ปัจจุบัน ชุดแต่งงานแบบสั่งตัด เริ่มได้รับความนิยมในหมู่เจ้าสาวมากขึ้น เพราะสามารถเลือกแบบ เลือกเนื้อผ้า และวัสดุตกแต่งต่างๆ ได้ตามใจต้องการ แถมชุดแต่งงานแบบสั่งตัดก็ยังมีทั้งแบบ ตัด-ซื้อ และตัด-เช่า ให้เจ้าสาวได้เลือกอีก ซึ่งคำถามที่ตามมาคือ “แล้วจะตัดชุดแต่งงานแบบไหนดี?” แต่สำหรับเจ้าสาวที่มีแบบชุดแต่งงานยืนหนึ่งในใจอยู่แล้วว่า “อย่างฉันก็ต้องใส่ชุดแบบนี้แหละ” แต่พอช่างถามมาว่า แล้วผ้าแบบไหนที่เจ้าสาวต้องการ? อาจทำเอาเจ้าสาวตอบไม่ได้ หรือเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายให้ช่างเข้าใจ เอาเป็นว่า ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องกังวลกับคำถามนี้อีกต่อไป เพราะแพรวเวดดิ้งจะมาอธิบายเนื้อผ้าชุดแต่งงานประเภทต่างๆ อย่างง่ายให้ฟัง
ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับเนื้อผ้าแบบต่างๆ อันดับแรกเจ้าสาวต้องแยกความแตกต่างระหว่างเนื้อผ้าจากธรรมชาติและเนื้อผ้าจากเส้นใยสังเคราะห์ให้ได้ก่อน
– Natural fibers เป็นเส้นใยจากธรรมชาติ เช่น ผ้าไหม, ผ้าคอตตอน และเส้นใยจากขนสัตว์ ที่นิยมใช้กับชุดเจ้าสาว
– Synthetic fibers เป็นเส้นใยที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น เส้นใยโพลีเอสเตอร์, ผ้าไนลอน, ผ้าสเปนเดกซ์ หรือผ้าเรยอน
เนื้อผ้าทั้งสองแบบก็มีข้อดีเป็นของตัวเองอย่าง เส้นใยธรรมชาติ อย่างผ้าไหม สามารถจับเดรปและมีความพลิ้วไหวสวยงาม ให้สัมผัสที่เรียบเนียนดีต่อผิว ในขณะที่คำว่า “สังเคราะห์” อาจจะให้ความคิดเชิงลบ แต่ถึงอย่างนั้นเส้นใยเหล่านี้ก็มีข้อดีที่เป็นประโยชน์ เช่น เป็นผ้าที่ยับยาก จึงสะดวกต่อการขนย้าย และทำความสะอาดได้ง่ายกว่าเนื้อผ้าจากธรรมชาติด้วย
และนี่คือบรรดาเนื้อผ้าที่เจ้าสาวจะได้เจอในร้านชุดแต่งงาน
Satin ผ้าซาตินเป็นผ้าที่มีความแวววาวในตัว ให้ความรู้สึกเบาสบายและเซ็กซี่ ช่วยให้ชุดแต่งงานดูมีน้ำหนัก และสร้างสไตล์ที่แตกต่างให้กับว่าที่เจ้าสาว ซึ่งผ้าซาตินก็แบ่งออกเป็น
- Duchess Satin – นิยมนำมาตัดเย็บเป็นตัวเสื้อช่วงบนของชุดที่เน้นงานโครงสร้าง และกระโปรงพลีตขนาดใหญ่ ส่วนมากแล้วชุดแต่งงานของราชวงส์มักจะเลือกใช้ผ้าดัชเชสซาตินในการตัดเย็บ
- Charmeuse ผ้าชาร์มัวส์ให้อารมณ์ที่เซ็กซี่ที่สุดในบรรดาผ้าประเภทผ้าซาติน เพราะมีความมันวาว ลื่นไปกับผิว เน้นทรวดทรงของผู้สวมใส่ได้ชัดเจน
Taffeta ผ้าทาฟต้า เป็นผ้าที่มีน้ำหนักเบา มีรูปทรงคงตัวสวยงาม เหมาะสำหรับการตัดเย็บชุดแต่งงานที่มีขนาดใหญ่ให้ลุคที่เพอร์เฟ็กต์แต่ดูไม่หนัก
Crepe ผ้าเครป เป็นผ้าเนื้อแมตต์ที่ดูนุ่มสลวยสวยงาม เนื้อผ้ามีน้ำหนักตั้งแต่เบาไปจนถึงหนัก นิยมนำมาตัดชุดแต่งงานทรงเมอร์เมด และชุดแต่งงานทรงเอ-ไลน์ เหมาะกับชุดแต่งงานสไตล์มินิมอล น้อยแต่มาก เน้นโครงสร้างของชุดเป็นหลัก ด้วยน้ำหนักและลักษณะเนื้อผ้าจะช่วยเน้นรูปร่างเจ้าสาวขณะก้าวเดิน
Shantung ผ้าที่ทอขึ้นจากเส้นใยสังเคราะห์ มีน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับงานแต่งงานในหน้าร้อน หรืองานแต่งงานกลางแจ้ง
Dupioni เนื้อผ้ามีลักษณะแข็ง เหมาะสำหรับการตัดเย็บชุดที่เน้นโครงสร้าง หรือชุดแต่งงานที่ชายกระโปรงลากยาวมากๆ
Faille เหมาะสำหรับตัดเย็บชุดแต่งงานที่ต้องการเน้นโครงสร้างของชุดให้ชัด เนื้อผ้ามีลักษณะเป็นรูเล็กๆ เหมาะสำหรับการตัดเย็บเป็นเสื้อ หรือชุดเดรสที่เน้นความเรียบง่าย ให้ซิลลูเอทที่สวยงาม
Organza เนื้อผ้าบางเบา เข้ากับรูปร่าง และให้ความรู้สึกสบายขณะก้าวเดิน เหมาะสำหรับตัดเย็บชุดแต่งงานแนวเจ้าหญิงสวยหวาน หรือชุดแต่งงานทรงบอลกาวน์
Chiffon ผ้าชีฟอง เป็นผ้าโปร่ง มีความสวยงามในตัว เหมาะสำหรับตัดเย็บชุดแต่งงานที่อยากเน้นช่วงบนของชุดให้ดูหรูหรา หรือนำมาเสริมบริเวณกระโปรงลากยาวให้ดูเหมือนเจ้าหญิง
Gazar คล้ายกับผ้าออแกนซ่าแต่มีความแข็งและโปร่งกว่าเล็กน้อย เหมาะสำหรับชุดแต่งงานทรงบอลกาวน์ หรือเสื้อท่อนบนที่อยากเน้นดีเทลความสวยงามหรือมีดีเทลของงานปัก
Lace ผ้าลูกไม้ มีหลายชนิดให้เจ้าสาวเลือก ซึ่งแต่ละแบบก็มีความแตกต่างและสวยงามต่างกัน รวมไปถึงเรื่องลวดลายหรือแพตเทิร์นที่แต่ละแบบก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
– Chantilly ลูกไม้ที่มีความเซ็กซี่ มีลวดลายที่อ่อนช้อย ส่วนมากมักจะเป็นลวดลายดอกไม้
– Alencon ลายลูกไม้มีความแน่นมากว่า Chantilly มีช่องว่างระหว่างลายน้อยกว่า แต่ยังคงเป็นลวดลายดอกไม้เหมือนกับ Chantilly
– Guipure เป็นลูกไม้ที่หนาและหนักกว่า 2 ชนิดแรก มีลักษณะคล้ายกับงานปัก โดยจะมีทั้งลวดลายดอกไม้และลวดลายแบบกราฟิก
Net ผ้าเน็ต คือผ้าที่มีลักษณะเป็นผ้าซีทรูโปร่งบาง และมักจะประดับด้วยลูกปัดหรือเลื่อมเพื่อเพิ่มความสวยงามหรูหรา ซึ่งมีหลายประเภท และแต่ละประเภทก็มีน้ำหนักต่างกันไป เช่น Beaded Net และ Embroidered Net
ผ้าทูล เป็นผ้าตาข่ายที่มีความสวยงาม นิยมนำมาใช้เป็นผ้าชั้นนอกสำหรับกระโปรงทรงบอลกาวน์ หรือใช่ในการจับเดรปเพื่อให้ชุดดูอ่อนหวาน และนิยมนำมาใช้ทำเวลเจ้าสาวด้วย
English Net เป็นผ้าตาข่ายที่มีความนุ่มและมีน้ำหนักมากกว่าผ้าทูล สามารถนำมาจับเดรปได้อย่างสวยงามและนิยมใช้กับกระโปรงทรงเอ-ไลน์
ดูแบบชุดแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!
ข้อมูลจาก www.stylemepretty.com
ภาพ Pinterest, pexels.com