ภาพถ่ายพรีเวดดิ้ง ถือเป็นสิ่งที่อยู่ในเช็กลิสต์อันดับต้นๆ ของว่าที่บ่าวสาวเลยก็ว่าได้ แถมตอนนี้เทรนด์การถ่าย ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งสไตล์ Portrait ที่เซตถ่ายในสตูดิโอก็กำลังได้รับความนิยมในหมู่บ่าวสาวมากๆ เพราะทั้งสะดวกสบาย ไม่ต้องตามหาโลเคชั่นถ่ายภาพให้เหนื่อย ไม่ต้องตากแดดตากลมให้หน้ามันผมเผ้ายุ่งเหยิง บ่าวสาวก็ได้ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งคิ้วท์ๆ ไปโชว์หน้างาน แต่ถึงอย่างนั้นสำหรับบ่าวสาวบางคนก็อาจยังมีข้อจำกัดที่ว่า “ถ่ายในสตูมันจะดูเป็นทางการไปหรือเปล่านะ” หรือ “นี่เราต้องยืนยิ้มให้กล้องอย่างเดียวเลยหรือเปล่า แล้วมันจะดูฝืนๆ ไหม” เพื่อให้บ่าวสาวสบายใจ แพรวเวดดิ้ง เลยต่อสายตรงถึงคุณเต้ย หรือ toeyportfolio ช่างภาพพรีเวดดิ้งชื่อดังว่าเขามีเทคนิคในการถ่ายภาพบ่าวสาวยังไงให้ออกมาดูเป็นธรรมชาติถึงขนาดที่ว่าคนเห็นยังต้องยิ้มตาม พร้อมอัพเดทแพลนปีหน้าของ toeyportfolio ที่เจ้าสาวต้องร้องว้าวแน่นอน
จากช่างภาพนิตยสารสู่ช่างภาพพรีเวดดิ้งในสตูดิโอเต็มตัว
ผมเริ่มถ่ายพรีเวดดิ้งอย่างจริงจังและเต็มตัวปีนี้น่าจะเข้าปีที่ 3 แล้วครับ ผมเริ่มต้นจากการเป็นช่างภาพในนิตยสารก่อน ส่วนใหญ่ภาพที่ถ่ายจะเป็นภาพพรอตเทรต ภาพแฟชั่น หรือภาพบุคคลประกอบบทสัมภาษณ์ ซึ่งตอนนั้นก็มีทั้งถ่ายในสตูดิโอและนอกสตูดิโอผสมกันไปแล้วแต่ลักษณะของงาน แต่จริงๆ แล้วผมถนัดการถ่ายในสตูดิโอมากกว่า ซึ่งตอนที่ทำงานอยู่ผมก็มี IG รับถ่ายภาพควบคู่ไปด้วย ส่วนมากจะเป็นงานแฟชั่นหรืองาน lookbook พอคนเริ่มเห็นผลงานภาพถ่ายในสตูดิโอของผม ก็เริ่มมีลูกค้าติดต่อมาว่ารับถ่ายพรีเวดดิ้งในสตูดิโอไหม
ตอนที่รับงานถ่ายพรีเวดดิ้งครั้งแรกก็ตื่นเต้นนะครับ แล้วก็อยากจะลองดูว่าตัวเองจะถ่ายออกมาเป็นยังไง เพราะผมคุ้นชินกับการจัดไฟถ่ายภาพในสตูดิโออยู่แล้วเลยไม่ได้กังวลอะไรมาก ซึ่งผลงานถ่ายภาพพรีเวดดิ้งคู่แรกก็ออกมาโอเค ลูกค้าชอบ ผมเองก็รู้สึกสนุกด้วย ไม่ได้รู้สึกกดดันเหมือนการถ่ายแฟชั่นในนิตยสาร อาจเป็นเพราะว่าผมได้เป็นตัวของตัวเอง บรรยากาศการถ่ายภาพเลยสบายๆ ทั้งผมและลูกค้ามีความสุขและสนุกทั้งสองฝ่าย พอเริ่มมีผลงานภาพพรีเวดดิ้งเรื่อยๆ ก็มีบ่าวสาวติดต่อเข้ามาเยอะขึ้น พอผมเริ่มสนุกและจับจุดการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งของตัวเองได้ ก็เลยลาออกจากงานประจำเพื่อมาเป็นช่างภาพถ่ายในสตูดิโออย่างเต็มตัวครับ
จุดเด่นภาพถ่ายพรีเวดดิ้งของ toeyportfolio
น่าจะเป็นภาพถ่ายที่ดูเป็นธรรมชาติออกแนวน่ารักๆ มองแล้วยิ้มตามครับ เป็นสไตล์ที่บ่าวสาวหัวเราะจริงๆ ยิ้มจริงๆ แบบที่เป็นตัวเขา ซึ่งลูกค้าส่วนมากที่ติดต่อเข้ามาก็อยากจะได้อารมณ์ภาพแสงสีแบบในเพจหรืออินสตาแกรม ซึ่งในการทำงานผมจะรักษามาตรฐานของตัวเองอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นลูกค้าทุกคู่จะได้ตามสิ่งที่เขาต้องการ เลยทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อใจและไว้ใจในตัวผม
เทคนิคได้ภาพบ่าวสาวที่เป็นธรรมชาติในสไตล์ของ toeyportfolio
เวลาถ่ายรูปผมไม่ได้มีหลักการอะไรเยอะแยะ ไม่ได้ซีเรียสว่าต้องทำท่าอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะฉะนั้นตอนทำงานผมจะพยายามทำให้ลูกค้าผ่อนคลายมากที่สุด โดยผมจะเริ่มถ่ายจากชุดธรรมดาก่อนเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลาย เพราะคู่ที่ไม่เคยถ่ายรูปมาก่อนถ้าเริ่มถ่ายจากชุดเจ้าสาวหรือชุดสูทเลยเขาอาจรู้สึกเกร็งๆ และขณะที่ถ่ายผมก็จะชวนคุย พูดเล่นไปด้วยเพื่อสร้างบรรยากาศให้เป็นกันเอง สบายๆ พร้อมๆ กับสแนปภาพบ่าวสาวไปเรื่อยๆ จนเขาเริ่มรีแล็กซ์และสามารถยิ้มหัวเราะออกมาได้เองโดยเป็นธรรมชาติที่สุด
ส่วนคู่ที่มีความกังวลว่าหน้าฝั่งไหนจะสวยกว่ากัน กังวลเรื่องตา เรื่องปาก เรื่องแขน กลัวว่าจะยิ้มไม่ได้ ทำแบบนี้แล้วไม่สวยไม่หล่อ พอถ่ายไปได้สักพักผมจะให้เขามาดูภาพตัวเองที่ถ่ายไปแล้ว พร้อมพูดคุยและให้คำแนะนำว่าเขายิ้มแบบนี้จะดีกว่า เพราะบางคนแค่อมยิ้มก็สวยแล้ว ซึ่งพอเราให้คำแนะนำ พูดคุยกับเขาอย่างเปิดใจ แก้ปัญหาที่เขากังวลได้ เขาก็จะเริ่มไว้ใจกล้าที่จะยิ้มและหัวเราะออกมามากขึ้น ซึ่งพอเราลดความกังวลได้ รอยยิ้มของเขาก็ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วย
โพสท่าไม่เป็น มีเรฟเฟอเรนซ์มาให้ ได้หรือไม่?
บ่าวสาวที่มาถ่ายรูปกับผมไม่ต้องคิดอะไรมาเลยครับ แค่ทำใจให้สบาย เพราะแค่คุณรู้สึกผ่อนคลายท่าทางที่เป็นธรรมชาติก็จะออกมาเอง หรือบ่าวสาวที่เตรียมเรฟเฟอเรนซ์มา ผมก็จะแจ้งตั้งแต่แรกว่าอาจจะทำให้ได้แค่ท่าทาง แต่อารมณ์ต้องเป็นตัวเขาเองดีที่สุด เพราะถ้าเราพยายามที่จะทำเหมือนคนอื่นมากเกินไปมันก็จะดูไม่เป็นตัวเอง ถ่ายยังไงก็ดูแข็ง เพราะมัวแต่กังวลว่าจะทำไม่เหมือนเรฟเฟอเรนซ์ที่เตรียมมา แต่ลูกค้าที่เข้ามาส่วนมากก็จะมาด้วยความไว้ใจในตัวผม จะแล้วแต่ผมเลย เขาแค่อยากให้รูปออกมาดูเป็นธรรมชาติแบบยิ้มจริงๆ หัวเราะจริงๆ ซึ่งจากประสบการณ์ที่ได้ถ่ายภาพคู่รักมาหลายๆ คู่ทำให้ผมทราบแล้วว่าจะต้องจัดการกับอารมณ์ของแต่ละคู่ยังไง
รูปแบบการให้บริการและการทำงานของ toeyportfolio
ลูกค้าที่จะมาถ่ายภาพกับผมแค่เตรียมชุดที่จะถ่ายมาทั้งหมด 3 ชุด โดยผมจะช่วยดูให้ว่าชุดแบบนี้เหมาะกับแสงแบบไหน ส่วนใหญ่ผมจะแนะนำให้เลือกชุดเป็นโทนสีอ่อนเพราะเป็นสีที่คลาสสิค ไม่เชย ดูได้ไม่เบื่อ ส่วนพร็อพส์ลูกค้าต้องเตรียมมาเอง แต่อาจจะขอยกเว้น รถยนต์ หรือพร็อพส์ที่ชิ้นใหญ่มากๆ ส่วนระยะเวลาในการถ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 5 ชั่วโมงรวมเวลาแต่งหน้า-ทำผม และที่อยากจะฝากอีกอย่างหนึ่งคือไม่อยากให้ลูกค้าฉีดอะไรมาบนใบหน้าก่อนที่จะมาถ่ายภาพ เพราะจะทำให้ยิ้มดูไม่เป็นธรรมชาติครับ
แผนการในอนาคตของ Toeyportfolio ในปี 2020
ภายในปีหน้า toeyportfolio จะมีบริการเรื่องชุดสำหรับเจ้าสาวให้เลือกที่สตูดิโอเลยครับ โดยจะเน้นรูปแบบชุดแต่งงานในสไตล์มินิมอล น่ารักๆ ซึ่งจะเข้ากับสไตล์ภาพถ่ายของผมด้วย ซึ่งบริการนี้ก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับว่าที่เจ้าสาวไม่ต้องเสียเวลาไปหาชุดเอง ไปรับ-คืนชุดเองจากร้านเช่าเพื่อเอามาถ่ายกับผม รวมไปถึงในปีหน้า toeyportfolio จะปรับโฉมสตูดิโอถ่ายภาพใหม่ที่กว้างขวางมากกว่าเดิมด้วยครับ
จองคิวถ่ายกับ toeyportfolio
หากสรุปวันแต่งงานได้แน่นอนแล้ว แนะนำให้รีบจองคิวไว้เลย เพราะผมจะไม่ให้มีการแทรกคิว แนะนำให้ LINE มาสอบถามคิวก่อนเพื่อที่จะได้หาวันและเวลาที่ลงตัวกันทั้งสองฝ่าย เพราะในหนึ่งเดือนผมจะไม่ได้รับถ่ายทุกวัน ส่วนใหญ่แล้วผมจะรับถ่ายภาพในวันเสาร์และอาทิตย์เป็นหลัก ส่วนวันธรรมดาผมจะใช้เวลานั่งทำรูปส่งให้ลูกค้าเป็นส่วนใหญ่ ส่วนระยะเวลาในการทำรูปของแต่ละคู่จะอยู่ที่ประมาณ 30 วันครับ
เอาเป็นว่าคู่รักที่สนใจอยากได้ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งแบบธรรมชาติตามสไตล์การลั่นชัตเตอร์ของคุณเต้ย toeyportfolio ก็รีบจองคิวกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ที่สำคัญปีหน้าเขายังมีบริการเรื่องชุดเจ้าสาว และสตูดิโอถ่ายภาพที่กว้างขวางมากกว่าเดิมด้วย ส่วนแพ็คเกจราคาก็สามารถสอบถามได้โดยตรงกับคุณเต้ย หรือเข้าไปดูได้ที่เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/Toeyportfolio หรือไอจี @toey_portfolio หรือที่ Official LINE : @toeyportfolio มี @ ด้านหน้าด้วย