เสร็จสิ้นลงอย่างสวยงามสำหรับงานประจำปีที่เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับงาน ‘อุ่นไอรัก คลายความหนาว’ ที่จัดขึ้น ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนาม
ฝ้าย – สุภาพร มะลิซ้อน มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2016
สวยสง่างามได้ลุคหญิงไทยแบบผู้ดีในชุดไทยสมัยรัชกาลที่ 5 ต้อนต้นในแบบประยุกต์ โดยเป็นการนุ่งผ้าลายโจงกระเบนสำเร็จสีไวน์แดง ตัวเสื้อเป็นผ้าไหมสีน้ำตาลทองแขนยาว ห่มสไบเฉียงทับบนตัวเสื้ออีกหนึ่งชั้น ซึ่งเป็นสไบผ้าไหมไทยที่วาดลวดลายลงบนผืนผ้าไว้อย่างบรรจงด้วยการปักปล้องอ้อยขนาดเล็กสีทองคำ พร้อมเรียงร้อยแทรกลวดลายเกสรด้วยลูกปัดสีทองขนาดเล็ก และคริสตัลเพชรสวารอฟสกี้สุดเลอค่า พร้อมปล่อยชายสไบให้ลากยาวจรดปลายพื้น
โน้ต – วัชรบูล ลี้สุวรรณ นุ่งผ้าโจงกระเบนสำเร็จสีแดง จับคู่กับเสื้อราชประแตนผ้าไหมที่สอดดิ้นสีเทาเข้มที่แลดูเข้ากันเป็นอย่างดี ซึ่งทั้งสองชุดนี้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีที่ว่าที่บ่าวสาวสามารถเลือกนำไปสวมในพิธีแต่งงานแบบไทยได้
ทั้งสองชุดจาก Finale wedding studio เป็นผลงานการออกแบบและตัดเย็บขึ้นใหม่ทั้งชุุดโดยคุณเกสินี กล่ำอยู่สุข และคุณสุดจิตร์ สุดจิตต์ แห่งแบรนด์ ฟินาเล่ เวดดิ้ง สตูดิโอ
มุก – มุกดา นรินทร์รักษ์ มิสทีนไทยแลนด์ ปี 2011 และนางเอกดาวรุ่งแห่งช่อง 7
สวยหวานสมวัยในชุดไทยประยุกต์สมัยรัชกาลที่ 5 ตอนปลาย ซึ่งได้แรงบันดาลใจการแต่งกายมาจากสมัยรัชกาลที่ 5 ตอนกลางซึ่งเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงเครื่องแต่งกายของคนไทย เนื่องจากรัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จประพาสยุโรป และมีการนำแบบอย่างการแต่งกายของชาวยุโรปกลับมาประยุกต์ใช้ในประเทศไทย จนกระทั่งมาถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ตอนปลายเหล่าสตรีเริ่มหันมานุ่งโจงกระเบน สวมคู่กับเสื้อลูกไม้ที่ตัดตามแบบอย่างตะวันตก บริเวณแขนยาวพองฟู ช่วงเอวเสื้อตัดเย็บแบบเข้ารูป พร้อมคาดเข็มขัดและสายสะพายผ้าแพร อีกทั้งยังมีการสวมถุงเท้าที่มีลวดลายใส่คู่กับรองเท้าส้นสูง พร้อมกับทรงผมดอกกระทุ่มและมักเลือกใช้เครื่องประดับมุกเป็นส่วนใหญ่ในยุคนั้น
ลุคหรูหราแบบตะวันตกที่ผสมความเป็นไทยสุดสง่างามได้อย่างลงตัว กับโจงกระเบนสำเร็จสีโรสโกลด์ลวดลายพุ่มข้าวบิณฑ์ สวมคู่กับเสื้อลูกไม้ฝรั่งเศสสีงาช้างแบบปิดคอสูง และตัดแบบตะวันตกด้วยรูปแบบของเสื้อแขนยาว พร้อมเล่นเลเยอร์ช่วงไหล่ให้พองฟูแบบสองชั้น บริเวณเอวเสริมด้วยระบายที่โชว์ลวดลายลูกไม้สุดหรูหรา พร้อมคาดเข็มขัดมุก สร้อยคอมุกประดับเพชรที่ใช่ให้ลุคนี้ดูสวยสง่าอย่างสมบูรณ์แบบ
ชุดจาก FINALE WEDDING STUDIO ออกแบบ ประยุกต์ และตัดเย็บขึ้นใหม่โดยเป็นผลงานการออกแบบของสองดีไซเนอร์ไทยคุณเกสินี กล่ำอยู่สุข และคุณสุดจิตร์ สุดจิตต์ แห่ง ฟินาเล่ เวดดิ้ง สตูดิโอ
เมย์ – พิชญ์นาฏ สาขากร
สวยสง่ามดูเลอค่าสุดๆ ในชุดไทยสมัยรัชกาลที่ 5 ตอนต้นแบบประยุกต์ โดยการนำผ้าไหมที่เป็นมรดกอันล้ำค่าและเป็นเอกลักษณ์ของไทยที่มีการถ่ายทอดมาตั้งบรรพชนสู่รุ่นปัจจุบันนั้น นำมาตัดเย็บให้เป็นชุดไทยสุดประณีตชุดนี้ ตัวเสื้อออกแบบและตัดเย็บไว้อย่างบรรจงพร้อมวาดลวดลายคัตติ้งเรียบโก้เอาไว้ได้อย่างลงตัวด้วยไหมไทย 4 เส้นที่ช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับลุคนี้ได้เป็นอย่างดี เนื้อผ้ามีความหนาที่พอเหมาะ พร้อมใส่ใจในการคัดคุณภาพของเส้นไหมให้มีความมันวาวเพื่อเพิ่มความสง่างามให้กับผู้สวมใส่
ตัวเสื้อด้านในเป็นเสื้อแขนยาวจับจีบเพิ่มความอ่อนหวานและแลดูสง่างามบริเวณช่วงไหล่ พร้อมเล่นเลเยอร์จับย้วยช่วงเอวสุดอ่อนหวาน นุ่งคู่กับโจงกระเบนสำเร็จสีกลีบบัวเป็นผ้าไหมไทยทอลายลูกแก้ว ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่ได้รับการสืบทอดจากบรรพบุรุษแบบภูมิปัญญาท้องถิ่นนับเป็นระยะเวลากว่าร้อยปีที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว เพิ่มความสง่างามให้ลุคนี้อีกขั้นด้วยความระยิบระยับแวววาวของตัวสไบที่ห่มเฉียงทับบนตัวเสื้ออีกหนึ่งชั้น โดยสไบเป็นผ้าใยแก้ววาดลวดลายลงบนผืนผ้า พร้อมบรรจงปักปล้องอ้อยขนาดเล็กสีพิงค์โกลด์ โรสโกลด์ ผสมสีเงิน และเรียงร้อยแทรกลวดลายเกสรจากคริสตัลเพชรสวารอฟสกี้สุดล้ำค่า ที่ห่มทับผ้าไหมไทยที่จับจีบพีทปล่อยชายสไบลากยาวจรดปลายพื้น ชุดจาก Finale wedding studio
ริต้า – ศรีริต้า เจนเซ่น และโจเซฟ แองเจโล จาก The Face Men Thailand
อีกหนึ่งความอลังการของแฟชั่นชุดไทยประยุกต์สมัยรัชกาลที่ 5 ที่มีการผสมผสานความงดงามสุดเลอค่า พร้อมความสวยงามสุดวิจิตรที่สะกดต่อทุกสายตา และเป็นอีกหนึ่งลุคชุดไทยที่ว่าที่บ่าวสาว หรือแก๊งเพื่อนเจ้าสาวเจ้าบ่าวไม่ควรพลาด
ฝ่ายชายสวมชุดสูทแบบไทย นุ่งคู่กับโจงกระเบนที่มีลวดลายผ้าแบบไทย เป็นอีกหนึ่งชุดไทยแบบประยุกต์สุดสง่างามที่มาพร้อมคัตติ้งสุดเนี้ยบแบบไร้ที่ติ ทั้งสองชุดจาก Finale wedding studio
ชุดไทยแบบประยุกต์ ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบชุดไทยที่เราคาดว่าน่าจะก่อให้เกิดกระแสในหมู่บรรดาว่าที่เจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาวไม่น้อย เนื่องจากเป็นรูปแบบชุดที่ไม่เชยและดูร่วมสมัยอยู่เสมอ อีกทั้งยังสามารถแมตช์ได้ทั้งเครื่องประดับเงิน ทอง และไข่มุก จึงช่วยสร้างลุคอันหลากหลายให้กับว่าที่เจ้าสาวได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยให้ว่าที่เจ้าบ่าวเลือกแมตช์ชุดเจ้าบ่าวแบบไทยได้ง่าย เพราะเพียงแค่สวมสูทแบบสากลที่ด้านบน พร้อมนุ่งโจงกระเบนที่ด้านล่าง เท่านี้ก็สามารถจับคู่กับชุดไทยแบบประยุกต์ของเจ้าสาวได้แล้ว
ว่าแล้วก็ตามไปส่องชุดสวยๆ ที่เรานำมาฝากกันอีกเพียบ
ชุดจาก Fullrichbride, เครื่องประดับจาก กรุช่างทองโบราณ
ชุดจาก Fullrichbride
ชุดจาก Fullrichbride, เครื่องประดับจาก กรุช่างทองโบราณ
ชุดจาก Fullrichbride
ชุดจาก Finale Wedding Studio
ชุดจาก Finale Wedding Studio
ชุดจาก Finale Wedding Studio
ชุดจาก Finale Wedding Studio
ชุดจาก Finale Wedding Studio
ชุดจาก Finale Wedding Studio
ชุดจาก Finale Wedding Studio
ชุดจาก Finale Wedding Studio
ชุดจาก Finale Wedding Studio
ชุดจากอาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย
ชุดจากอาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย
ชุดจาก Amitabridal, เครื่องประดับจาก กรุช่างทองโบราณ
ชุดจาก Fullrichbride, เครื่องประดับจาก กรุช่างทองโบราณ
ภาพจากไอจี @guru.chang, @finaleweddingmagazine, @fullrichbride, @warattaya, @davikah, @nuneworanuch