เทคนิค จัดงานแต่งริมทะเล ให้เหมือนมืออาชีพมาจัดให้ไม่ยากอย่างที่คิด

จัดงานแต่งริมทะเล ถ้ารู้เทคนิคก็ทำได้ไม่ยากอย่างที่คิด

บ่าวสาวที่ฝันอยาก จัดงานแต่งริมทะเล เหมือนในหนังรักสุดโรแมนติก แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน และไม่รู้ต้องเตรียมงานอย่างไร แพรวเวดดิ้งจะมาช่วยแนะนำให้คุณได้เตรียมงานอย่างมืออาชีพ ตามนี้เลย

  • ต้องเชิญแขกเท่าไหร่ถึงจะพอดี : จำนวนแขกที่เหมาะสมสำหรับงานแต่งริมทะลคือ 50-100 คน
  • ช่วงเดือนและเวลาที่เหมาะกับการจัดงานแต่งริมทะเล

เดือนที่เหมาะกับการจัดงานแต่งริมทะเลที่สุดได้แก่ มกราคม-กุมภาพันธ์ เพราะอากาศดี ไม่ร้อน ไม่มีฝน  และลมไม่แรงมาก ส่วนช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการจัดพิธีช่วงเช้าคือ 7.00 – 9.00 น. ช่วงเย็นคือ 15.00 – 17.00 น. ส่วนช่วงเวลาสุดโรแมนติกที่บ่าวสาวจะสามารถเก็บภาพประทับใจจากแสงธรรมชาติได้สวยที่สุดคือ 1 ชั่วโมงก่อนพระอาทิตย์ตกดิน เพราะจะได้ภาพแสงสีทองของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า โอย แค่คิดก็ฟินเว่อร์

  • จะตกแต่งบรรยากาศงานแต่งริมทะเลอย่างไรให้โดดเด่น

ข้อนี้ไม่ต้องคิดมากให้ปวดหัวเลยค่ะ เพราะงานแต่งงานริมทะเลนั้น บ่าวสาวได้กำไรจากธรรมชาติล้วนๆ โดยที่ไม่ต้องเพิ่มการตกแต่งใดๆ ให้มากมาย เพราะท้องฟ้า หาดทราย และผืนน้ำสีครามนั้น เปรียบเสมือนแบ็กดร็อปของงานที่สวยงามโดยไม่ต้องปรุงแต่งให้เปลืองแรง แต่ถ้าบ่าวสาวอยากเพิ่มสีสันให้กับงานแต่งมากกว่านี้ก็สามารถเพิ่มดีเทลอย่าง ม้านั่งดีไซน์เก๋ๆ เพิ่มเทียนเพื่อความโรแมนติกยามค่ำคืน แจกันดอกไม้เพื่อให้งานดูสดชื่นโดยอาจจะเน้นเป็นดอกกล้วยไม้ หรือดอกคาลล่าลิลี่ที่ทนอากาศร้อนของเมืองไทยได้เป็นอย่างดี พร้อมเติมริบบิ้นให้พลิ้วไปกับแรงลม แล้วเสริมการตกแต่งด้วยเปลือกหอยให้เข้ากับธีมงานสักนิดเป็นอันจบ

จัดงานแต่งริมทะเล

ส่วนโทนสีที่จะช่วยให้งานแต่งริมทะเลโดดเด่นก็คือ โทนสีส้มอมแดง (Coral) และสีเขียวมิ้นต์ แถมบ่าวสาวยังสามารถนำสีโทนนี้ไปแมตช์กับชุดเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้อีกด้วย

  • รูปแบบของอาหารและเครื่องดื่มภายในงาน

อาหารที่เสิร์ฟให้แขกในช่วงพิธีนอกจากซอฟต์ดริ้งค์แล้ว ก็ควรที่จะมีอาหารรองท้องเบาๆ สไตล์ Finger Food หรืออาหารที่ใช้นิ้วมือหยิบกินได้ ซึ่งก็ต้องเลือกให้แมตช์กับแขกส่วนใหญ่ที่บ่าวสาวเชิญมาด้วย

  • เรื่องไหนที่บ่าวสาวต้องให้ความสำคัญและระวังอย่าให้พลาด

– ก่อนอื่นบ่าวสาวต้องทำความเข้าใจก่อนนะคะว่า การจัดงานแต่งริมทะเลไม่เหมือนการจัดงานในห้องบอลรูม เพราะฉะนั้นควรจะจัดงานแบบหันหน้าออกไปทางหาดเพื่อจะได้เห็นความงามของหาดทราย สายลม และแสงแดดแบบพานอรามา

– ต้องระวังและห้ามพลาดก็คือเรื่อง ลม เพราะฉะนั้นต้องเช็กให้ชัวร์ว่าไมโครโฟนที่จะใช้ในงานนั้นสามารถจัดการกับเสียงลมและเสียงแทรกได้อย่างอยู่หมัดหรือไม่ ไม่ใช่ว่ากำลังพูดซึ้งอยู่แต่แขกดันฟังไม่รู้เรื่อง แบบนี้ก็หมดอารมณ์โรแมนติกนะคะ

– ชุดของเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ไม่ควรเลือกชุดที่เนื้อผ้ามีความหนาหรือหนัก โดยเฉพาะชุดของเจ้าสาวไม่ควรเลือกชุดที่ประดับลูกไม้เยอะเกินไป เลือกเป็นผ้าพลิ้วไหวให้รับกับแรงลมจะดีกว่า ส่วนทรงผมก็ควรเกล้าให้เรียบร้อยจะได้ไม่บดบังใบหน้าอันมีความสุขในช็อตสำคัญ

– หากบ่าวสาวมีงบเหลือประมาณหนึ่ง อาจจะเพิ่มแอร์เคลื่อนที่วางไว้ตามจุดต่างๆ รอบงาน เพราะอากาศเมืองไทยถึงแม้จะไม่ใช่หน้าร้อน แต่มันก็ร้อนอยู่ดีนะจ๊ะ

– เรื่อง แสง ก็สำคัญ เพราะงานฉลองมักล่วงเลยกินเวลาไปจนถึงช่วงค่ำ เพราะฉะนั้นการใช้โคมไฟหรือเทียนในโทนสีวอร์มมาตกแต่งตามทางเดิน ต้นไม้ และโต๊ะ ก็จะช่วยเพิ่มความโรแมนติกให้กับบรรยากาศงานได้เป็นอย่างดี

– สิ่งสุดท้ายที่ห้ามลืมและต้องคำนึงให้ดีคือ ที่พักสำหรับแขก เพราะแขกที่มาร่วมงานส่วนใหญ่อาจจะไม่สามารถขับรถไปเช้า-เย็นกลับได้ ในฐานะเจ้าภาพจึงควรที่จะจัดเตรียมที่พักไว้ให้พร้อม โดยเฉพาะสำหรับแขกผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นบ่าวสาวอาจจะคุยเรื่องข้อตกลง หรือโปรโมชั่นห้องพักกับทางโรงแรมให้ละเอียด เผื่อทางโรงแรมหรือสถานที่มีโปรโมชั่นดีๆ จะได้ไม่พลาดแถมจะได้ประหยัดงบด้วย

– เรื่องฟ้าฝนถึงแม้จะเช็กมาดีแค่ไหน แต่ก็อาจจะไม่เป็นใจในวันงาน! เพราะฉะนั้นแผนสำรองต้องมี บ่าวสาวอาจจะต้องรีเช็กสภาพอากาศตลอดเวลา และต้องคุยกับทางโรงแรมหรือสถานที่ว่าหากฝนตกจะมีการย้ายไปยังห้องจัดเลี้ยงอินดอร์ที่ใกล้ที่สุดแทนหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้ก็ต้องตกลงกันให้ดีก่อนเซ็นสัญญานะจ๊ะ

สามารถไปดูเทคนิคจัดงานแต่งริมทะเลให้ปังเพิ่มเติมได้ที่ 7 ข้อเท็จจริงที่ต้องรู้ถ้าคิดจะจัดงานแต่งริมทะเล

ภาพ pexels.com

Recommended