งานแต่งงานถือเป็นงานใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิต นอกจากจะต้องเตรียมตัวนานหลายเดือนแล้ว ยังมีรายละเอียดยิบย่อยมาให้บ่าวสาวพิจารณาอยู่เสมอ บางคนก็ตัดสินใจผิดพลาดจนทำให้งานแต่งออกมาไม่ได้ดั่งใจหวัง วันนี้ แพรว wedding จึงนำข้อผิดพลาดกับ สิ่งที่ต้องระวังในงานแต่ง ที่อดีตบ่าวสาวชาวเราเคยประสบพบเจอมาเป็นบทเรียนก่อนวันวิวาห์จะมาถึงให้ว่าที่บ่าวสาวคนต่อไปได้อ่านและระวังตัวกันให้มากขึ้น
1. ไม่ตัดสินใจเรื่องงบประมาณ
ว่าที่บ่าวสาวหลายคู่พอรู้ตัวว่าจะต้องแต่งงานก็เกิดอาการตื่นเต้นดีใจจนลืมทุกอย่าง แม้กระทั่งเรื่องเงินที่จะเอามาใช้จัดงานก็ยังลืมคิดว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ เฝ้าแต่จินตนาการว่างานฉันต้องสวยอย่างนั้น อลังการอย่างนี้ หยุดค่ะ! คงต้องขอดึงคุณกลับมาในโลกแห่งความเป็นจริงสักนิดนึง เพราะหัวใจหลักของการจัดงานแต่งนั้นไม่ได้มีแค่เรื่องความรักเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องงบประมาณที่คุณจะต้องรีบตัดสินใจให้ได้เป็นสิ่งแรก
2. ไม่มีแผนสำรองในกรณีฝนตก
เรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหามากมายสำหรับคู่ไหนที่เลือกจัดงานในโรงแรม แต่จะเป็นปัญหาที่น่าสะพรึงสำหรับคนที่ตัดสินใจจัดงานแต่งแบบเอ๊าท์ดอร์ ไม่ว่าจะเป็นชายหาด ในสวน ในไร่ ริมแม่น้ำ หรือสถานที่ไหนก็แล้วแต่ที่เป็นที่โล่งไม่มีหลังคา คุณจะต้องเตรียมแผนสองสำหรับพระพิรุณโปรยฝนไว้ให้ดี จะเตรียมร่ม เตรียมหมวก หรือเต็นท์กันแดดกันฝนไว้ด้วยจะดีมาก ถ้าคุณเอาแต่คิดว่าฉันดูพยากรณ์อากาศมาดี วันแต่งฝนไม่ตกแน่! ขอบอกเลยว่า คุณ! คิด! ผิด! เพราะธรรมชาติเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ จู่ๆ อากาศแปรปรวนฝนตกมาเมื่อไหร่รับรองว่าจบเห่แน่ๆ !
3. ปล่อยให้แขกสับสน
เดี๋ยวนี้งานแต่งงานมีรายละเอียดและเงื่อนไขเยอะแยะไปหมด ทั้งธีมงาน ธีมสี ธีมชุด รวมไปถึงการเดินทางไปสถานที่จัดงาน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณห้ามพลาดใส่ไปในการ์ดเชิญเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณจัดงานแต่งตามต่างจังหวัดแล้วแขกจะต้องเดินทางไกล คุณควรที่จะแนบแผนที่แผ่นเล็กๆ ลงไปด้วย อย่าลืมล่ะ!
4. จะแต่งงานแต่ไม่คุยกัน
ว่าที่บ่าวสาวคู่ไหนที่กำลังจะแต่งงานกันแต่ไม่ยอมคุยรายละเอียดหรือปรึกษาหารือกัน ขอให้คุณไปคิดทบทวนใจของตัวเองให้ดีว่าอยากแต่งกันจริงๆ ไหม เพราะแน่นอนว่าการแต่งงานมันเกี่ยวพันกับชีวิตของคุณสองคนโดยตรง ไม่ว่าจะจัดเล็กๆ เงียบๆ หรือจัดใหญ่โต คุณก็ต้องคุยกันว่าอยากให้งานออกมาเป็นแบบไหน ใส่ชุดอะไร จัดที่ไหน เชิญแขกเท่าไหร่ ช่วยๆ กันออกไอเดียและแบ่งๆ กันรับผิดชอบมันคงดีกว่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ใครคนใดคนหนึ่งนะ
5. กังวลว่าคนอื่นจะไม่สนุกกับงานแต่ง
เชื่อว่าบ่าวสาวหลายคู่มักจะเกิดความกังวลว่าคนรอบตัวทั้งพ่อ แม่ ญาติ พี่ น้อง และแขกคนอื่นๆ จะไม่ชอบสิ่งที่คุณตัดสินใจเลือกและไม่สนุกกับงานแต่งที่คุณจัดขึ้น บางคนออกอาการนอยด์จนตัวเองกลายเป็นคนที่ไม่สนุกเสียเอง ขอแนะนำว่าทำใจให้สบาย อย่าไปคิดอะไรมาก เลือกในสิ่งที่คุณชอบและคุณต้องการ เพราะวันแต่งงานคือวันพิเศษสำหรับคุณและคนรักนะ
6. ตัดสินใจเลือกสถานที่โดยไม่คำนวณแขกก่อน
เรื่องสถานที่และจำนวนแขกเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ ที่คุณควรตัดสินใจให้ได้โดยเร็ว เพราะสองอย่างนี้จะเกี่ยวข้องกันตั้งแต่ตอนวางแผนจนถึงวันงาน ลิสต์จำนวนแขกให้แน่นอนก่อนแล้วจึงหาสถานที่จัดงานให้สามารถรองรับแขกได้อย่างเหมาะสม เลือกสถานที่ที่ไม่ใหญ่จนทำให้งานดูโล่งเกินไปและไม่เล็กคับแคบจนแขกอึดอัด
7. เซ็นสัญญาโดยไม่อ่านให้ละเอียด
จัดงานใหญ่ครั้งหนึ่งแน่นอนว่านอกจากทะเบียนสมรสที่คุณต้องเซ็นแล้ว ยังมีเอกสารอย่างอื่นเยอะแยะมากมายที่คุณจะต้องลงชื่อด้วย ทั้งเอกสารการซื้อขายและเอกสารสัญญาว่าจ้างต่างๆ คุณควรจะอ่านรายละเอียดในหนังสือสัญญาให้ละเอียดและรอบคอบ ถ้ามีคำถามหรือข้อสงสัยต้องรีบถามรีบเคลียร์ให้เข้าใจกันทั้งตัวคุณและผู้รับจ้างก่อนลงมือเซ็นชื่อ และที่สำคัญอย่าอ่านคนเดียว ควรจะให้คนรัก พ่อ แม่ หรือเพื่อนที่เราไว้ใจมาช่วยอ่าน ช่วยทำความเข้าใจด้วยก็จะดี
8. เลือกใช้งานผู้รับจ้างผิด!
ผู้รับจ้างในที่นี้หมายถึงทุกอย่างในงานแต่งที่คุณไม่ได้ทำเองและต้องจ้างคนอื่น เช่น เวดดิ้งแพลนเนอร์ ร้านการ์ด ร้านชุด วงดนตรี แคทเธอริ่ง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้คุณควรจะคิดดีๆ ก่อนตัดสินใจว่าจะเลือกใช้บริการเจ้าไหน คุณต้องดูตัวอย่างงานและโปรไฟล์ของแต่ละเจ้าให้ดีเสียก่อนว่าเข้ากับความต้องการของคุณจริงไหม และที่สำคัญคือราคารับได้หรือไม่ ถ้าจะให้ดีแนะนำให้คุยกับผู้รับจ้างแต่ละเจ้าก่อนที่จะตัดสินใจเลือก
9. เลือกเวดดิ้งแพลนเนอร์มือสมัครเล่น
ถ้าคุณคิดว่าคุณสามารถควบคุมทุกอย่างในงานแต่งได้ด้วยตัวของคุณเอง หรือแม้กระทั่งไว้วางใจเพื่อนสนิทว่าพวกเขาเหล่านั้นจะช่วยคุณได้แน่ และคิดว่าไม่จำเป็นต้องจ้างเวดดิ้งแพลนเนอร์ แบบนี้ก็ตามแต่ความต้องการของบ่าวสาว แต่ขอบอกเลยว่าพอถึงวันงานจริงคุณอาจจะเจอความวุ่นวายที่มาทักทายแบบไม่ทันตั้งตัวแน่นอน เพราะฉะนั้นถ้าไม่มั่นใจว่าจะรับมือกับปัญหาเฉพาะหน้าได้อยู่หมัด การเลือกเวดดิ้งแพลนเนอร์ดีๆ สักเจ้าให้เข้ามาช่วยดูแลงานแต่ง แบบนี้ก็ช่วยให้คุณสวยอย่างสบายใจไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังเรื่องอื่นๆ อีก
10. ลืมนัดแนะเวลาที่แน่นอน
คนจะเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาว รวมไปถึงพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาว และประธานในพิธีไม่ควรจะมาถึงงานสายเด็ดขาด คุณจะต้องนัดแนะเวลาที่แน่นอนสำหรับคนแต่ละคน ระบุเวลาไปเลยว่าบ่าวสาว พ่อแม่ จะต้องมาเตรียมตัวกี่โมง เพื่อนเจ้าบ่าวเพื่อนเจ้าสาวต้องมาตอนกี่โมง และประธานควรมาตอนกี่โมง แบบนี้จะได้หมดปัญหาคนสำคัญมาช้ามาสายแล้วทำให้ฤกษ์งามยามดีที่ดูไว้ต้องเคลื่อน
11. เครียดเกินไป
ว่าที่เจ้าสาวบางคนออกอาการไบรด์ซิลล่า เครียดมากในช่วงเตรียมงานแต่ง และจะนอยด์ยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อใกล้ถึงวันงาน จนคนรอบข้างหลายคนถึงกับส่ายหน้าในความขี้เหวี่ยงขี้วีนของตัวเธอ ขอแนะนำว่าให้คุณใจเย็นๆ เข้าไว้ค่ะ ถ้าเครียดมากๆ นอยด์มากๆ เดี๋ยวถึงวันแต่งแล้วไม่สวยนะจ๊ะ
และนี่คือ 11 สิ่งที่ต้องระวังในงานแต่ง ทำได้ง่ายๆ ไม่ยาก แค่ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ตัดสินใจ และระมัดระวังข้อผิดพลาดต่างๆ ให้ดี รับรองว่างานแต่งของคุณจะสมูทและผ่านไปได้ด้วยดีแน่นอน
>> อ่านคำแนะนำและดูไอเดียงานแต่งงานอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<
เรียบเรียง : everafterguide.com
ภาพ : everafterguide.com, .weddingwire.com, pinterest.com, cocoweddingvenues.co.uk.com,
phillymag.com, justmytype.co.nz, toptableplanner.com, overthec.com, brides.com