หากคุณกำลังจะ วางแผนจัดงานแต่ง ที่เป็นงานสำคัญในชีวิต นั่นหมายถึง ว่าที่บ่าวสาวกำลังจะต้องเจอกับเหล่าคำถามที่ยากจะตอบ ถ้าอย่างนั้นเรามาเตรียมใจและหาวิธีจัดการกับ 5 คำถามเหล่านี้กันดีกว่า
- A และ B เชิญเราไปงานแต่ง แล้วเราต้องเชิญพวกเขาให้มางานแต่งเราหรือเปล่า?
ถ้าคุณไม่ได้เจอหรือพูดคุยกับ A และ B มานานมากกกกก ประมาณสัก 3 ปีผ่านมาแล้ว ก็คงไม่เสียหายอะไรหากคุณจะไม่ได้เติมรายชื่อของพวกเขาลงไปในลิสต์ เพราะ แขกยิ่งเยอะ = เงินที่คุณต้องจ่ายออกไป และอาจทำให้คุณต้องตัดงบส่วนไหนออกไปสักอย่าง แต่ถึงอย่างนั้น ว่าที่บ่าวสาวก็อาจจะต้องถามตัวเองก่อนว่า คุณจะรู้สึกอย่างไรหาก A และ B ไม่ได้มาปรากฏตัวที่งานแต่งงานของคุณทั้งคู่ ซึ่งหากคำตอบของว่าที่บ่าวสาวคือ ไม่ได้กระทบความรู้สึกของคุณมากนัก ก็ไม่ต้องกังวลที่จะตัดชื่อของเขาออกไปจากลิสต์ แต่สุดท้ายแล้วเลือกทำตามความสบายใจของว่าที่บ่าวสาวนั่นแหละดีที่สุด
- ลูกพี่ลูกน้องอยากจะพาแฟนมางานแต่งงานด้วย จะบอกเขาอย่างไรดีนะ?
หากงานแต่งของว่าที่บ่าวสาวคืองานแต่งแบบซิตดาวน์ดินเนอร์ที่จำเป็นต้องจำกัดจำนวนคน หรือเป็นงานแต่งภายในที่เชิญเฉพาะคนสนิทหรือครอบครัวเท่านั้น คุณต้องมั่นใจก่อนว่า การ์ดเชิญที่คุณแจกไปนั้นได้ระบุไว้อย่างชัดเจนถึงข้อจำกัดนี้ หรืออาจจะแจ้งให้แขกที่คุณเชิญมาได้รับทราบก่อนที่เขาจะได้รับการ์ดเชิญ เพื่อให้พวกเขาได้รับรู้ถึงข้อจำกัดนี้ อย่างเช่น สถานที่ที่จำกัดจำนวนคน หรืองบประมาณที่คุยวางไว้เพียงพอที่จะรองรับแขกได้เพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น เป็นต้น
- คุณแม่ว่าที่สามีจะให้ใส่สร้อยของท่านในวันแต่งงาน แต่มันไม่สวยเอาซะเลย! แล้วจะบอกท่านยังไงดี?!
เมื่อคุณแม่ว่าที่สามีอยากให้ว่าที่เจ้าสาวสวมสร้อยที่เป็นมรดกตกทอดของตระกูล เพราะอยากที่จะช่วยเหลือว่าไม่ต้องไปเปลืองทรัพย์ซื้อเครื่องประดับใหม่ ใช้ของแม่ก็ได้ลูกกกก … แต่!! สร้อยหรือเครื่องประดับชิ้นนั้นมีดีไซน์ที่ไม่เข้ากันซะเลยกับลุคหรือชุดแต่งงานของคุณ ซึ่งการตอบรับและจำใจใส่ เชื่อเถอะว่าไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่ๆ เราขอแนะนำให้คุณตอบกลับท่านไปอย่างสุภาพว่า ขอบคุณคุณแม่มาก แต่คุณมีเครื่องประดับที่จะสวมใส่ในวันแต่งงานอยู่แล้ว และอาจจะขอเปลี่ยนให้ท่านไปช่วยเหลือในเรื่องอื่นแทน เพื่อที่จะได้ไม่ดูเป็นการทำลายความหวังดีของท่านจนเกินไป และเพื่อให้ท่านได้รู้สึกมีส่วนร่วมในวันสำคัญของคุณทั้งสองด้วย
- งบของว่าที่บ่าวสาวไม่พอ จะบอกให้ครอบครัวช่วยเหลือได้ยังไงบ้างนะ?
พูดคุยกับท่านและโชว์งบทั้งหมดที่เรา เทียบกับงบที่ต้องใช้ว่ามันห่างไกลกันแค่ไหน และเพื่อให้ท่านได้รู้ว่า คุณไม่ได้ใช้จ่ายงบส่วนไหนไปอย่างฟุ่มเฟือย แต่มีแต่สิ่งที่จำเป็นต้องจ่ายทั้งนั้น เช่น ค่าสถานที่ หรือค่าอาหาร เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะช่วยให้ว่าที่บ่าวสาวผ่านข้อนี้ไปได้คือ ว่าที่บ่าวสาวจะต้องเปิดกว้าง เปิดใจ และซื่อสัตย์ ที่สำคัญต้องพูดกันด้วยเหตุและผล ห้ามใช้อารมณ์ใส่กันเด็ดขาดนะคะ เพราะเรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่เข้าใครออกใครแม้แต่คนในครอบครัวก็ตาม
- อยากจะจัดปาร์ตี้สละโสดที่ต่างจังหวัด แต่ก็กลัวว่าเพื่อนจะไม่ได้ หรือเกรงใจที่จะให้เพื่อนช่วยแชร์ค่าใช้จ่าย แล้วจะทำยังไงดี?
ข้อนี้เราข้อบอกว่า “ขึ้นอยู่กับคุณล้วนๆ” เลยล่ะ เพราะหากภาพที่คุณวาดไว้คือปาร์ตี้สุดเหวี่ยงริมทะเล หรือจะไปชิลๆ เบาๆ บนดอย คือภาพปาร์ตี้ที่คุณวาดฝันไว้ อันดับแรก คุณต้องถามความสมัครใจเพื่อนในกลุ่มก่อน ทั้งเรื่องวัน สถานที่ และงบประมาณที่จะต้องจ่าย หากเพื่อในกลุ่มเซย์เยสเห็นด้วย ก็ไฟเขียวแล้วจัดไปโลด แต่หากเกิดความลังเลใจขึ้นในกลุ่มของคุณ เราขอแนะนำให้คุณลองจองห้องจัดเลี้ยง หรือร้านอาหาร แล้วจัดเป็นปาร์ตี้เล็กแบบส่วนตั๊วส่วนตัวที่ไม่ต้องเดินทางไกลกันให้ลำบากแทน แถมยังเซฟงบไปได้โขอีกด้วย
ติดตามไอเดียและเคล็ดลับการจัดงานแต่งงานดีๆ อีกเพียบที่นี่ คลิกเลย!
ภาพ unsplash.com