สำหรับว่าที่เจ้าสาวบางคนชุดแต่งงานในพิธีเช้าอาจจะเลือกใส่เป็นชุดเดรสสไตล์ชุดแต่งงานเพราะด้วยพิธีการที่อาจจะไม่ได้ไทยจ๋ามากขนาดนั้น หรือบางคนไม่อินไม่มั่นกับลุคชุดไทยก็เลยต้องจัดชุดที่กลางๆ ไว้ก่อน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อยากจะใส่ชุดแต่งงานชายกระโปรงลากยาวในช่วงเช้าเพราะดูเป็นทางการซะเหลือเกิน แพรว wedding เลยมี 4 สไตล์ ชุดงานหมั้น แบบสั้นมาเสนอเป็นทางเลือกให้กับสาวๆ พร้อมเทคนิคการแมตช์ว่า “หุ่นแบบฉันหน่ะ สั้นแบบไหนถึงจะรอด”
ชุดสั้นสไตล์ Tea Length
ถ้าพูดกันตามตรง ชุดสั้นสไตล์นี้เป็นอีกหนึ่งชุดที่ว่าที่เจ้าสาวหลายคนชื่นชอบ และยังเป็นชุดที่ดูแตกต่างให้เจ้าสาวดูร่วมสมัยอยู่เสมอ ชุดสั้นสไตล์ Tea Length เหมาะกับเจ้าสาวที่มีความสูงปานกลางไปจนถึงเจ้าสาวตัวเล็ก ไม่เหมาะกับเจ้าสาวรูปร่างสูง ซึ่งชุดสไตล์ Tea Length นี้ก็สามารถใส่ดีเทลต่างๆ ได้หลากหลายแบบเพื่อให้ได้ลุคที่ดูเป็นเจ้าสาวสวยดูหรูหรา ไม่ว่าจะเป็นการใช้ผ้าลูกไม้ไปจนถึงกระโปรงทูทู่ฟูฟ่องดูน่ารัก
ข้อดีของชุดสไตล์ Tea Length คือความสะดวกสบายช่วยให้เจ้าสาวเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัว หากมีช่วงพิธีการที่ต้องลุกนั่งบ่อยๆ
ชุดสไตล์นี้เหมาะกับธีมงานวินเทจฟีลย้อนยุค งานแต่งงานที่เรียบง่ายไม่เป็นทางการมาก หรืองานแต่งงานขนาดเล็ก แม้กระทั้งงานแต่งในสวนที่ไม่ต้องลากกระโปรงยาวให้เสียหาย แถมถ้าเป็นบรรยากาศงานแบบเอ๊าท์ดอร์เจ้าสาวยังรู้สึกสบายไม่ร้อนในชุดสไตล์นี้อีกด้วย ที่สำคัญชุดสไตล์นี้ยังสามารถจับคู่กับทรงชุดแบบมีแขนหรือไม่มีแขนก็ได้อีกด้วย
ชุดสั้นสไตล์ Knee Length
ชุดสั้นเสมอเข่าเป็นสไตล์ชุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาชุดแต่งงานแบบสั้น และถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดหากคุณเป็นว่าที่เจ้าสาวที่กำลังมองหาชุดแต่งงานแบบสั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีข้อจำกัดตรงที่ว่า เจ้าสาวที่จะใส่ชุดแต่งงานสั้นเสมอเข่าแล้วสวย จะต้องเป็นเจ้าสาวที่สูงพอสมควรและที่สำคัญต้องมีเรียวขาที่เรียบเนียนเรียวงาม
ชุดสั้นเสมอเข่าให้ลุคที่ดูเซ็กซี่ แต่ขณะเดียวกันก็ดูเป็นทางการไม่โป๊จนเกินงาม เหมาะกับการสวมในพิธีแต่งงานเล็กๆ ไม่เป็นทางการ มีแขกไม่เยอะมาก
ซึ่งแตกต่างจากชุดสั้นแบบมินิสเกิร์ต เพราะชุดสั้นเสมอเข่ามีความสุภาพมากกว่าและเหมาะสำหรับใส่ในพิธีแต่งงานมากกว่า เจ้าสาวอาจสวมชุดนี้ในช่วงพิธีการแต่อาจจะเพิ่มดีเทลของเสื้อคลุมหรือชายกระโปรงที่สามารถถอดออกได้เพื่อให้มีความสุภาพและเป็นทางการมากขึ้น หรือเจ้าสาวบางคนอาจจะเลือกชุดแต่งงานสไตล์นี้เป็นชุดแต่งงานชุดที่สองสำหรับใส่ในช่วงรับรองแขกหลังจากจบพิธีการก็ได้เช่นกัน
ชุดแต่งงานแบบสั้น
หากเจ้าสาวเลือกที่จะใส่ชุดแต่งงานแบบสั้น ต้องแน่ใจก่อนว่าธีมงานต้องไม่เป็นทางการ โดยอาจเป็นงานที่จัดเลี้ยงในครอบครัวและเพื่อนฝูง หรือถ้าเจ้าสาวและครอบครัวที่ไม่ยึดติดในรูปแบบประเพณีก็สามารถใส่ชุดแต่งงานแบบสั้นในธีมงานเลี้ยงสุดหรูก็ได้เหมือนกัน
ซึ่งจริงๆ แล้วชุดแต่งงานแบบสั้นไม่ได้แปลว่าจะไม่สุภาพเสมอไป เพราะชุดสไตล์นี้สามารถใส่ดีเทลความหรูหราเพื่อให้ดูเป็นลุคเจ้าสาวมากขึ้นได้ เช่น การตกแต่งชุดด้วยลูกปัด คริสตัล ดีเทลการปักที่ละเอียดอ่อน เพื่อช่วยให้ชุดดูงดงามเป็นทางการดูเป็นชุดแต่งงานมากขึ้น หรือหากอยากได้รูปแบบชุดที่เป็นทางการก็อาจเลือกการตัดเย็บด้วยผ้าลูกไม้ในช่วงบนหรือทั้งชุดไปเลยก็ได้
ซึ่งชุดแต่งงานแบบสั้นเจ้าสาวยังสามารถเสริมชายกระโปรงลากยาวแบบถอดได้เข้าไปก็ได้ ทำให้เจ้าสาวเหมือนได้ชุดแต่งงานสองชุดไปด้วยในตัว ซึ่งก็จะดูคล้ายกับชุดแต่งงานแบบหน้าสั้นหลังยาวนั่นเอง
ข้อดีอีกอย่างของชุดสั้นสไตล์ Knee Length คือเหมาะกับเจ้าสาวที่มีงบประมาณค่อนข้าจำกัด เพราะส่วนใหญ่ชุดแบบสั้นจะราคาถูกกว่าชุดแต่งงานแบบยาว แถมชุดแบบสั้นยังเป็นรูปแบบชุดที่สามารถหาได้ง่ายไม่ได้จำกัดอยู่ที่เฉพาะร้านชุดแต่งงานเท่านั้นอีกด้วย สาวๆ จึงสามารถหาชุดสวยๆ สไตล์นี้ได้ตามร้านเสื้อผ้าแฟชั่นหรือแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า ที่สำคัญยังเป็นชุดที่สามารถนำกลับมาใส่ได้อีกครั้งตามวาระพิเศษต่างๆ อีกด้วย
ชุดแต่งงานสไตล์หน้าสั้นหลังยาว
สำหรับว่าที่เจ้าสาวที่รักพี่เสียดายน้องก็ต้องชุดแต่งงานแบบหน้าสั้นหลังยาวนี่แหละตอบโจทย์ที่สุด และยังเป็นรูปแบบชุดที่ดูเป็นทางการมากกว่าชุดแต่งงานสั้นแบบอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งระดับความต่างของกระโปรงด้านหน้าและด้านหลังสามารถปรับได้ตามความต้องการของเจ้าสาวเลย โดยอาจจะดูจากความชอบ ความเหมาะสม หรือรูปแบบของงานเป็นหลัก เช่น กระโปรงด้านหน้าอาจสั้นสุดในสไตล์มินิสเกิร์ตไปเลยก็ได้
ชุดแต่งงานสไตล์นี้อาจเหมาะกับงานแต่งริมทะเลหรืองานแต่งงานในสวน เพื่อช่วยให้เจ้าสาวเดินเหินได้อย่างสะดวก และโดยมากแล้วรูปทรงของชุดสไตล์หน้าสั้นหลังยาวจะเป็นชุดทรงบอลกาวน์, ทรงเอ-ไลน์ และทรงเอ็มไพร์, ทรงเมอร์เมด, ทรงทรัมเป็ต