เช็กลิสต์บิวตี้ มาเตรียมเป็นเจ้าสาวสุดเพอร์เฟกต์ภายในเวลา 1 ปีกันเถอะ

ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันด้วย เช็กลิสต์บิวตี้ เตรียมตัวเป็นเจ้าสาว ที่เคาน์ดาวน์กันยาวๆ ตั้งแต่ต้นปีเพื่อที่จะได้สวยเป๊ะปังให้ทันวันวิวาห์ ที่แพรว wedding จัดมาให้ครบทั้ง 12 เดือน เอาล่ะถ้าพร้อมแล้วกางสมุดโน้ตแล้วจดลงตารางไว้เลยว่าต้องทำอะไรบ้าง

เดือนที่ 1 : ฟิตหุ่นเตรียมใส่ชุดแต่งงาน

เอาล่ะคะสาวๆ การจะเป็นเจ้าสาวที่สวยได้ก็ต้องมีหุ่นที่เฟิร์มและสุขภาพดี แต่อย่าชะล่าใจไปกินยาลดความอ้วน หรืออาหารเสริมที่โฆษณาสรรพคุณเกินจริงเด็ดขาด! สุขภาพที่ดีและหุ่นที่เป๊ะต้องมาจากการออกกำลังกายอย่างถูกวิธี เพราะฉะนั้นคำแนะนำสำหรับเดือนแรกของการเป็นว่าที่เจ้าสาวก็คือ ไปฟิตเนส หาเทรนเนอร์ให้เขาช่วยดูแลโปรแกรมการออกกำลังกายให้ หรือถ้าใครไม่ถนัดการออกกำลังกายแบบหนักหน่วง ก็ลองมองหาคอร์สเล่นโยคะหรือพิลาทิสก็ได้เช่นกัน

เดือนที่ 2-3 : ดูแลสภาพผิวเพื่อเปล่งออร่า

ในเดือนนี้เราอยากให้คุณลองสังเกตผิวของตัวเองดูสิว่ามีลักษณะอย่างไร ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ใครผิวมันให้หยุดใช้สบู่ธรรมดาทั่วไปล้างหน้า แล้วหันมาหาเจลล้างหน้า คลีนเซอร์ และผลิตภัณฑ์สำหรับผิวมันใช้ ส่วนใครที่ผิวแห้งก็ลองมองหามอยซ์เจอไรเซอร์และผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแห้งมาใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวตัวเอง แต่ถ้ามีปัญหาสิว ฝ้า กระ ก็ต้องรีบหาทางแก้ด้วยการนัดคุณหมอผิวหนังให้คุณหมอช่วยรักษาให้

เดือนที่ 3-4 : เริ่มกำจัดขนไม่พึงประสงค์อวดผิวสวย

ใครเป็นผู้หญิงขนเยอะ ไม่ว่าจะเป็นหนวด ขนรักแร้ ขนหน้าแข้ง หรือแม้แต่แนวบิกินี่ ตอนนี้ถึงเวลามองหาวิธีการที่จะช่วยคุณกำจัดขนอันกวนใจเหล่านั้นให้เกลี้ยง แต่ก่อนจะยอมเสียตังค์เพื่อความเกลี้ยงเกลา ขอแนะนำให้คุณทำการบ้านสักนิด ลองเสิร์ชกูเกิ้ลหาวิธีกำจัดขนที่มีให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเลเซอร์ บาซิลเลี่ยนแว็กซ์ รวมไปถึงคลินิกหรือร้านเสริมสวยที่มีบริการเหล่านี้ ศึกษาข้อดีข้อเสียและราคาของแต่ละวิธีให้ดี ชอบใจวิธีไหนก็ตัดสินใจทำโลด

เดือนที่ 5 : เลือกแบบทรงผมในวันงาน

เดือนนี้สาวๆ น่าจะมีความสุขกับการเลือกสไตล์และทรงผมสำหรับวันแต่งงาน แต่สิ่งสำคัญที่อยากจะย้ำให้ว่าที่เจ้าสาวจำเอาไว้ก็คือ อย่าเพิ่งคิดเองเออเองว่าทรงนี้สวย เหมาะกับฉัน และฉันจะทำทรงนี้ในวันแต่งงาน ทางที่ดีขอแนะนำให้คุณเก็บรูปทรงผมนั้นไว้แล้วมองหา Hair Stylist ที่คุณไว้ใจในฝีมือของเขา ลองปรึกษาว่าทรงไหนที่คุณทำแล้วจะสวยเหมาะกับรูปหน้าและสภาพเส้นผม ส่วนใครที่คิดจะเปลี่ยนสีผมแนะนำว่าให้เริ่มลองทำสีเสียตั้งแต่ตอนนี้ เพราะถ้าเกิดปัญหาก็ยังมีเวลาให้แก้ไขได้ทัน

เดือนที่ 6-7 : ตามหาช่างแต่งหน้าคู่ใจ

หลังจากตัดสินใจเรื่องผมได้แล้ว ถัดมาก็เป็นเรื่องหน้าและลุคเจ้าสาวในวันแต่งงาน อย่าลืมกำหนดงบประมาณสำหรับการจ้างช่างแต่งหน้าให้เรียบร้อยซะก่อน ถ้าคุณมีช่างแต่งหน้าในดวงใจก็สามารถติดต่อนัดคิวนัดวัน รวมถึงปรึกษาเรื่องโทนการแต่งหน้ากันให้เรียบร้อย ส่วนเจ้าสาวคนไหนที่เชื่อมือตัวเอง อยากแต่งหน้าเองในวันแต่งงาน สิ่งสำคัญที่คุณห้ามลืมก็คือ เครื่องสำอางสูตรกันน้ำ ไม่ว่าจะเป็น อายส์ไลนเนอร์ มาสคาร่า เพื่อป้องกันน้ำตาแห่งความดีใจมาทำให้ทุกอย่างไหลเยิ้มมากองรวมกันเป็นหมีแพนด้า รวมถึงสีลิปสติกก็ควรจะเป็นสีโทนแดงหรือชมพูจะดีกว่าสีนู้ด ป้องกันไม่ให้หน้าของคุณดูซีดเหมือนเป็นคนป่วยมาแต่งงาน

เดือนที่ 8-9 : เตรียมฟันขาวเพื่อยิ้มสวย

สาวๆ คนไหนที่เป็นสาวกไวน์แดง ชา กาแฟ และน้ำดื่มสีเข้มทั้งหลายที่ส่งผลให้ฟันเหลือง คราวนี้คงต้องงดเครื่องดื่มเหล่านี้กันแบบจริงจังแล้วนะคะ ใครที่พอมีงบสำหรับเรื่องนี้แนะนำให้เดินเข้าคลินิกทำฟันแล้วปรึกษาคุณหมอได้ทันทีเลยค่ะ ส่วนใครที่ไม่ได้เตรียมงบไว้สำหรับการฟอกสีฟันกับผู้เชี่ยวชาญ อาจลองมองหายาสีฟันที่ช่วยทำให้ฟันขาวหรือชุดฟอกสีฟันแบบทำเองได้ที่บ้านมาใช้ดู แต่คงต้องให้เวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์ถึงจะเริ่มเห็นว่าฟันขาวขึ้น

เดือนที่ 10 : เช็คสไตล์หน้าและผมให้เข้ากันกับชุดที่ใส่

ในเดือนนี้คุณจะได้เห็นแล้วว่าชุดเจ้าสาวที่จะใส่นั้นหน้าตาเป็นอย่างไร คราวนี้ก็ถึงเวลาซ้อมเป็นเจ้าสาวด้วยการใส่ชุด แต่งหน้า ทำผม ตามที่คิดและวางแผนไว้ จากนั้นลองดูสิว่าทั้งหมดนี้ดูเข้ากันดีหรือไม่ มีตรงไหนอยากจะปรับเปลี่ยนให้ดูดีกว่าเดิมบ้าง ส่วนใครที่มีเครื่องประดับผมหรือติดเวล ควรจะฝึกติดและถอดเวล (สอนเพื่อนเจ้าสาวด้วยจะดีมาก) ให้คล่องเพื่อที่ผมจะได้ไม่เสียทรง

เดือนที่ 11 : เช็คผมกันอีกที

ตอนนี้เป็นเวลาที่เราจะต้องเช็คความเป๊ะของผมกันอีกครั้ง ใครที่ทำสีผม แนะนำให้คุณไปเติมสีหรือย้ำสีผมอีกครั้ง ใครผมยาวเกินที่ตั้งใจไว้ อยากตัดอยากเล็มก็ควรทำเสียเลย

1 สัปดาห์ก่อนวันแต่ง : กำจัดขนครั้งสุดท้าย

ก่อนหน้านี้เราก็เริ่มกำจัดขนกันไปบ้างแล้ว ใครที่ใช้วิธีเลเซอร์กันไปก่อนหน้านี้ก็คงสบายใจไปเปลาะหนึ่ง แต่ใครที่ยังไม่ได้ฤกษ์หรือยังไม่มีงบจะไปทำเลเซอร์แพงๆ ตอนนี้ praewweddingขอแนะนำให้คุณพึ่งตัวช่วยอย่างการแว็กซ์ขนไปก่อน จะซื้อผลิตภัณฑ์แว็กซ์ขนมาทำเอง หรือจะเดินเข้าร้านแว็กซ์ก็ได้ อย่าชะล่าใจไปแว็กซ์ในวันสุดท้ายก่อนแต่งเด็ดขาด เพราะผิวหนังจะแดงเป็นจุดๆ จากการแว็กซ์แน่นอน

1 วันก่อนวันแต่ง : เช็กทุกอย่างครั้งสุดท้าย

วันสำคัญมาถึงแล้วนะคะสาวๆ วันนี้แนะนำให้คุณผ่อนคลายแล้วออกไปเสริมสวยเล็บมือเล็บเท้า หลีกเลี่ยงการประโคมเล็บด้วยกลิตเตอร์ หรือการเพ้นท์เล็บเว่อร์วังต่างๆ นานา เลือกสีทาเล็บโทนนู้ด เรียบๆ จะดูหรูหรามากกว่า ส่วนใครที่ใส่ชุดเจ้าสาวแล้วแอบตึงๆ แน่นๆ ก็ควรไปสปาแล้วทำ Body wrap ก็พอช่วยลดสัดส่วนได้บ้างเล็กน้อย

การที่สาวๆ มีเวลาเตรียมตัวสำหรับงานแต่งตั้ง 1 ปีถือว่าเป็นอะไรที่เริดมากเลยนะคะ เพราะคุณจะได้ดูแลตัวเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องเร่งรีบ สุขภาพก็ดี เรียกได้ว่าสวยจากภายในสู่ภายนอก ใครที่กำลังมีแพลนจะแต่งงานช่วงปลายปี ตอนนี้ก็เริ่มทำตามเช็กลิสต์บิวตี้อันนี้ได้แล้วนะจ๊ะ

ดูเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

เรียบเรียงจาก : www.bridalguide.com
ภาพ : www.mattkemp.com, www.pinterest.com, www.goodfon.com, aboutskincenter.com,
www.allwomensites.com, www.mujerde10.com, www.rsf-fidh-iran.org

Recommended