อาหารเลี้ยงแขก ในงานแต่งก็เป็นหน้าเป็นตาให้กับบ่าวสาวได้เหมือนกันนะ
จากประสบการณ์ที่เราได้รับเชิญไปงานแต่งบ่อยๆ ทำให้รู้ว่าคู่บ่าวสาวสมัยใหม่นิยมจัด อาหารเลี้ยงแขก แบบ “ค็อกเทล” และ “บุฟเฟต์” กันมากเพราะดูไม่เป็นพิธีการจนเกินไป แต่ในความนิยมที่ว่านี้ก็มีบางคู่ที่ยังงงเรื่อง ความแตกต่างของค็อทเทลและบุฟเฟ่ต์ แต่หลังจากมาอ่านบทความนี้ รับรองว่าเคลียร์แน่!
1. ค็อกเทล – อาหารพอดีคำ จิ้มทานแบบชิคๆ
การจัดเลี้ยงแบบค็อกเทลแน่นอนว่าเป็นอะไรที่วัยสะรุ่นชอบมาก เพราะไม่ใช่การจัดเลี้ยงแบบเป็นทางการและไม่มีการจัดโต๊ะให้นั่งทาน (จะมีเฉพาะโต๊ะของแขกวีไอพีเท่านั้น) ถือเป็นการเปิดโอกาสให้แขกในงานพบปะพูดคุยกันในระหว่างเดินเลือกอาหาร โดยเฉพาะเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวอาจได้ปิ๊งปั๊งกันตามประสาคนโสด จุดเด่นของการจัดเลี้ยงแบบค็อกเทลคือเน้นเครื่องดื่ม ซึ่งจะมีบริกรเดินเสิร์ฟเครื่องดื่มอยู่เรื่อยๆ
ในส่วนของอาหารจะถูกจัดวางบนโต๊ะอย่างสวยงามพอดีคำ เป็นอาหารว่างหรืออาหารเรียกน้ำย่อย ซึ่งข้อเสียก็จยู่ตรงที่แขกในงานอาจทานได้ไม่อิ่ม ทำให้การจัดเลี้ยงแบบค็อกเทลต้องมีการเพิ่มซุ้มอาหารเข้ามาต่างหาก และอย่างที่บอกไปแล้วว่าการจัดเลี้ยงค็อกเทลไม่มีการจัดโต๊ะให้นั่งทาน แขกหลายคนอาจจะรู้สึกเมื่อยเพราะต้องยืนตลอดงาน
ค่าใช้จ่ายสำหรับจัดเลี้ยงมักจะคิดราคาตามหัว ส่วนซุ้มอาหารที่เพิ่มเติมเข้ามาหากอยู่นอกเหนือจากแพ็คเกจที่ทางแคทเธอริ่งจัดเตรียมไว้ให้จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน
2. บุฟเฟต์ –All you can eat
ใครได้ยินเป็นต้องหูตาสว่าง เพราะหมายถึงการกินได้ไม่อั้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบุฟเฟต์จึงเป็นรูปแบบการจัดเลี้ยงที่นิยม อาหารแบบบุฟเฟต์จะถูกจัดวางเป็นถาดขนาดใหญ่ตามประเภทและลำดับของอาหาร ซึ่งข้อดีของบุฟเฟต์จะอยู่ที่ปริมาณอาหารจะมากกว่าแบบค็อกเทล แขกสามารถเดินตักได้ตามความชอบ และที่สำคัญมีโต๊ะจัดให้แขกได้นั่งรับประทานสบายๆ สวยๆ ไม่ต้องยืนให้เมื่อย
ส่วนข้อเสียของบุฟเฟต์นั้นก็มี เพราะเนื่องจากไม่มีการจัดแยกเป็นคำๆ อย่างค็อกเทลและแขกสามารถเลือกตักอาหารตามที่ตัวเองอยากทานได้ ทำให้อาหารที่ถูกตักไปแล้วจะมีสภาพไม่น่าทานเหมือนในตอนแรกที่เพิ่งเอาออกมาวาง
ด้านค่าใช้จ่ายก็จะคล้ายๆ กันกับการจัดเลี้ยงแบบค็อกเทล คือ คิดราคาตามหัว ซึ่งเมนูอาหารจะขึ้นอยู่กับแต่ละแพ็คเกจว่าราคาเท่านี้จะได้อาหารกี่อย่าง รวมซอฟท์ดริ๊งค์ด้วยหรือไม่ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มักจะคิดแยกต่างหากจากราคาตามแพ็คเกจค่ะ
การคำนวณอาหารสำหรับการจัดเลี้ยงทั้งสองแบบนี้จะกะปริมาณให้พอดีกับจำนวนแขก สิ่งสำคัญก็คือ ควรคอนเฟิร์มจำนวนแขกที่จะมาร่วมงานให้แน่นอน เพราะถ้าคำนวณพลาดอาหารไม่พอให้บริการ คุณจะต้องเสียเงินในส่วนที่สั่งเพิ่มและอาจโดนเม้าท์มอยหลังจากจบงาน เพราะฉะนั้นเหลือดีกว่าขาด แต่ถ้าเหลือมากเกินจะกลายเป็นว่าจ่ายแพงไปแบบเปล่าประโยชน์
บทความเรื่องอาหารงานแต่งเพิ่มเติม >>> อาหารงานแต่งเมนูไหนดี เมนูไหนร้าย บ่าวสาวควรรู้ไว้เพื่อเสริมมงคล
ภาพ : www.okoii.wordpress.com, www.pinterest.com, www.turismopersonalizado.com, www.wetu.com, http://www.easyweddings.co.uk