แต่งงานเพียงครั้งเดียวในชีวิต จะเลือก ช่างแต่งหน้าเจ้าสาว ที่ใช่ เลือกยังไงให้ชัวร์ว่าวันแต่งงานเราจะสวยปังที่สุดแน่นอน แพรวเวดดิ้งมีคำตอบค่ะ
บอกเลยว่านี่ถือเป็นปัญหาหนักอกหนักใจของว่าที่เจ้าสาว เพราะเดี๋ยวนี้มี ช่างแต่งหน้าเจ้าสาว ให้เหล่าว่าที่เจ้าสาวเลือกกันอย่างมากมาย คนนั้นก็ดี คนนี้ก็ใช่ เลือกยังไงดีนะ? แล้วถ้าเลือกเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจะมีวิธีการคุยกับ ช่างแต่งหน้าของเราอย่างไร ให้แน่ใจว่าวันจริงนั้นช่างแต่งหน้าสามารถเนรมิตเมกอัพลุคและทรงผมให้ตรงกับใจของเราที่อยากได้จริงๆ? วันนี้ แพรวเวดดิ้ง นำเอาคำตอบมาบอกว่าที่เจ้าสาวแล้วค่ะ มาดูกันเลย
1. หาสไตล์ที่ “ใช่” สำหรับเรา
ลุคเจ้าสาวแบบไหนที่จะทำให้เรามั่นใจที่สุด? ลุคหวาน ลุคเซ็กซี่ ลุคเปรี้ยวๆ หรือลุคเรียบร้อย? ลองสังเกตตัวเองในชีวิตประจำวันดูก็ได้ว่าเราชอบแต่งหน้า แต่งตัวสไตล์ไหน ถ้าปกติเป็นคนเรียบร้อย ไม่ค่อยแต่งหน้า ก็อาจจะเลือกลุคสไตล์หวานๆ แต่งหน้าน้อยๆ ดีกว่าการแหวกลุคให้ดูเปรี้ยวหรือเซ็กซี่แล้วทำให้เราขาดความมั่นใจ ทางที่ดียึดเอาสไตล์ประจำวันของตัวเองที่เรามั่นใจเป็นต้นแบบดีกว่าค่ะ
2. หาลิสต์ช่างแต่งหน้าเจ้าสาวที่ใกล้เคียงกับสไตล์ที่เราต้องการ
ที่จริงแล้ว ช่างแต่งหน้าเจ้าสาวส่วนใหญ่สามารถครีเอทลุคได้หลากหลายแล้วแต่ความต้องการของตัวเจ้าสาวแต่ละคน แต่ถ้าเราสังเกตดีๆ จะพบว่า ช่างแต่งหน้าเจ้าสาวแต่ละคนจะมีสไตล์ที่เป็นซิกเนเจอร์ หรือสไตล์ที่ตัวช่างแต่งหน้าเองถนัด ลองศึกษาดูผลงานที่ผ่านมาของช่างแต่งหน้าแต่ละคน หรือใช้วิธีถามเอาจากเหล่าเจ้าสาวรุ่นพี่ที่สไตล์ใกล้เคียงกับเราก็ได้นะ
(ถ้ายังไม่มีช่างแต่งหน้าเจ้าสาวในใจ ลองคลิกเข้าไปอ่านที่นี่สิ รวมลิสต์ช่างแต่งหน้าทำผมเจ้าสาวพร้อมอัพเดทราคา)
3. ถ้าเป็นไปได้ นัดคุยกับ ช่างแต่งหน้า ก่อนวันจริง
ซึ่งสิ่งนี้เป็นคนละอย่างกับการลองแต่งหน้าก่อนวันจริงที่จะมีค่าใช้จ่ายไม่น้อยเพิ่มเข้ามา ถ้าหากคุณว่าที่เจ้าสาวมีงบไม่เยอะ ลองนัดช่างแต่งหน้ามาคุยให้เห็นตัวเป็นๆกันก่อนวันจริง บอกสไตล์ที่เราชอบให้ช่างแต่งหน้าอย่างชัดเจน อย่าลืมเตรียมรูปเมกอัพลุคที่เราชอบ หรือแบบไหนที่เราไม่อยากได้ รวมทั้งปัญหาที่เรากังวลใจ หรือส่วนไหนของใบหน้าที่เราชอบ เพื่อให้ช่างแต่งหน้าสามารถครีเอทลุคที่โดนใจเรามากที่สุดค่ะ
4. อย่าลืมถาม ช่างแต่งหน้าเจ้าสาวด้วยว่าเราต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง
ข้อนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ว่าที่เจ้าสาวหลายคนลืมโฟกัส นอกเหนือจากการดูแลผิวหน้าตัวเองให้ดี ดื่มน้ำและพักผ่อนเยอะๆแล้ว ว่าที่เจ้าสาวไม่ควรทำอะไรกับผิวหน้าในช่วงระยะเวลาใกล้ๆวันแต่งงานบ้าง เช่น แว็กซ์คิ้ว หรือทรีทเม้นต์ผิวหน้าบางประเภท สิ่งเหล่านี้ลองถามคำแนะนำจากช่างแต่งหน้าเจ้าสาวของคุณดูค่ะ
5. “ฟัง” และ “เชื่อใจ” ช่างแต่งหน้าที่เราเลือกแล้ว
ท้ายที่สุดเมื่อเราได้เลือกแล้ว ว่าที่เจ้าสาวควรเปิดใจฟังช่างแต่งหน้าของเราค่ะ เพราะแน่นอนว่าช่างแต่งหน้าเจ้าสาวนั้นมีประสบการณ์และเห็นปัญหาของเจ้าสาวมานับไม่ถ้วน อะไรบางอย่างที่เรากังวลใจหรือส่วนไหนของใบหน้าที่เราไม่อยากเน้น ช่างแต่งหน้าอาจจะมีวิธีที่ช่วยให้เราสามารถเปิดเผยส่วนนั้นได้อย่างสวยงามแทนที่จะพยายามปกปิดก็ได้นะคะ (แต่ถ้าไม่เซล์ฟจริงๆ เราแนะนำให้ยืนยันกับช่างแต่งหน้าค่ะ)
ทั้งนี้ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายอย่าลืมนะคะ ว่าสิ่งสำคัญที่สุดจริงๆ คือความมั่นใจและออร่าของเราในวันแต่งงาน ที่จะช่วยให้เราดูสวยโดดเด่นที่สุดไม่ว่าเราจะเลือกช่างแต่งหน้าคนไหนค่ะ
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก: #Alwaysflukecrew และ Pinterest
Credit Feature Photo:Coco Bella Bride