ชุดแต่งงานดีไซน์เก๋ แบบ 1 ชุด 2 สไตล์ ให้เจ้าสาวสวยได้ไม่ซ้ำ

ชุดแต่งงานดีไซน์เก๋ แบบ 1 ชุด 2 สไตล์ ให้เจ้าสาวสวยได้ไม่ซ้ำ

สำหรับว่าที่เจ้าสาวที่กำลังมองหา ชุดแต่งงานดีไซน์เก๋ สวมใส่ง่าย และสามารประยุกต์ใช้ได้ 2 แบบใน 1 ชุด ซึ่งเหมาะกับเจ้าสาวที่มีงบจำกัด แต่อยากเปลี่ยนลุคในวันสำคัญให้ดูแตกต่างในแต่ละช่วงพิธี ก็แหม แต่งงานแค่ครั้งเดียวก็อยากจะเก็บแต้มความสวยให้หมดจริงไหมคะ แพรว wedding เลยมีเทคนิคดีๆ มาแนะนำ ก่อนที่เจ้าสาวจะเดินเข้าร้านชุดแล้วสั่งตัดตามแบบที่ต้องการ

ชุดแต่งงานดีไซน์เก๋

ชุดสไตล์ 2 in 1 เหมาะกับเจ้าสาวที่มีเวลาเปลี่ยนชุดน้อย เช่น หมั้นเช้าแล้วต่อด้วยกินเลี้ยงตอนเที่ยง ซึ่งบางคนอาจมีเวลาแค่ 5-10 นาทีเท่านั้น หรือพิธีฉลองตอนเย็นแล้วต่อด้วยอาฟเตอร์ปาร์ตี้ที่มีเวลาให้มันได้เต็มที่แค่ 1-2 ชั่วโมง (เพราะอย่าลืมว่า สถานที่จำกัดเวลาในการใช้พื้นที่นะจ๊ะ) เจ้าสาวบางคนจึงอยากร่นระยะเวลาการแต่งตัวเพื่อมาสนุกกับเพื่อนๆ ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นชุดที่ดีไซน์มาให้สวมใส่ง่าย หรือชุดที่ออกแบบให้มีแค่การสวมเพิ่มหรือถอดบางชิ้นออกเพื่อเปลี่ยนเป็นอีกลุคได้ในเวลาอันรวดเร็วจึงตอบโจทย์สำหรับเจ้าสาวมากที่สุด

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเจ้าสาวก็อาจจะต้องทำความเข้าใจและยอมรับอย่างหนึ่งว่า ชุดสไตล์นี้อาจไม่สามารถตอบโจทย์ในสิ่งที่เจ้าสาวต้องการได้ทั้งหมด เพราะหากเป็นชุดแบบสั่งตัดใหม่ ดีไซน์เนอร์จะต้องดีไซน์ให้อยู่บนพื้นฐานที่ว่า ต้องเปลี่ยนง่าย ถอดสะดวก และต้องรวดเร็ว!!

เพราะฉะนั้นก่อนที่ดีไซเนอร์หรือเจ้าสาวจะออกแบบชุดแต่งงานแบบ 2 in 1 ได้นั้น จะต้องทราบถึงลักษณะการใช้งานก่อนเป็นอันดับแรก เช่น เจ้าสาวจะสวมในพิธีหมั้นก่อนแล้วจึงเปลี่ยนในช่วงกินเลี้ยงตอนกลางวัน หรือสวมในงานฉลองตอนเย็นแล้วต่อด้วยอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เพราะถ้าหากเป็นชุดที่สวมในพิธีหมั้นก่อนก็อาจจะต้องดูให้มีความเรียบร้อยสักนิด แต่อาจจะต้องมีดีเทลให้มากสักหน่อย ส่วนช่วงกินเลี้ยงอาจเปลี่ยนสไตล์ให้ดูหรูขึ้น เช่น ชุดตอนหมั้นอาจจะดีไซน์ให้มีเสื้อคลุมเพื่อความเรียบร้อย จากนั้นจึงค่อยถอดเสื้อคลุมออกในช่วงกินเลี้ยง เป็นต้น

หรือถ้าหากเป็นงานตอนเย็นก็อาจจะเน้นให้มีไอเท็มขนาดใหญ่เพื่อให้ชุดและเจ้าสาวดูมีความโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็น กระโปรงพองฟูหรืออาจประดับโบไว้ที่ด้านหลังเพื่อที่ตอนเจ้าสาวเดินเข้างานหรืออยู่บนเวทีจะได้โดดเด่นจากระยะไกล เพราะหากมีรายละเอียดที่เล็กเกินไปลุคของเจ้าสาวอาจจะดรอปได้เมื่ออยู่บนเวที จากนั้นเมื่อเข้าสู่ช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เจ้าสาวก็อาจจะถอดกระโปรงด้านนอกออกให้เหลือแต่ชุดมินิเดรสเกาะอกเพื่อการแดนซ์ได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น

ซึ่งสิ่งสำคัญทั้งหมดของชุดสไตล์ 2 in 1 คือต้องดูให้เหมาะกับกาลเทศะของแต่ละพิธี และต้องออกแบบให้เข้ากับบุลลิกและหุ่นของเจ้าสาวด้วย สุดท้ายจึงจะบวกความชอบหรือความต้องการของเจ้าสาวเข้าไปในชุด แต่ก็ต้องดูถึงความเหมาะสมของลุคโดยรวมด้วย

นอกจากนี้การออกแบบยังต้องคำนึงถึงความง่ายและความสะดวกในการสวมใส่ เพราะฉะนั้นการกำหนดจุดให้เสื้อผ้าสองชิ้นมาประกบกันจึงสำคัญมาก เช่น ถ้าเป็นผ้าคาดไหล่หรือเข็มขัดอาจจะต้องเลือกติดเป็นกระดุมแป๊กพลาสติก ซึ่งนอกจากจะง่ายต่อการสวมใส่หรือถอดออกแล้ว ยังช่วยล็อคไม่ให้ผ้าหรือเข็มขัดเลื่อนไปมาจนทำให้เจ้าสาวเกิดความกังวลได้อีกด้วย สุดท้ายในวันฟิตติ้งชุดครั้งสุดท้าย เราแนะนำให้เจ้าสาวหนีบเพื่อนเจ้าสาวที่จะช่วยคุณเปลี่ยนชุดในวันแต่งงานมาด้วยนะคะ จะได้มาซ้อมกันก่อนว่าต้องติดตรงไหนเข้า และต้องถอดส่วนไหนออก เพื่อที่วันจริงทุกอย่างจะได้ผ่านไปได้ด้วยดีไม่มีสะดุด

Read More : 10 ชุดแต่งงานเก๋ๆ ที่ว่าที่เจ้าสาวจะแต่งในปีนี้ไม่ควรพลาด!!

ภาพ Pinterest

Recommended