ลอสแอนเจลิส … เมืองที่คนไทยต่างคุ้นหู เพราะเป็นเมืองยอดฮิตติดอันดับต้นๆ ที่คู่รักหลายคู่ต่างเทใจมาเปิดตา เปิดใจและรับประสบการณ์สวีทหวาน ท่ามกลางแสงสีของแหล่งบันเทิง เป็นนครแห่งมายาที่แอบแฝงเอาไว้ด้วยความโรแมนติกแบบต่างๆ กันไปตามภูมิประเทศที่หลากหลาย ทั้งภูเขา ทะเล สำหรับคู่ไหนที่ชอบบรรยากาศหลากอารมณ์ในที่เดียว แพรว wedding ว่าที่นี่แหละคือคำตอบ
การเดินทางจากกรุงเทพฯ ต้องบินมาลงที่สนามบินนานาชาติลอสแองเจลิส (LAX) รวมเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่บนฟ้าก็เกือบๆ 17 ชั่วโมงเลย นับเป็นการเดินทางที่ยาวนานทีเดียว แต่จุดหมายปลายทางที่รออยู่ข้างหน้า…
ควงแขนตามรอยดารา ฮอลลีวู้ด
Hollywood Walk of Fame คือสถานที่ๆ อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายแห่งความเป็นดาว ลองหลับตาแล้วจินตนาการดูสิว่าท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนั้นสวยงามขนาดไหน เฉกเช่นเดียวกับถนนสายนี้ ที่พื้นถนนต่างก็เต็มไปด้วยดวงดาวสีทองกว่า 5 พันดวง กระจายตัวเปล่งประกายยั่วสายตาไปตามพื้นถนนกว่า 15บล็อก และอีก 3 บล็อกของถนน Vine ให้จูงมือกันเดินนับดาวเพลินๆ ท่ามกลางบรรยากาศโลกมายาแห่งฮอลลีวู้ด
จุดเริ่มต้นซึ่งเรียกได้ว่าเป็นประตูเปิดไปสู่ Hollywood Walk of Fame นั้น อยู่ตรงสี่แยกถนน Hollywood Blvd ตัดกับถนน La Brea Ave ความพิเศษของบริเวณนี้จะมีดาวที่จารึกชื่อของ Hollywood Walk of Fame อยู่ด้วย พร้อมกับแผ่นดวงดาวของนักร้องชื่อดังในตำนาน ใครเป็นติ่ง ใครเป็นเอฟซีของใคร ตามหากันให้เจอ
และหากคู่ไหนเดินไหวและยังมีเวลาเหลือ ขอแนะนำให้เดินไปจนสุดถนนจะมีโครงสร้างเหล็กสีเงินในสไตล์ อาร์ต เดโค ที่เรียกกันว่า Hollywood and La Brea Gateway หรือรู้จักในนาม Four Ladies ตั้งเด่นสะดุดตาอยู่ตรงเกาะกลางรูปทรงถนนสามเหลี่ยมเล็กๆ โดยเสาทั้งสี่ต้นนั้นจะมีรูปปั้นของหญิงสาวประดับอยู่ ฝีมือการปั้นของ ฮาร์ล เวสต์ ที่นี่เองเป็นที่อยู่ของดาวที่เป็นอมตะอย่างวง The Beatles และเอลวิส เพรสลีย์ ราชาเพลงร๊อคแอนด์โรล ให้ได้เช็คอินบันทึกความทรงจำเอาไว้อวดกันตามชอบ
คู่รักนักเดินเขา ชมวิวแสนโรแมนซ์ บนจุดสูงสุดแห่ง Griffith Park
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่นักเดินทางผู้หลงใหลความท้าทายในแอลเอมักจะชอบทำกันยามเย็น ต้องยกให้การเดินเขาหรือ hiking ใครสนใจอยากทำตัวเนียนในแบบวิถีชาว ฮอลลีวู้ด ให้ลองมาเดินออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายกันเบาๆ พร้อมกับสูดกลิ่นอายธรรมชาติเข้าไปให้เต็มปอดกันที่สวนสาธารณะ Griffith Park อยู่บนยอดเขา Mount Hollywood สวนแห่งนี้มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 10 ของประเทศเลยทีเดียวและกินพื้นที่กว่า 4,310 เอเคอร์
สำหรับเส้นทางยอดฮิตที่น่ามาเดินทอดน่องให้สายลมโลมไล้กายเป็นอย่างมาก ต้องที่บริเวณตรงข้ามหอชมดาว Griffith Observatory เลย จุดนี้เป็นเส้นทางในการเดินที่ชิลมาก เพราะนอกจากจะไม่สูงชันจนน่ากลัวแล้ว ยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยจนต้องแปลกใจ หากเดินมาเรื่อยๆ ตามทาง ทันทีที่พ้นทิวเขาแรก คุณจะสะดุดตากับป้าย Hollywood ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ไม่ไกล สร้างความประหลาดใจได้ไม่น้อย หากใครอยากจะได้ฟีลโรแมนติกขึ้นอีกนิด ขอแนะนำให้เลือกมาเดินในช่วงใกล้พระอาทิตย์ตกดิน เพราะจะทำให้ได้ฉากของท้องฟ้าสวยๆ ที่อาบไปด้วยสีทองปนแดงระเรื่อหลังป้าย Hollywood รวมทั้งมีสายลมเย็นพัดผ่านมาเอื่อยๆ บอกได้เลยว่าเป็นภาพที่สวยงามจับตาเอามากๆ เหมาะสำหรับการเดินเกี่ยวก้อยกับคนรู้ใจเป็นทีสุด
หลังจากชื่นชมไปกับความงามของธรรมชาติและแลนด์มาร์กตัวท็อปของเมืองกันไปแล้ว มาถึงสวน Griffith ทั้งทีคู่รักที่ชื่นชอบเรื่องราวของดาราศาสตร์ อย่าพลาดเข้าไปชม Griffith Observatory หอดูดาวแห่งนี้ โดดเด่นด้วยโครงสร้างที่เป็นการผสมผสานกันระหว่าง Art Deco, Modern, Greek Revival และ Beaux Arts ถ้าใครเป็นคอหนังฮอลลีวู้ด อาจจะเคยเห็นหอดูดาวแห่งนี้ผ่านตามาบ้างในหนังบางเรื่องเช่น Terminator Genisys หรือ Transformers ภายในจะมีห้องจัดนิทรรศการเล็กๆ ตั้งเรียงรายจนสุดทางเดิน สำหรับไฮไลท์อยู่ที่ชั้นใต้ดินซึ่งเป็นส่วนต่อเติมขึ้นมาใหม่จากตึกเดิม มีทั้งหมดสองชั้นด้วยกัน โดยจะมีนิทรรศการที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และอวกาศให้ได้เรียนรู้ หรือจะควงแขนหวานใจไปชมดาวในท้องฟ้าจำลองก็แอบโรแมนติกไม่น้อย
หากมีเวลาอยู่ถึงเกือบพลบค่ำ แนะนำให้เดินวนออกมาทางด้านหลังตัวอาคาร ตรงนี้คุณจะได้สัมผัสกับความเงียบสงบและวิวเมืองจากมุมสูงสวยๆ แบบ 360 องศา และหากอยู่จนค่ำ คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับวิวแสงไฟวิบวับในเมืองผสมกับดวงดาวบนฟ้า สวยงามจนแทบแยกไม่ออก อันไหนดาวจริง อันไหนดาวประดิษฐ์ งดงามราวกับสวรรค์บนดิน รับรองหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
คู่ไหนชอบหาดทราย สายลม แต่ไม่ได้มีแค่สองเรา ต้องหาด Santa Monica
คู่ไหนรักทะเลแต่ไม่ชอบความเงียบเหงา ต้องที่นี่เลยกับบรรยากาศท้องทะเลสีฟ้าครามที่ชายหาด ซานตา โมนิก้า ที่นี่ไม่เพียงแต่จะมีหาดทรายทอดตัวยาวเอาใจคู่รักชอบแดด ให้ได้นอนอาบแดด อ่านหนังสือ พักผ่อนกันชิลๆ หรือมีเกลียวคลื่นเอาใจเหล่านักโต้คลื่นให้ได้โลดแล่นไปบนผิวน้ำกันอย่างจุใจแล้ว ยังมีสวนสนุกสุดชิคตั้งอยู่ริมหาดอีกด้วย หาดแห่งนี้ สามารถมาเที่ยวได้ทุกเวลาตั้งแต่เช้าจรดเย็น
แต่ถ้าต้องการบรรยากาศสบายๆ แฝงไว้ด้วยความโรแมนติกสักหน่อย ต้องมาในช่วงเย็นไปจนถึงพลบค่ำ เพราะคุณจะได้ชมบรรยากาศของซันเซ็ตกันสดๆ เต็มตา และเพลิดเพลินไปกับสีสันของแสงไฟดวงเล็กดวงน้อยบริเวณท่าเรือ Santa Monica Pier อันเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Pacific Park ที่มีจุดเด่นอยู่ที่รางรถไฟเหาะและชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ที่มองเห็นกันแต่ไกล กลายเป็นแลนด์มาร์กอันขึ้นชื่อของหาดที่หลายคนมักเห็นกันตามโปสการ์ด ได้บรรยากาศแบบงานวัดฝรั่ง ดูเก๋น่าเดินไปอีกแบบ ภายในบริเวณท่าเรือยังถูกแปลงให้เป็นถนนคนเดินย่อมๆ ที่อัดแน่นไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้าสตรีทช้อปเล็กๆ รวมไปถึงเหล่าศิลปินเปิดหมวกที่ชวนกันมาอวดความสามารถเพื่อเรียกความสนใจแลกกับทิปเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ถนนเส้นนี้ไม่เคยเงียบ
สำหรับคู่รักนักช้อป ไม่ไกลจากชายหาดนัก จะมีย่านช้อปปิ้งที่ชื่อ Third Street Promenade ถนนคนเดินสุดชิคแห่งนี้เป็นแหล่งรวมร้านค้าแบรนด์ดังลดราคา หรือจะมาเก็บเกี่ยวบรรยากาศคาเฟ่ ให้แฮงค์เอ้าท์ยาวตลอดถนนละลายทรัพย์สายนี้ได้ทั้งคืน
เรียกได้ว่าเมืองนี้เมืองเดียว จัดเต็มให้คู่สวีทได้ครบทุกรส สมกับเป็นเมืองแห่งโลกมายาใครที่อยากมาลองต้องมนต์ เห็นทีต้องจูงมือหวานใจบินลัดฟ้ามาพิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง เท่านั้น!!
How to go
ปัจจุบันยังไม่มีสายการบินที่บินตรงจากรุงเทพฯไปลอสแองเจลิส ส่วนใหญ่ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องตามประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ฯลฯ สำหรับการเดินทางโดยเฉลี่ยแล้วใช้เวลาประมาณ 16 ชม. 15 นาที
ค่าเดินทาง
ส่วน การขนส่งสาธารณะนั้นนับว่าสะดวก สำหรับนักท่องเที่ยว มีทั้งรถประจำทางที่ไม่แออัด โดยแต่ละเส้นทางผ่านแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังทุกที่ หรือจะใช้บริการบัสทัวร์รอบเมืองก็สะดวกดี ส่วนใครคิดเช่ารถขับก็สะดวก โดยราคาค่าเช่ารถเก๋งรวมประกัน เริ่มต้นที่ 50 USD ต่อวัน
ส่วนค่าเดินทางด้วยแท๊กซี่คิดตามระยะทาง
– TAXI จากสนามบินมาลง ย่าน Hollywood Walk of Fame ราคา 50-65 USD
– TAXI จาก Hollywood Walk of Fame ไป Griffith Park ราคา 20-24USD
– TAXI จาก Hollywood Walk of Fame ไป หาดซานตา โมนิก้า ราคา 60-75 USD
เรื่องและภาพ : Hoo Backpack