แม้ว่าข้าวของเครื่องใช้ สถานที่ อาหาร และทุกอย่างในงานแต่งจะเตรียมไว้พร้อม แต่ถ้าตัวคุณไม่พร้อม เตรียมของไปก็เท่านั้น วันนี้ แพรว wedding ขอบอกให้ว่าที่บ่าวสาวเตรียมพร้อมซ้อมทำสิ่งเหล่านี้ให้คล่องก่อน วันแต่งงาน จะมาถึง แล้วรับรองว่าเมื่อถึงวันจริงทุกอย่างจะได้ผ่านไปอย่างฉลุย
1. ลองทำผมและแต่งหน้า : ถ้าคุณพอมีงบประมาณเหลือควรเจียดเอาไว้เพื่อการนี้ค่ะ เพราะไม่ว่าคุณจะจ้างช่างแต่งหน้าช่างทำผมมืออาชีพมาจากที่ไหน ราคาแพงเท่าไหร่ก็ตาม เพื่อความชัวร์ขอให้คุณลองแต่งหน้าทำผมเหมือนวันจริงสักครั้ง โดยเฉพาะคุณว่าที่เจ้าสาว เพราะคุณคือนางเอกของงานไงล่ะ ต้องสวยที่สุด มั่นใจที่สุด ส่วนถ้าสงสัยว่า เจ้าบ่าวต้องลองด้วยไหม อันนี้อาจอนุโลมได้ เพราะเจ้าบ่าวส่วนใหญ่ผมสั้น แต่ยังไงก็ตามควรเอาใบหน้าหล่อๆ ไปให้ช่างทั้งหลายเห็นไว้ก่อนเป็นดีที่สุด อย่างน้อยช่างทั้งหลายจะได้คิดไอเดียหรือเตรียมผลิตภัณฑ์รองพื้นที่เบอร์เหมาะกับผิวหน้าไว้ให้โดยเฉพาะ อย่าลืมว่าผิวหน้าชายหนุ่มต่างกับสาวๆ นะคะ
2. ซ้อมท่านั่งตอนเขามารับตัว : ในประเพณีแต่งงานไม่ว่าจะเป็นแบบไทยหรือจีน จะมีช่วงที่เจ้าบ่าวสู่ขอเสร็จแล้วเดินถือช่อดอกไม้มามอบให้เจ้าสาว ซึ่งแน่นอนว่าจังหวะนั้นต้องมีการเก็บภาพที่ระลึกอย่างแน่นอน ฉะนั้นอย่าคิดเพียงว่านั่งง่ายๆ ในท่าสบายๆ ก็รับตัวได้เหมือนกัน เพราะภาพที่ออกมาจะไม่สวย คุณคงไม่อยากได้ภาพเจ้าสาวหลังค่อมนั่งตัวบิดกำลังยื่นมือรับช่อดอกไม้ใช่ไหมล่ะ
3. ซ้อมเดินเข้างานพร้อมรองเท้าคู่จริง : ทั้งงานแต่งตามประเพณีไทยและงานฉลองสมรสแบบฝรั่ง ล้วนต้องมีช๊อตที่บ่าวสาวคล้องแขนเข้างานแน่นอน ซึ่งโมเม้นนี้จะเกิดหรือจะแป้กก็ขึ้นอยู่กับคุณทั้งคู่ ซึ่งส่วนใหญ่ที่แป้กคือ ความไม่คุ้นเคยกับรองเท้าที่เจ้าสาวสวมใส่ ไหนจะกระโปรงยาวๆ ที่ลากไปมา ถ้าเป็นงานประเพณีไทยนุ่งผ้าถุงคือไปกันใหญ่ จะก้าวฉับๆ เป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นเพื่อความมั่นใจเต็มร้อย หยิบรองเท้าคู่ที่เลือก ผ้าถุงที่จะใช้จริงมาใส่ซ้อมเดินก่อนวันงานจนคล้อง รับรองวันนั้นสวยเกิดเจิดทุกราย
4. ซ้อมนั่งพับเพียบ : อันนี้สำคัญมากกับบ่าวสาวที่เลือกจัดงานแต่งงานตามประเพณีไทย เพราะท่านั่งพับเพียบไม่ได้นั่งกันทุกวัน แล้วมีหรือจะคุ้นชิน เราจึงขอแนะนำว่า ลองนั่งพับเพียบให้คล่อง นั่งแล้วจะเก็บเท้าท่าไหนถึงถ่ายรูปออกมาสวย ซ้อมไว้รับรองวันจริงสบาย
5. ซ้อมก้มกราบ : คนไทยแต่งงานตามประเพณีต้องมีก้มกราบ หัวข้อนี้จึงเกิดมาเพื่อว่าที่เจ้าสาวเท่านั้น ก็เพราะคุณคือฝ่ายที่ต้องพับเพียบและก้มลงกราบที่ตักของว่าที่สามีไงล่ะคะ แต่ลองนึกภาพตามนะว่า ถ้าคุณเลือกสวมชุดไทย ความรัดแน่นพอดีตัว ชุดที่สวมต้องทำมาเพื่อรองรับการขยับก้มไหว้ด้วย ฉะนั้นนี่จึงไม่ได้แนะนำแค่ซ้อมท่าทาง แต่ซ้อมเพื่อให้รู้ว่าชุดที่เลือกสวมในวันนั้นต้องขยับออกขยับเข้าเพื่อเอื้ออำนวยทุกอิริยาบถหรือเปล่ายังไงล่ะคะ
6. ซ้อมเฟิร์สแดนซ์ : เฉพาะคู่ที่อยากแดนซ์เพลงซึ้งต้องซ้อมให้หนัก เริ่มต้นท่าไหน หมุนตัวยังไง ตอนจบจะหวานแหววหรือจุมพิตปิดท้ายล้วนต้องซ้อมค่ะ เพราะเฟิร์สแดนซ์ดีๆ คุณจะได้รูปสวยและความซาบซึ้งใจกลับไปเป็นความทรงจำดีๆ ด้วยนะ
7. ซ้อมกล่าวปฏิญาณและสปีด : ถ้าคุณไม่ค่อยชอบเวลาโดนให้พูดหน้าชั้นเรียนหรือพรีเซนงานในที่ประชุมยิ่งต้องร่างบทออกมาก่อน จากนั้นซ้อมให้คล่อง เพราะถ้าคล่องแล้วอย่างน้อยคุณจะมั่นใจ ไม่ยืนอึ้งบนเวที แม้อาจมีบ้างที่เสียงสั่นเพราะกลัวไมค์ แต่สคริปต์อยู่ในหัวไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว อ่ะๆ บอกตรงนี้อีกนิดเพื่อความสบายใจว่าแขกทุกคนพร้อมเข้าใจที่คุณจะตื่นเต้น ประหม่า มือเย็น ก็แหมคนเพียบขนาดนั้นย่อมตื่นเต้นตื้นตันเป็นธรรมดา
8. ซ้อมโพสต์ท่าหน้ากล้อง : อันนี้ไม่ขำ ขอให้ทำจริงๆ เพราะเราเชื่อว่าทุกคนอยากได้ภาพสวยหล่อเก็บไว้ดูจนแก่เฒ่าด้วยกันทั้งนั้น แต่ประเภทสวยมุมเดียวนี่ไม่ได้เชียว เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าดูกี่รูป เปิดกี่ไฟล์ก็เป็นบ่าวสาวหน้าเดียวตลอดๆ ดังนั้นคุณจึงควรซ้อมโพสต์หน้ากล้องหามุมที่ชอบเตรียมไว้ จะได้มีภาพหลากหลายไว้ดูไงล่ะ
9. ซ้อมเปลี่ยนชุดลองใส่เนคไท : ที่ว่าให้ซ้อมเปลี่ยนชุดเพราะเดี๋ยวนี้เทรนด์นิยมบ่าวสาวชอบเตรียมชุดไว้หลายๆ ชุด สำหรับเปลี่ยนตามซีเคว้นต่างๆ ของงาน บางคนถ่ายรูปกับแขกชุดนึง เดินเข้างานชุดนึง อาฟเตอร์ปาร์ตี้ชุดนึง จึงขอแนะนำให้ซ้อมเปลี่ยนชุดให้คล่อง แขกเหรื่อจะได้ไม่รอนาน แถมไม่งงต้องตอนใส่ชุดเองกับผู้ช่วยจำเป็นอย่างแก๊งเพื่อนอีกด้วย ส่วนคุณเจ้าบ่าวแม้ไม่มีอะไรต้องห่วงมาก แต่ช่วงที่ต้องเลือกเนคไทนี่แหละตัวทำให้ชักช้า บางคนรักพี่เสียดายน้อง ถ้าอย่างนั้นลองจับเนคไทกับชุดที่ใส่ไว้เลยสิ รับรองไวขึ้นอย่างแรง
10. ซ้อมมอบเค้ก : ใครที่คิดว่าแค่มอบเค้กง่ายๆ ไม่ต้องซ้อมขอบอกเลยว่าคิดผิด ไม่เชื่อคุณลองถามบ่าวสาวที่เคยมีประสบการณ์สิคะ เพราะเวลาเข้าไปมอบเค้กส่วนใหญ่ต้องคุกเข่าเข้าไปหาผู้ใหญ๋ จะมายืนค้ำหัวมอบให้ก็ไม่เหมาะ แต่ต้อวชุดแต่งงานที่เลือกของบางนางเป็นชุดสุ่มพองฟู่นั่งทีเบียดเจ้าบ่าวเกือบหลุดเฟรม หรือบางชุดหางยาวถึงเชียงใหม่กว่าจะรวบเก็บจัดท่าได้นานโข ยิ่งถ้าจัดแบบโต๊ะจีนกว่าทั้งคู่จะแทรกตัวเข้าไปหาแขกเพื่อมอบแขกแสนลำบาก นี่แหละค่ะ คือที่มาว่าทำไมคุณควรซ้อมมอบเค้กไว้บ้างก็ดี
11. ซ้อมท่าโยนดอกไม้ : ท่าโยนดอกไม้ทำเอาภาพที่ออกมาไม่รอดมานักต่อนักนะพูดเลย ไม่ใช่เพราะเจ้าสาวไม่ได้กำจัดขนรักแร้ แต่พลาดตรงที่เจ้าสาวชอบอ้าปากแล้วโยนดอกไม้ ประมาณว่าอาจจะรวบรวมกำลังภายในให้มีแรง ช่อดอกไม้ที่โยนจะได้ไปถึงมือเพื่อนๆ ที่ยื้อแย่ง อีกเหตุผลที่อยากให้ซ้อเพราะเพดานห้องจัดเลี้ยงแต่ละที่สูงต่ำไม่เท่ากัน เจ้าสาวจึงควรรู้น้ำหนักมือของตัวเองไว้บ้าง จะได้ไม่ต้องเสียเงินจ่ายค่าโคมไฟระย้าราคาแพง
ติดตามไอเดียและคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!
cr : steamplantwedding.com