมารยาทมากที่จะล้างท้องเพื่อเตรียมไปซัดโฮกในงานแต่ง แถมการทำแบบนี้จะทำให้อ้วนด้วยนะ เพราะการจัดหนักในมื้อเย็น ร่างกายไม่ค่อยมีกิจกรรมให้ได้เผาผลาญพลังงานแล้ว ต่อให้แดนซ์ลืมโลกแค่ไหนก็เถอะ ไอ้ที่กินเข้าไปได้กลายเป็นไขมันแน่นอน
11. รีบดื่ม รีบเมา
บางคนไปงานแต่งก็กะเมาอย่างเดียว ยิงยาวอยู่หน้าบาร์เครื่องดื่มตั้งแต่งานยังไม่เริ่ม ยิ่งเมาตั้งแต่งานบนเวทียังไม่เริ่มยิ่งไม่ควรเด็ดขาด บอกเลยว่าไปงานแต่งห้ามเมา!
12. เม้าท์หนัก เม้าท์นาน
แม้จะสนิทกับบ่าวสาวชนิดเล่นมาด้วยกันตั้งแต่เท้าเท่าหอยสังข์ ก็ไม่ควรชวนพูดคุยนาน ปล่อยให้เขาได้ไปต้อนรับแขกคนอื่นๆ ด้วย เพราะนี่ไม่ใช่การนัดพบกันของกลุ่มเพื่อนนะคะ
13. ใส่ส้นสูงปรี๊ด
รู้ค่ะว่างานแบบนี้ใครๆ ก็อยากสวยสง่า แต่การลากส้นเข็มสูงปรี๊ดเท่าตึก 18 ชั้นมางานก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าเสียมารยาทหรอก แต่ว่าจะทำให้คุณเมื่อยน่าดู เพราะงานแต่งเดี๋ยวนี้นิยมจัดแบบค็อกเทลยืนกิน แถมเวลาแดนซ์ช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ก็ไม่ถนัดเอาเสียเลย แต่ถ้าอยากสูงเด่นแข่งกับนางแบบจริงๆ ก็อย่าลืมเอารองเท้ามาเปลี่ยนช่วงหลังงานนะคะ
14. รีบไป-รีบกลับ
ไปงานแต่งทั้งทีก็ควรอยู่ให้จบช่วงพิธีการ แต่ถ้าอยู่ไม่ได้จริงๆ หรือเกิดเหตุด่วนให้ต้องรีบชิ่งในช่วงก่อนหรือระหว่างพิธีการ ก็ควรหายตัวไปเงียบๆ ไม่ต้องไปลามาไหว้ใครทั้งนั้น เพราะขืนเข้าไปลาเจ้าภาพ เขาจะคิดว่า “เอ หรืองานเราจะไม่ดีหว่า” เอาได้
15. ช่อดอกไม้ต้องเป็นของฉัน
การแย่งช่อดอกไม้ เป็นประเพณีที่ทำกันสนุกๆ เท่านั้น ไม่ต้องจริงจังยืนจังก้าอ้าแขนรับดอกไม้จนเผลอเอาศอกไปถองบรรดาสาวโสดคนอื่นที่มารอรับดอกไม้หรอกนะ เอาแค่พอสนุกๆ ก็พอ
16. ไมค์และฟลอร์นี้เป็นของฉัน
ต่อให้ร้องเพลงเพราะระดับดีว่า แต่ไมค์และฟลอร์ในงานแต่งก็ไม่ใช่เวทีเดอะว้อยซ์ที่คุณจะครองไว้คนเดียวไม่สนใจคนอื่น เพราะงั้นแบ่งๆ กันร้องและเต้นนะคะ
17. โสดๆ อยู่ทางนี้
หลายคนก็เจอเนื้อคู่ในงานแต่งของเพื่อน แต่ห้ามเด็ดขาดเชียวที่จะไปป่าวประกาศว่า “ฉันโสดดดดดด” มันไม่งามสมหญิงเลย สู้ยิ้มสวยๆ แล้วปล่อยให้เหยื่อเข้ามาติดกับอย่างเป็นธรรมชาติดีกว่า
18. ก้มหน้าก้มตา ไม่ต้องรู้จักใคร
ไปงานแต่งงานนะคะ ยังไงก็ต้องเจอคนแปลกหน้า ถ้าต้องจับพลัดจับผลูไปร่วมโต๊ะกัน ก็ส่งยิ้มให้กันหน่อย แนะนำตัวนิดๆ แล้วก็พูดคุยกันบ้าง อย่าเอาแต่จ้วงอาหารเข้าปากไม่พูดคุยกับใคร เดี๋ยวเหงาแย่เลย
19. ขนของชำร่วยกลับบ้าน
บางคนอยากได้ของชำร่วยหลายอันโดยเฉพาะในงานที่ของชำร่วยมีหลายสี หลายกลิ่น ทำได้แต่ต้องรอให้แขกคนอื่นๆ ทยอยกลับให้หมดก่อน คุณค่อยเดินไปขอจากเจ้าภาพ เพราะบางงานก็ไม่ได้เตรียมมาเยอะขนาดที่จะแจกคนละ 18 อันได้
20. กลับบ้านคือกลับบ้าน
ถ้าบนเวทีประกาศว่า งานเลี้ยงจบลงแล้วก็จงกลับบ้านซะดีๆ อย่างอแงร่ำไรจะอยู่ต่อ เพราะทุกนาทีที่เกินออกมามันคือเงินที่บ่าวสาวต้องจ่ายเพิ่มนะคะ และเราก็ไม่ควรทำให้เขาต้องเสียเงินเพิ่มโดยใช่เหตุเลย
ทั้ง 20 ข้อ อาจเป็นสิ่งที่หลายคนก็รู้กันดีอยู่แล้ว แต่เราแค่มาเตือนกันเบาๆ เนอะ ว่าห้ามเผลอทำเด็ดขาดเชียว
Read More : 5 เรื่องต้องคิดก่อนตัดสินใจพกใครไปงานแต่งงาน
ขอบคุณข้อมูลจาก www.brides.com