โบราณเขาว่ากันว่าผู้หญิงทุกคนมีมารยามากมายเป็นร้อยพันเล่มเกวียน แต่แหม! อย่าให้แพรวเวดดิ้งต้องพูดแย้งคนโบราณเลยนะคะว่าผู้ชายนี่แหละตัวดี จริตจก้านมารยาไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้หญิงสักเท่าไหร่ เผลอๆ บางทีจะมีประโยคแสนหวานมาหลอกให้เราตายใจอีก ผู้หญิงบางคนถึงขั้นสงสัยว่า ทะเลาะง้องอนกันอยู่ดีๆ พอเขาพูดไม่กี่คำดันกลายเป็นต้องยอมซะงั้น!!! แพรวเวดดิ้งเลยรวม 9 ประโยคเด็ดของชายหนุ่มที่ ทำให้สาวใจอ่อน มาให้สาวๆ ทวนความจำสักนิดว่า เคยยอมแพ้ให้กับประโยคแบบไหนกันบ้าง
1. ผม… ผม… ผม… คุณจะโอเคไหม?
เปิดข้อแรกด้วยสกิลคำพูดขั้นเทพของคาสโนว่าที่ถือเป็นความเจ้าชู้ขั้นแอดวานซ์ โดยเขาจะบอกความจริงกับคุณทั้งหมดไม่มีปิดบังว่า ผมมีแฟนแล้ว กำลังคุยกับคนนั้นคนนี้อยู่ และอีกสารพัดความจริง (ที่เขาคิดว่าบอกได้) จากนั้นก็จะให้คุณทำหน้าที่ตัดสินใจว่าจะจิ๊จ๊ะกันหรือไม่ด้วยประโยคที่ว่า “แล้วคุณโอเคไหม?” เอ้า! เจอแบบนี้ดูเหมือนเป็นผู้ชายแฟร์ๆ จริงใจ แต่ถ้าคุณฉันโอเคเมื่อไหร่เท่ากับว่าคุณยอมก้าวเข้าสู่วังวนเกมรักที่ไม่ใช่แค่เราสอง เกิดเรื่องมาให้ใจชีช้ำก็ไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้ เพราะเขาก็บอกกติกาเกมนี้ไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว ซึ่งก็น่าแปลกที่ผู้หญิงหลายคนยอมหลงคารมเล่นเกมนี้ทั้งๆ ที่รู้ว่าคนแพ้ก็คือตัวเอง เพราะสุดท้ายเขาก็เลือกตัวจริงอยู่ดี!
2. ผมทำเพื่อเราสองคนเลยนะ!
ผมทำเพื่อคุณนะหรือไม่ก็ผมทำเพื่อเราสองคนนะ โหหห! เป็นประโยคที่ฟังดูดีและอบอุ่นสำหรับคนรักกันมากกกก! ซึ่งในความจริงแล้วเขาก็อาจจะทำเพื่อเราจริงๆ ก็ได้นะ แต่! ในบางครั้งมันก็ถูกยกมาเป็นข้ออ้างสำหรับการกระทำบางอย่าง เช่น ผมอุตส่าห์ซื้อโฮมเธียร์เตอร์มาเราจะได้ดูหนังด้วยกันสนุกๆ หรือ ผมซื้อกล้องแพงๆ มาเพื่อที่จะถ่ายรูปคุณได้สวยๆ ไง แบบนี้เป็นต้น ผู้หญิงหลายคนที่ได้ยินประโยคแบบนี้ก็มักจะยอมเพราะคิดว่าเขาทำเพื่อฉัน ทำเพื่ออนาคตของเรา แต่ก็ยังไม่วายแอบมีเสียงกระซิบเบาๆ ว่า “นี่มันทำเพื่อตัวเองชัดๆ !”
3. ถ้าคุณทำ ผมก็จะทำ
เป็นเรื่องธรรมดาของผู้หญิงส่วนใหญ่ที่จะไม่ชอบให้แฟนตัวเองออกไปเที่ยวกลางค่ำกลางคืน กลับดึกเมื่อไหร่เป็นอันต้องมีอาการงอนและมีน้ำโห แต่! แน่นอนว่ากฎข้อนี้ไม่บังคับใช้กับตัวเธอเอง จนกระทั่งผู้ชายหลายคนต้องเรียกร้องสิทธิในการเที่ยวของตนบ้าง ซึ่งประโยคที่มักจะได้ยินกันบ่อยๆ ก็คือ ถ้าเธอไปเที่ยว ฉันก็จะไปบ้าง หรือบางทีก็มาเป็นคำถามว่า ทำไมคุณทำได้ แล้วผมถึงทำไม่ได้ล่ะ? เจอประโยคแบบนี้เข้าไปผู้หญิงร้อยทั้งร้อยต้องอ่ำๆ อึ้งๆ ไปต่อไม่ถูก สุดท้ายก็ตกอยู่ในภาวะจำยอมเหมือนเคย แต่จะยอมอยู่บ้านไม่ออกไปไหน หรือจะยอมให้ออกไปทั้งคู่ อันนี้ก็แล้วแต่กรณีเนอะ อิอิ!
4. พูดขอโทษออกไปก่อน
ขึ้นชื่อว่าคนรักกันจะขัดข้องหมองใจหรือทำผิดไปบ้างมันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ฝ่ายชายทำผิดแล้วฝ่ายหญิงเกิดงอนตุ๊บป่องขึ้นมาก็ยากที่จะหายโกรธ บางคนปั้นหน้าบึ้งตึง เงียบขรึม บางคนวีนเหวี่ยงโวยวาย แต่เมื่อได้สดับฟังคำขอโทษพร้อมเห็นถึงความสำนึกผิดในตัวเขาแล้ว หัวใจก็อ่อนยวบไปตามระเบียบ ยอมให้อภัยแล้วก็กลับไปคืนดีกันเหมือนเดิม จบเรื่องราวแบบแฮปปี้เอนดิ้ง
5. ครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ สัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก
หลังจากคำขอโทษและการสำนึกผิดที่ไม่ได้ช่วยทำให้คุณเธออารมณ์เย็นลง หรือผู้ชายบางคนที่พูดขอโทษไปงั้นๆ แล้วกลับไปทำผิดแบบเดิมจนถูกจับได้เป็นครั้งที่สอง ประโยคแอดวานซ์ขั้นต่อมาก็คือ “ครั้งนี้สุดท้ายแล้วจริงๆ สัญญาว่าจะไม่ทำอีก” (มักจะใช้ควบคู่กับประโยคขอโทษ) ก็จะถูกนำมาใช้ปราบอารมณ์เหวี่ยง สาวๆ หลายคนพอได้ยินประโยคนี้เข้าไปก็เสร็จเรียบ ใจอ่อนยอมคืนดี แล้วก็มีความคิดแบบโลกสวยว่าความผิดครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย หึ! ถามจริงๆ เหอะ ได้ยินคำว่าครั้งสุดท้ายมากี่รอบแล้วล่ะแม่คุณ!
6. ทำการแสดงเรียกน้ำตา
เทคนิคขั้นสุดยอดที่ผู้ชายจะลงทุนทำให้เรายอมเขาในทุกเรื่องนั่นก็คือ “น้ำตา” ค่ะสาวๆ อย่างที่เราเข้าใจกันว่าผู้ชายเป็นเพศเข้มแข็งและมักจะไม่ร้องไห้พร่ำเพื่อ แต่เมื่อไหร่ที่สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤติ ไม่มีทีท่าว่าคนรักข้างกายจะยอมง่ายๆ ผู้ชายก็จะยอมแหกกฎความแมนของตัวเองด้วยการปั้นหน้าหง่อยๆ ตีหน้าเศร้า แล้วเรียกน้ำตามาให้เราสงสาร แล้วยังไงคะ? ก็สงสารยอมเขาซะทุกอย่างเหมือนเคย แต่ใครจะไปรู้ว่าขณะที่ใบหน้าอาบน้ำตา ในใจอาจจะกระหยิ่มยิ้มย่องแล้วคิดว่า “เสร็จตรูแน่” ก็ได้นะ ฮ่าๆๆ!
7. ขู่ว่าจะเลิก!!!
ประโยคยอดฮิตที่สาวๆ หลายคนกลัวนักกลัวหนากับคำพูดที่ว่า “งั้นเลิกกันเลยไหมล่ะ” สาวๆ หลายคนพอได้ฟังประโยคนี้ก็มักจะสตั๊นท์ อึ้ง ไปไม่ถูก สุดท้ายก็เข้าสู่ภาวะจำยอมเพราะความรักมาก ซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่ที่หลุดประโยคนี้ออกมาก็ทำให้เราคิดได้แค่ 2 อย่างคือ 1. ไม่รักเราแล้วแน่ๆ และ 2. ขู่ไปงั้นแหละ จริงๆ แล้วเลิกไม่ได้หรอก แพรวเวดดิ้งอยากจะบอกคุณผู้หญิงทั้งหลายว่า ไม่ว่าเหตุผลของการขู่แบบนี้จะเป็นอย่างที่หนึ่งหรืออย่างที่สอง ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่ผิด (และเตรียมใจไว้แล้ว) ฮีบินก็อยากจะให้คุณตอบเขาไปเลยดังๆ ว่า “ก็เอาซิ!” เพราะว่าถ้าเขาไม่รักกันแล้วฝืนคบกันไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าเป็นแค่การขู่ สุดท้ายเขาก็ต้องกลับมาง้อคุณอยู่ดีนั่นแหละ
8. ตัวเองไม่รักเค้าแล้วเหรอ?
อีกหนึ่งประโยคที่มักจะมาพร้อมใบหน้าและแววตาแอ๊บแบ๊วไร้เดียงสา ได้ยินเมื่อไหร่หัวใจต้องอ่อนยวบ พร้อมกับตอบออกไปว่า “รักสิ” แล้วก็ยอมแพ้ความอ้อนของเขาอีกเหมือนเดิม ส่วนใครที่เจอมุกนี้เข้าไปแล้วยังไม่อยากยอมง่ายๆ (เดี๋ยวเขาจะได้ใจ) แพรวเวดดิ้งแนะนำให้เพิ่มคำตอบเข้าไปอีกสักนิดว่า “รักสิ แต่มันไม่เกี่ยวกับที่เธอทำผิดนะ” รับรองเลยว่า ถ้าเขาได้ยินประโยคนี้เข้าไป เขานั่นแหละที่ต้องยอมเรา ไม่อย่างนั้นเขาก็ต้องพยายามแถไปเรื่อยๆ แน่นอน ฮ่าๆๆ
9. ไปถาม…ได้เลย!
เทคนิคนี้มักจะมาให้ผู้หญิงได้พบเจอเมื่อเราจับได้แต่ไม่คาหนังคาเขา! ซึ่งนอกจากหลากหลายเหตุผลที่ฝ่ายชายจะชักแม่น้ำทั้งโลกมาเป็นข้ออ้างแล้ว ถ้าจะให้น่าเชื่อถือและเพิ่มเปอร์เซ็นต์การรอดตัวของตัวเขาเองมันก็ต้องมี “หลักฐาน” และหลักฐานที่สร้างง่ายที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น “พยานบุคคล” ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่ น้อง บางครั้งก็แอดวานซ์เป็นญาติผู้ใหญ่ ซึ่งเขาสามารถเตี๊ยมกันได้สบายๆ เมื่อผู้หญิงหลายคนได้ยินประโยคที่ว่า “โทรไปถาม….ได้เลย!” ก็มักจะยอมเชื่อ (ก็เขามีหลักฐานนี่) บางคนก็เกิดความเกรงใจไม่กล้าโทรไปรบกวนบุคคลเหล่านั้น สุดท้ายก็ตกอยู่ในภาวะจำยอมเหมือนเดิม ฮ่าๆๆ
แพรวเวดดิ้งไม่ได้จะบอกว่าประโยคเหล่านี้เป็นประโยคอันตรายที่คุณสาวๆ ไม่ควรรับฟังนะคะ บางครั้งการที่เขาสำนึกผิด สัญญา ขอโอกาส หรืออะไรก็ตามแต่ เราก็ควรจะยกโทษและให้โอกาสกับเขาบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแพรวเวดดิ้งแนะนำให้ฟังประโยคเหล่านี้เพียงแค่รอบเดียวเท่านั้น (เต็มที่ให้ 2 รอบก็ได้) ถ้าคุณได้ยินประโยคที่ ทำให้สาวใจอ่อน เหล่านี้บ่อยๆ ก็เตรียมตัวเซย์กู๊ดบายเถอะค่ะ ทนฟังไปเรื่อยๆ เดี๋ยวจะเสียสุขภาพจิต!
อ่านบทความเพิ่มเติม
5 ข้อตกลง “ไม่ควรมี” ก่อนแต่งงาน ถ้าไม่อยากให้ชีวิตคู่ต้องอึดอัด
รักได้แต่ต้องรักให้เป็นหากริจะรักผู้ชายเจ้าชู้ สาวๆ ต้องฝึกวิทยายุทธรับมือให้เป็น
รักทางไกลทำยังไงให้เวิร์ก รับรองว่ารักระยะไกลก็เป็นรักที่ดีได้ไม่แพ้รักไหนๆ เลย