ช่างภาพงานแต่งงาน ส่งงานช้า ทำอย่างไรดี? มารู้วิธีรับมือและแก้ไขกันดีกว่า บ่าวสาวหลายๆ คู่ อาจจะกังวลเรื่องการส่งงานของเหล่า ช่างภาพงานแต่ง ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายพรีเวดดิ้งหรือแม้กระทั่งภาพถ่ายในวันแต่งงานจริงๆ ว่าจะส่งงานล่าช้าไหมนะ ซึ่งหลายคู่มักจะเกิดอาการกังวลใจไว้ก่อน ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะ เพราะในปัจจุบันมีกระทู้ร้องเรียนช่างภาพที่ส่งงานช้าอยู่มากมาย เลยทำให้ว่าที่หลายคู่เกิดอาการเครียดไปตามๆ กันว่าคู่เราจะโดนอย่างนี้ไหมนะ ดังนั้นมารู้วิธีรับมือและแก้ไขกันไว้ก่อนดีกว่าค่ะ
1. หาช่างภาพมืออาชีพ
ช่างภาพมืออาชีพในที่นี้ ไม่ใช่แค่มีผลงานภาพถ่ายที่ดีนะคะ แต่หมายถึงความเป็นมืออาชีพในการทำงานค่ะ คือการถ่ายภาพสวย จัดการเวลาได้ และพร้อมรับผิดชอบในการทำงานค่ะ ซึ่งเราจะหาได้อย่างไรนั้น ไม่ยากเลย ก็อาจจะต้องอาศัยการอ่านรีวิวตามเว็บไซต์ ตามแฟนเพจ หรือคนที่แนะนำต่อๆ กันมาค่ะ ซึ่งก่อนที่บ่าวสาวจะจ้างช่างภาพนั้น อาจจะลองเช็คดูก่อนว่า ช่างภาพคนนี้มีความเป็นมืออาชีพหรือไม่ เพื่อเป็นการป้องกันที่ต้นเหตุ ก่อนที่จะมีปัญหาการส่งงานล่าช้าตามมานะคะ
2. ทดลองจากประสบการณ์จริง
ถ้าเราจ้างช่างภาพคนนี้ทั้งวันถ่ายพรีเวดดิ้ง และวันแต่งงานจริงแล้วล่ะก็ ลองสังเกตก่อนว่า เขารับผิดชอบงานของเราไหม ส่งงานภาพถ่ายพรีเวดดิ้งตรงตามกำหนดเวลาหรือเปล่า ถ้าไม่ ก็ลองพิจารณาใหม่นะจ๊ะ ว่าวันแต่งจริงยังจะใช้บริการอยู่หรือเปล่า
3. ภาพสวย ไม่ใช่ทุกคำตอบ
อย่าเพิ่งตัดสินใจจากการดูภาพผลงานอย่างเดียวนะคะ เพราะภาพสวย หรือมีงานเยอะ แต่ถ้าช่างภาพบริหารจัดการเวลาการในการส่งงานไม่ดี แน่นอนว่าบ่าวสาวก็จะได้ภาพล่าช้าแน่นอน ยิ่งถ้าหากช่างภาพคนนั้นมีงานเยอะมาก แทนที่เขาจะได้ใช้เวลาในการทำภาพให้บ่าวสาวได้อย่างเต็มที่ ก็อาจจะต้องแบ่งเวลาไปรับงานถ่ายภาพให้คู่อื่นด้วย เพราะฉะนั้นทางแก้ไขปัญหาของข้อนี้ก็จะคล้ายกับข้อที่ 1 คืออ่านรีวิวเยอะๆ นะคะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากบ่าวสาวเลือกดีๆ ก็จะได้ช่างภาพที่ทั้งถ่ายภาพสวย แถมงานเยอะการันตีความป๊อปปูลาร์ และส่งงานตรงเวลาฉับไวแน่นอน
4. ตกลงเวลาในการส่งงานที่แน่นอน
ก่อนจะทำสัญญาจ้าง ให้บ่าวสาวถามช่างภาพไปตรงๆ เลยค่ะ ว่าจะได้ภาพเมื่อไหร่ หรือไม่ก็บอกไปเลยว่า อยากได้ภาพในช่วงเวลานี้จะทันไหม แต่ก็ไม่ใช่ว่าถ่ายเสร็จแล้วขอภาพที่โพรเซสเสร็จทุกรูปภายใน 1 วันนะคะ เพราะอันนี้ช่างภาพน่าจะเสกให้ไม่ทันแน่นอน เพราะฉะนั้นลองเผื่อเวลาให้ช่างภาพได้จัดการแต่งรูปภาพของคุณให้สวยงามสักหน่อย โดยอาจจะเป็น 2 อาทิตย์หรือ 1 เดือน ก็ลองคุยกันตรงๆ ตกลงให้เข้าใจไปเลยค่ะ เพราะถ้าเราไม่บอกเขาไปว่าอยากได้ภาพช่วงไหน ก็เท่ากับไม่มีเดทไลน์ที่ตายตัวให้กับช่างภาพนั่นเอง หรือทางที่ดีก็ระบุไปในสัญญาเลยก็ได้นะคะ ว่าช่างภาพจะต้องส่งงานภายในระยะเวลาเท่าไหร่ เพื่อเป็นการการันตีว่าบ่าวสาวจะได้ภาพตามวันที่ต้องการแน่นอน
5. คุยเรื่องแบ่งจ่ายเป็นงวด
อันนี้ต้องคุยกันให้เข้าใจนะคะ เพราะขึ้นอยู่กับการตกลงของช่างภาพแต่ละคน ซึ่งถ้าเป็นมืออาชีพจริงๆ อาจจะไม่สามารถขอแบ่งจ่ายเป็นงวดได้ค่ะ เนื่องจากงานเขาการันตีความมีคุณภาพและระยะเวลาในการส่งงานอยู่แล้ว แต่ถ้ายังไม่แน่ใจลองคุยกับช่างภาพดูก็ได้ว่า จะสามารถขอแบ่งจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งงวดแรกอาจจะจ่ายในวันที่ถ่าย ส่วนอีกงวดอาจจะจ่ายหลังจากช่างภาพส่งภาพมาให้แล้ว ซึ่งถ้ากลัวว่าจะมีปัญหาบ่าวสาวก็สามารถทำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรได้นะคะ แถมน่าจะเป็นวิธีที่แฟร์ด้วยกันทั้งคู่อีกด้วย
เพราะฉะนั้นบ่าวสาวลองศึกษากันให้ดีนะคะ ซึ่งสิ่งที่เราอยากเน้นย้ำก็คือ บ่าวสาวจะต้องทำการบ้านและอ่านรีวิวเยอะๆ แต่โดยส่วนมากแล้วช่างภาพที่เป็นมืออาชีพจริงๆ จะส่งงานไวและตรงตามกำหนดเวลา แต่ก็นั่นแหละค่ะ คุณภาพก็อาจจะตามมาด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง แต่บ่าวสาวก็อาจจะเบาใจในเรื่องของความเสี่ยงที่จะได้ภาพล่าช้าไปได้ เพราะฉะนั้นก่อนตกลงจ้างใครมาเป็นช่างภาพก็ควรคุยกันให้เข้าใจ และกำหนดเวลาให้ชัดเจนไปเลยเนอะ จะได้ไม่เกิดปัญหามาตั้งกระทู้ร้องเรียนช่างภาพกัน เพราะงานสำคัญทั้งทีบ่าวสาวก็อยากได้ภาพมาอวดพ่อแม่ อวดเพื่อนๆ ได้ไวๆ เพราะยิ่งนานไปความตื่นเต้นยิ่งลดน้อยลงใช่ไหมล่ะจ๊ะ
ส่วนบ่าวสาวที่อยากได้คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่างภาพงานแต่งงาน ก็สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มได้เลยกับ 3 ข้อแนะนำ จาก 3 ช่างภาพเวดดิ้งมือโปร รวมสิ่งที่ควรรู้ก่อนจ้างช่างภาพงานแต่ง เพราะงานนี้ได้ช่างภาพมือโปรเขามาแนะนำเองเลยนะ
ภาพจาก : Pinterest.com