ปัญหา นอกใจแฟน เป็นปัญหาระดับสากลโลกที่มีอยู่ในทุกเชื้อชาติ ทุกสีผิว และทุกเพศ
จากข้อมูลของสมาคมที่ปรึกษาปัญหาครอบครัวและชีวิตคู่แห่งอเมริการะบุว่า กว่า 60% ของคู่ชีวิตทั้งหมด ล้วนเคยประสบปัญหาคู่ครองนอกใจ อย่างน้อย 1 ครั้งในช่วงชีวิตแต่งงาน
เห็นตัวเลขสูงเกินกึ่งแล้วก็อย่าเพิ่งตาโต ถ้าจะบอกว่ามันเป็นเพียงตัวเลขประมาณขั้นต่ำ เนื่องจากว่าไม่ใช่ทุกคนจะยอมรับว่าตนเองหรือคู่ครองของตนเคยนอกใจกันมาก่อน โดยเฉพาะเมื่อยังมีกลุ่มคนที่มีแนวความคิดว่าแค่พูดคุย คบหากับ “กิ๊ก” ไม่เรียกว่าเป็นการนอกใจแต่อย่างใด เพราะยังไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กันซะหน่อย
จะว่าไปมุมมองต่อปัญหานอกใจนี้ก็เข้าข่าย คนทำไม่ได้คิด(มาก) แต่คนที่ถูกกระทำ(ไม่ได้ทำ) ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน กลับคิดและต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ถึงจะเป็นการนอกใจแบบไม่มีเพศสัมพันธ์มาเกี่ยวข้อง แต่ความรุนแรงของมันก็ไม่ต่างอะไรกับการนอกใจแบบมีเพศสัมพันธ์ และเป็นการบ่งบอกว่า “คู่ของเรา” ได้ตัดสินใจลาออกจากชีวิตคู่แล้ว
เพราะการนอกใจในรูปแบบนี้สามารถทำลายความสัมพันธ์ได้ยิ่งกว่าการนอกใจแบบมีเพศสัมพันธ์ ค่าที่มันสร้างความเจ็บปวดให้กับคู่ครองได้มากกว่าการยอมรับตรง ๆ ว่านอกใจเสียอีก
เนื่องด้วยมันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าการหลอกลวงนี้เกิดขึ้นอย่างจงใจ ซึ่งถือเป็นหัวใจของการทรยศเลยทีเดียว โดยผู้หญิง 88% จะให้ความสำคัญกับการที่คู่ครองคบหากับคนอื่นมากกว่าการที่คู่ครองมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่มากกว่าคำตอบของฝั่งผู้ชายถึง 2 เท่า
แล้วทำไมเมื่อรู้ว่าผลของการนอกใจสร้างความเจ็บปวดให้กับคู่ครองเพียงใดแล้ว คนจำนวนมากถึงยังเลือก นอกใจแฟน กันอีกล่ะ?
17 เหตุผลชวนใจสลายต่อไปนี้ อาจทำให้คุณที่ผ่านพบประสบการณ์แย่ๆ เข้าใจถึงสาเหตุมากขึ้น
1.คนที่นอกใจเป็นพวกหลงตัวเองและต้องการย้ำเตือนความสำคัญของตัวเองไม่มีที่สิ้นสุด
คนประเภทนี้มักจะค้นหาเป้าหมายใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ตัวเองยังรู้สึกมั่นใจอยู่ จึงมีอาการเหมือนเสพติดการเป็นคนสำคัญที่ต้องการให้คนอื่นคอยช่วยย้ำเตือนความสำคัญของตนเองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพราะแท้จริงแล้วคนประเภทนี้รู้สึกไม่มั่นใจและมีความมั่นใจในตัวเองต่ำ มันจึงเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าสำหรับคนพวกนี้ในการหาคนอื่นมาคอยชื่นชมตัวเองแทนที่จะเผชิญหน้ากับความไม่มั่นใจที่คอยหลอกหลอนตัวเองอยู่
2.คนที่นอกใจมีปัญหาในการควบคุมความต้องการของตนเอง
สัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาความบกพร่องในการควบคุมความต้องการของตนเองนั้นคือการเสพติด “ความสุข” จากสิ่งต่าง ๆ เช่น สุรา อาหาร หรือการพนัน มากเกินไป ซึ่งการนอกใจก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของปัญหานี้เช่นกัน แม้แต่เรื่องที่ดูเล็กน้อยอย่างการให้ท่าแบบไม่มีพิษภัยหรือการคบหาที่ไปไกลกว่าคำว่า “เพื่อน” ก็ส่งผลให้คนเหล่านี้ต้องปกปิดความผิดอย่างเลี่ยงไม่ได้
3.คนที่นอกใจเชื่อว่าการมีกิ๊กเป็นเรื่องที่ถูกต้องสำหรับตนเอง
คนประเภทนี้ชอบอ้างว่า “มันไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร คนเรามีชีวิตเพื่อเติมเต็มความต้องการเป็นธรรมชาติ” และข้ออ้างนี้ก็ถูกใช้สร้างความชอบธรรมให้กับพฤติกรรมของคนประเภทนี้ พร้อมกับเหตุผลอีกสารพัดว่าทำไม “เพื่อน” คนนี้หรือการมีคนอื่นถึงสำคัญกับชีวิตของเขา และการคบซ้อนแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ทำลายความสัมพันธ์แต่อย่างใด
ที่สำคัญคนประเภทนี้ยังเชื่อจริง ๆ อีกว่า ตัวเอง “ไม่ได้เจ้าชู้” และพร้อมจะหาเหตุผลสารพัดมายืนยันตัวเอง ซึ่งเหตุผลอย่างหนึ่งก็คือรายได้ของคนที่นอกใจมากพอที่จะไปมีคนอื่นได้
4.คนที่นอกใจเชื่อว่าตัวเองเป็นคนดีและไม่คิดว่าพฤติกรรมของตนเป็นเรื่องผิด
คนประเภทนี้เชื่อว่าการนอกใจที่เป็นความผิดหมายถึงการมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นที่ไม่ใช่คู่ของตนเท่านั้น และในเมื่อเขาไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องรู้สึกผิดอะไรกับการทำกิจกรรมอื่น ๆ และคิดเพียงแค่ว่าคู่ของตนนั้นคิดมาก ขี้หึง กลัวถูกทิ้ง หรือเจ้ากี้เจ้าการน่ารำคาญ ฯลฯ
คนประเภทนี้จะชอบย้ำว่าตัวเองไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะ “ทำผิด” (คือแอบไปมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น) แต่จะเพิกเฉยกับการกระทำอื่น ๆ ที่ก็ถือเป็นการนอกใจทั้งหมด
5.คนที่นอกใจปฏิเสธใครไม่เป็น
คนประเภทนี้มองว่าตนเองเป็นที่พึ่งสำคัญของคนอื่น ไม่ว่าจะเพราะคนอื่นที่ว่านี้ต้องการ “ความช่วยเหลือ” หรือเพราะตัวคนที่นอกใจต้องการรู้สึกเป็นคนสำคัญอยู่ลึก ๆ ก็ตาม
6.คนที่นอกใจไม่ชอบให้คู่ครองคอย “บงการชีวิต”
คนประเภทนี้มักล้มเหลวในการสื่อสารความต้องการของตนเองอย่างถูกวิธี จึงคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่คือการต่อสู้เพื่ออิสรภาพในชีวิต ทั้งที่แท้จริงแล้วก็ยังติดอยู่กับการถูกบงการ ด้วยการไม่ยอมอ่อนข้อให้กับคู่ของตน คนประเภทนี้ก็เพียงแค่แสดงให้คู่ของตนเห็นว่าขอบเขตของการควบคุมอยู่ตรงไหนเท่านั้น
7.คนที่นอกใจโตมาในสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการนอกใจ
คนประเภทนี้อาจมีญาติพี่น้องที่มีพฤติกรรมแบบเดียวกันและไม่คิดว่าการนอกใจเป็นเรื่องผิด เมื่อค่านิยมในครอบครัวคือการป้องกันตัวอย่างไร้ความรับผิดชอบและแก้ปัญหาด้วยการโยนความผิด ไม่รับผิด มีความเชื่อผิด ๆ และไม่ยอมรับความจริง คนประเภทนี้ก็ย่อมมีพฤติกรรมไม่ต่างกัน
8.คนที่นอกใจไม่พอใจคู่ของตนเองแต่ไม่แสดงออก
คนประเภทนี้ไม่สามารถแสดงความรู้สึกของตน (โดยเฉพาะความรู้สึกแง่ลบ) ออกมาได้ และมักตามใจคนอื่นเพื่อหลีกหนีปัญหา ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าที่จะแสดงตัวเป็น “คนดี” แล้วแอบไปหาที่เติมพลังที่อื่น
9.คนที่นอกใจรู้สึกผิดหวังในความสัมพันธ์หรือในตัวคู่ครอง
คล้ายกับเหตุผลก่อนหน้า คนประเภทนี้จะไม่แสดงออกตรง ๆ เมื่อความโกรธขึ้นมา คนประเภทนี้จะไม่แสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเป็นความผิดหวังในแง่ของชีวิตคู่ที่ไม่เหมือนฝัน หรือคู่ครองที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม การแสดงออกถึงความรู้สึกแง่ลบกับคู่ครองของตนโดยตรงก็ดูจะเสี่ยงเกินไปสำหรับคนประเภทนี้
10.คนที่นอกใจกลัวการผูกมัด
การผูกมัดเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับคนประเภทนี้ ที่แม้จะใจใฝ่หาแต่ก็หวาดกลัว มันจึงเป็นเรื่องง่ายกว่าที่จะหามือที่ 3 มาผสมโรงแทนที่จะพูดคุยกับคู่ของตนตรง ๆ คนประเภทนี้จะทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ลึกซึ้งและเลือกที่จะคบหาแบบปลอดภัยไว้ก่อน ด้วยความกลัวว่าจะเป็นฝ่ายถูกทิ้ง คนประเภทนี้จึงมักเตรียมทางออกไว้เพื่อให้ตัวเองไม่เสียความรู้สึก เพราะการเป็นฝ่ายทิ้งย่อมรู้สึกดีกว่า
11.คนที่นอกใจเคยพบว่าพ่อแม่ของตนก็นอกใจ
ประสบการณ์แบบนี้ทำให้คนประเภทนี้มองว่าการนอกใจเป็นเรื่องธรรมดา ชีวิตคู่ที่ดีนั้นเป็นเรื่องแปลกประหลาดสำหรับคนประเภทนี้ คนกลุ่มนี้จึงทำตัวใกล้ชิดสนิทสนมกับคนอื่นได้อย่างไม่มีกาลเทศะ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการนอกใจเช่นกัน
12.คนที่นอกใจกำลังอยู่ในห้วงทุกข์ของความสูญเสีย
คนประเภทนี้ยังมีใจกับคนรักเก่า (อาจจะเป็นคู่ที่เสียชีวิตไปแล้ว คู่ที่เลิกรากันไป หรือแม้แต่รักแรก) ทำให้คนประเภทนี้ไม่มีความสุขกับความสัมพันธ์ใหม่เมื่อเทียบกับคนเก่าที่ยังอยู่ในใจ
13.คนที่นอกใจมีคู่ครอง(หรือลักษณะความสัมพันธ์)ที่ไม่ตอบสนองความคาดหวัง
คนประเภทนี้อาจมีคู่แต่งงานที่จริงจังและหัวโบราณจนน่าเบื่อ ก็เลยเลือกที่จะไปตีสนิทกับคนอื่นที่สนุกสนาน มีสีสัน และอิสระมากกว่า คนประเภทนี้มักรู้สึกเก็บกดเวลาอยู่กับคู่ครอง แต่จะรู้สึกมีอิสระในการเป็นตัวของตัวเองเมื่ออยู่กับชู้รัก และการได้ปลดปล่อยตัวตนที่เก็บซ่อนไว้ก็เป็นเรื่องที่รู้สึกดีเสียด้วย
14.คนที่นอกใจใฝ่หาความรู้สึกสดใหม่
คนประเภทนี้ต้องการความรู้สึกสดใหม่ในชีวิตที่หาไม่ได้จากที่บ้าน
15.คนที่นอกใจต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง
คนประเภทนี้เหนื่อยกับการทำตัวเป็นคนดีตลอดเวลา จึงอยากทำเรื่องไม่ดีเพื่อปลดปล่อยตัวเองบ้าง ซึ่งก็เป็นข้ออ้างที่คนประเภทนี้มักเอามาใช้
16.คนที่นอกใจชอบมีความลับ
การมีความลับนั้นเย้ายวนใจและให้ความรู้สึกว่าเป็นฝ่ายมีอำนาจเหนือกว่าในความสัมพันธ์ คนประเภทนี้อาจจะชอบมีความลับตั้งแต่เด็กจนกลายเป็นนิสัย
17.คนที่นอกใจเป็นพวกไม่ยอมโต
ไม่ว่าจะความรู้สึกว่าอยากเป็นเด็กตลอดไป หรือความไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตของตัวเองแบบผู้ใหญ่ก็ทำให้คนประเภทนี้เลือกที่จะหนีความจริง ทุกความสัมพันธ์ล้วนมีอุปสรรคแต่คนประเภทนี้จะตัดสินใจหนีมากกว่าเผชิญหน้ากับปัญหา
แต่ไม่ว่าคู่ของคุณจะนอกใจคุณเพราะสาเหตุใด การเข้าใจที่มาที่ไปของเขาก็ไม่ใช่เพื่อจุดมุ่งหมายให้คุณ “ยอม” อยู่ตกอยู่ในสถานการณ์อิหลักอิเหลื่อแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่มันควรจะเป็นความเข้าใจที่อยู่บนพื้นฐานว่าคุณจะหาทางออกให้กับปัญหาการนอกใจนี้ในทิศทางใด
ให้เวลาเขาปรับเปลี่ยนพฤติกรรรม หรือเดินจากมา