สาวๆ คนไหนที่มีอาการเจ็บคอหรือป่วยเป็นต่อมทอนซิลอักเสบทุกครั้งหลังจากที่ใช้ปากกับน้องชายของคนรักแล้วล่ะก็…เตรียมตัวไปแพทย์ได้ทันทีเลยนะคะ เพราะอาการเหล่านี้เกิดขึ้นจากการทำ ออรัลเซ็กส์ นั่นเอง นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคมะเร็งในช่องปากด้วย อุ๊ย!! แต่อย่าเพิ่งกลัวไปนะ เพราะถ้าคุณรู้วิธีการป้องกันที่ถูกต้อง คุณจะรอดปลอดโรคแน่นอน
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค
ถึงแม้การทำออรัลเซ็กซ์จะทำให้คนรักของคุณพึ่งพอใจมากน้อยแค่ไหนก็ตาม แต่อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญที่สุดนั้นก็คือเชื้อโรคที่อาจเข้ามาอยู่ในช่องปากของสาวๆ นะจ๊ะ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคอื่นๆ มีดังต่อไปนี้
- ความถี่ของการทำออรัลเซ็กซ์
- มีการหลั่งในปากหรือนอกปาก
- สาวๆ มีแผลในปากขณะทำออรัลเซ็กซ์
- น้องชายของคนรักไม่สะอาด
% การเกิดโรคจากการทำออรัลเซ็กซ์
มีการวิจัยอย่างจริงจัง ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทีมวิจัยของ ดร.มอร่า กิลลิสัน (Dr.Maure Gillison) ซึ่งถูกตีพิมพ์แพร่หลายในวารสารการแพทย์พบว่า ผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งในช่องปากเกิดจากการได้รับเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) และจากการทดสอบก็พบข้อมูลอันหน้าตื่นเต้นอีกว่า คู่นอนที่ทำออรัลเซ็กซ์ มีโอกาสป่วยเป็นโรคมะเร็งในช่องปากประมาณ 3.4 เท่า และคู่นอนที่ร่วมเพศปกติ มีโอกาสป่วยเป็นโรคมะเร็งในช่องปากประมาณ 3.1 เท่า
วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดโรค
วิธีป้องกันง่ายๆ นั่นก็คือการตรวจสุขภาพค่ะ เพราะพื้นฐานของการใช้ชีวิตคู่อันดับต้นๆ เลยคือคุณสาวๆ และคนรักจะต้องไปตรวจเพื่อหาสิ่งผิดปกติหรือเชื้อโรคที่เสี่ยงต่อการใช้ชีวิตร่วมกัน ซึ่งหากไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร โอกาสที่คุณจะป่วยก็จะลดน้อยลงมากๆ ยกเว้นแต่ว่าตรวจแล้วแต่คุณผู้ชายไม่ค่อยชอบทำความสะอาดน้องชาย แบบนี้ก็ต้องพูดคุยกันให้เข้าใจทั้งสองฝ่ายนะจ๊ะ
อีกวิธีการก็คือการทำออรัลเซ็กซ์ในขณะที่ฝ่ายชายสวมใส่ถุงยางอนามัยยังไงล่ะ ชอบกลิ่นไหนอันนี้ก็เลือกได้เลยตามใจชอบ และที่สำคัญคุณสาวๆ ห้ามลืมเป็นเด็ดขาดนั้นก็คือการบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดทุกครั้งหลังจากทำออรัลเซ็กซ์ค่ะ ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปากหรือแปรงฟันสำหรับสาวๆ ที่กำลังมีแผลอยู่ในช่องปาก ณ ขนาดนั้นนะคะ เพราะจะยิ่งทำให้เชื้อที่ติดอยู่ในแผลแพร่กระจายได้มากขึ้น แต่จริงๆ แล้วเวลามีแผลในช่องปากอย่าทำออรัลเซ็กซ์เลยจะดีที่สุด รอให้หายดีก่อนแล้วค่อยกลับมาดูดจ๊วฟๆ ให้คนรักฟินแบบสบายใจทั้งคู่อันนี้สิเลิศค่ะ
เรื่อง : พลอยน้องใหม่
ขอบคุณข้อมูล : www.vcharkarn.com, www.adamslove.org
ขอบคุณภาพ : http://www.sheknows.com/