ว่าที่บ่าวสาวได้สถานที่จัดงานแต่งโดนใจแน่…แค่คลิกอ่าน!! คอนเฟิร์ม

หลายคู่ไฝว้กันไม่ลงตัวซะทีกับเรื่อง สถานที่จัดงานแต่ง ไม่ว่าจะเป็นจัดงานอินดอร์หรือเอาทดอร์ จัดที่กทม. หรือ ตจว. พอได้สถานที่มาในลิสต์แล้วก็ตัดใจไม่ลง แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะได้ข้อสรุปสักที วันนี้เราจึงหาวิธีดีๆ แบบเป็นขั้นเป็นตอนที่จะทำให้คุณว่าที่ทั้งหลาย ได้สถานที่จัดงานแต่งงานอย่างใจปรารถนามาให้ รับรองว่า แค่คุณตั้งใจอ่านและทำตาม อาการไฝว้แบบหาข้อสรุปไม่ได้จะยุติลงทันใด เริ่มตั้งแต่

1. สรุปรูปแบบงานแต่งที่ชอบ

kandhavas-wedding
โรงแรมพลาซ่า แอทธินี

จำไว้ค่ะว่า รูปแบบงานคือตัวกำหนดสถานที่ ดังนั้นคุณจะเลือกสถานที่ไม่ได้แน่นอน ถ้าคุณยังไม่รู้แน่ชัดว่า คุณจะจัดงานทั้งหมดกี่พิธี เมื่อจัดพิธีเสร็จแล้วจะจัดเลี้ยงฉลองต่อเลยหรือเว้นวันเว้นชั่วโมงในการจัดงานเลี้ยงฉลอง เราจึงขอให้คุณสรุปเรื่องรูปแบบงานให้ได้ก่อน แล้วจึงหาพื้นที่จัดงานเป็นขั้นตอนต่อไป นอกจากนี้ถ้าภาพในในหัวมีบรรกากาศแวดล้อมแทรกมาได้ก็แทรกเลย เช่น รูปแบบงานแต่งที่อยากได้จะต้องอยู่ในบรรยากาศแวดล้อมของเสียงคลื่น เสียงน้ำ หรือความเขียวขจีของต้นไม้หรือเปล่า เพราะสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นโจทย์ย่อยๆ ประกอบการเลือกพื้นที่จัดงานต่อไป

2. เลือกพื้นที่จัดงาน (กทม. หรือ ตจว.)

เอาล่ะ เมื่อคุณรู้แล้วว่า รูปแบบงานแต่งงานที่เลือกเป็นแบบไหน การหาสถานที่จัดงานจะง่ายขึ้นมาอีกหนึ่งสเต็ป แต่ยังไม่ต้องผลีผลามเลือกเป็นที่ๆ ไปนะคะ ค่อยๆ ลดสโคปงานของตัวเองก่อน โดยตอนนี้เราอยากให้คุณเลือกให้ได้ว่า งานพิธีที่ว่าจัดจะอยู่ในพื้นที่ใดในประเทศบ้าง เช่น ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด จะจัดงานที่บ้านเกิดด้วยไหม หรือถ้ามีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัดทั้งคู่ จะต้องจัดทั้งสองจังหวัดหรือเปล่า แล้วจะมีงานฉลองกับเพื่อนๆ ในกรุงเทพฯ ด้วยไหม ซึ่งถ้าคุณได้ข้อสรุปตรงนี้แล้ว การบ้านของคุณในการมองหาสถานที่ก็จะถูกจำกัดอยู่ในพื้นที่ที่แคบลงไปอีกสเต็ปไงล่ะคะ

3. เลือกประเภทสถานที่จัดงาน (โรงแรม, รีสอร์ท, หอประชุมโรงเรียน, สมาคม ฯลฯ + มีบรรยากาศอย่างฝันไหม เช่น ริมทะเลหรือในสวน)

pnwedding_180007
โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน

เมื่อเลือกได้แล้วว่าจะจัดที่จังหวัดไหน คุณก็มาลงลึกถึงพื้นที่นั้นๆ กันเลยว่ามีสถานที่ไหนรับจัดงานแต่งงานบ้าง โดยในขั้นตอนนี้ อาจแบ่งลงไปอีกนิดว่า สถานที่จัดงานที่ว่าเป็นประเภทไหนบ้าง เช่น โรงแรม รีสอร์ท หอประชุม สมาคม หรือเป็นสถานที่รับจัดงานแต่งงานโดยเฉพาะ จากนั้นถามใจคุณเลยค่ะ ว่าอยากได้สถานที่ประมาณไหน เพราะแต่ละที่มีข้อดีข้อเสียต่างกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีเงื่อนไขกันประมาณนี้ค่ะ

  • “โรงแรม” มีห้องจัดเลี้ยงให้ มีบริการอาหารและพนักงานเสร็จสรรพ ที่จอดรถก็โอเค แต่งบประมาณที่มีสมดุลหรือเปล่า
  • “รีสอร์ต” น่าจะตอบโจทย์ได้ดีกับกลุ่มคู่รักนิยมธรรมชาติ แต่พื้นที่จัดงานอาจไม่ได้ใหญ่โต มีเรื่องการเหมาห้องมาเป็นตัวกำหนดหรือเปล่า รวมถึงถ้าต้องเหมารีสอร์ตคุณโอเคไหม ที่สำคัญคือ ถ้าไม่เหมาต้องจัดงานแบบเกรงใจแขกเหรื่อที่มาพักคนอื่นๆ ด้วยนะ ซึ่งบางครั้งบางรีสอร์ตจะมีกฎให้จัดงานได้ถึงแต่ 22.00 น. เท่านั้น คุณโอเคหรือเปล่า
  • “หอประชุมโรงเรียนและสมาคมต่างๆ” อาจได้ความดีงามที่ความใหญ่โต๊ะมโหฬาร แต่คงไม่มีอาหารและคนมาบริการ นั่นแปลว่าต้องไปหาทุกสิ่งมาลงเองแน่นอน คุณโอเคไหมละ

4. เปรียบเทียบความดีงามและงบประมาณที่มี

ถ้าคุณเลือกได้แล้วว่าจะจัดงานแต่งงานยังสถานที่ประมาณใดประเภทหนึ่ง ให้นำหลายๆ สถานที่ในประเภทเดียวกันมาเทียบหาความแตกต่างค่อยตัดสินใจเลือก เช่น ถ้าคุณเลือกจัดงานในโรงแรมก็ให้หาโรงแรมที่มีคุณสมบัติตรงใจมาสัก 3-4 โรงแรม แล้วนำรายละเอียดต่างๆ มาเทียบกันเลย ไม่ว่าจะเป็นรองรับแขกได้ตามต้องการไหม รายละเอียดแพ็กเกจให้อะไรไม่ให้อะไรต่างกันแค่ไหน และคุณรับได้หรือเปล่า ค่าใช้จ่ายบวกลบต่างกันแค่ไหน และในความต่างกันนั้น ตอบโจทย์ความต้องการที่ตั้งไว้มากน้อยแค่ไหน อาหารแต่ละที่รสชาติเป็นยังไงบ้าง  เดินทางมาถึงลำบากมากไหม เป็นต้น

ที่สำคัญ การเปรียบเทียบที่ว่านี้ ต้องไม่ลืมเทียบกับงบประมาณที่คุณกำหนดเสมอว่า สมเหตุสมผลหรือเปล่า บางครั้งงบที่ตั้งไว้อาจไม่พอ แต่ความดีงามถูกใจในสถานที่นั้นๆ มากพอให้คุณยอมควักเงินจ่ายเพิ่มหรือเปล่า เรื่องนี้คุณเท่านั้นที่จะตอบได้

5. เลือกสถานที่จัดงานแต่งงานได้เลย

dsc04652
โรงแรม S31

เมื่อเทียบข้อดีข้อเสียเรียบร้อย คุณก็จะได้สถานที่จัดงานแต่งงานที่โดนใจหรือใกล้กับความต้องการในใจคุณมากที่สุดค่ะ

ดูเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่แต่งงานและสถานที่ฮันนีมูนเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! a a a a a a

Recommended