ถ้าไม่อยากพลาดในช่วง เตรียมงานแต่งงาน มาเช็กกันด่วน!!
แน่นอนว่าว่าที่บ่าวสาวแต่งงานเป็นครั้งแรก เพราะฉะนั้นคงไม่มีใครเป๊ะหรือรู้ดีไปมากกว่ากัน และช่วง เตรียมงานแต่งงาน นี่แหละเป็นช่วงที่บ่าวสาวจะปวดหัวมากที่สุด เพราะไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง หรือบางครั้งก็ศึกษาและวางแผนไว้อย่างดี แต่สุดท้ายก็ยังลืมนู่นนี่ หรือพลาดบางเรื่องไปจนได้ แพรว wedding เลยรีบจัดเช็กลิสต์สิ่งที่บ่าวสาวมักจะพลาดในช่วงเตรียมงานแต่งงานมากที่สุดมาให้ ว่าแต่จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น ไปเช็กกันเลย
1. วางแผนทุกสิ่งก่อนตั้งงบประมาณ
ว่าที่บ่าวสาวส่วนใหญ่เมื่อรู้ว่าตัวเองจะแต่งงาน ก็มักจะนึกถึงภาพตัวเองในชุดเจ้าสาว ยืนอยู่ท่ามกลางบรรยากาศงานแต่งในฝัน โดยหลงลืมไปว่า เรื่องสำคัญกว่านั้นคือต้องตั้งงบประมาณในการจัดงานให้เรียบร้อยซะก่อน โดยการตั้งงบประมาณที่ว่า ขอแนะนำให้ตั้งคร่าวๆ ก่อนได้ แต่ต้องตั้งในทุกหัวข้อที่เกี่ยวข้อง และอย่าลืมเผื่องบเบ็ดเตล็ดไว้ด้วย ไม่อย่างนั้นอาการงบบานปลายจนไปไม่ถึงฝันจะเกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
2. ลืมแผนสำรองยามฝนพรำ
ฝนหลงฤดูจะมาตอนไหนไม่มีใครบอกได้ แต่บ่าวสาวชาวเราก็ยังลืมเรื่องแผนสำรองที่ว่าเสมอ ซึ่งในที่นี้เราไม่ได้หมายถึงแค่คนที่จัดงานเอ้าท์ดอร์นะคะ บ่าวสาวที่จัดงานในห้องก็ต้องไม่ประมาท คุณควรคิดเผื่อเวลาด้านนอกฝนตกด้วย เพราะส่งผลถึงการมาล่าช้าของประธานและแขกคนสำคัญ จึงควรเตรียมแผนสำรองประเภทลำดับงานที่อาจเริ่มได้ช้าด้วยนะ ประมาณว่าถ้างานยังเริ่มไม่ได้ บนเวทีควรมีอะไรเคลื่อนไหวไหม เป็นต้น
3. พื้นที่จัดงานสมบูรณ์แบบ แท้จริงแล้วอาจแฝงไปด้วยเรื่องยิบย่อย
จัดงานแต่งเอ้าท์ดอร์ไม่ได้เป็นการจัดประเภทที่ยกทุกสิ่งจากในห้องมาวางไว้แล้วจบนะคะ ยังมีเรื่องเต๊นท์ว่าขนาดไหนดี ต้องตั้งหรือเปล่า พื้นที่ทำครัวอยู่ไหน ส่วนเตรียมอาหารล่ะ ห้องน้ำไกลเกินไปไหม ต้องมีรถสุขาเพิ่มหรือเปล่า หรือแม้กระทั่งพื้นดินที่ใช้จัดงาน เดินยากเดินง่ายก็มีผล แขกสาวๆ จะลำบากไหม เป็นต้น ทั้งหมดนี้คือส่วนที่หลายคนมองข้าม อย่าลืมนะคะว่า แม้พื้นที่จัดงานที่ว่าจะแลดูสมบูรณ์แบบมีทุกอย่างครบ แต่เพียงพอแน่หรือ โอเคจริงไหม คิดดูดีๆ ล่ะ
4. วางแผนงานเลี้ยงยาวเกินไป
บ่าวสาวหลายคู่ฝันอยากทำนั่นทำนี่ในงานแต่งงาน ทั้งเรื่องเซอร์ไพร้ส์ ทั้งประธานมากกว่าหนึ่งคน ไหนจะการแสดงสารพัดโชว์ รวมถึงเกมการละเล่นแจกของ เรียกว่ามีมากมายเยอะแยะเต็มไปหมดจนลำดับพิธีมีแววจะไม่จบลงง่ายๆ เอาแบบนี้ไหม เลือกมาแค่พอดี แล้วเก็บบางอย่างไว้จัดกันเองกับเพื่อนๆ นอกรอบ
5. ขนาดสถานที่ไม่สมดุลกับจำนวนแขก
เรื่องนี้พลาดมานักต่อนัก ทั้งแบบที่พื้นที่ใหญ่ไปจนรู้สึกเหงาใจ และพื้นที่เล็กมากกับแขกที่มากล้น ปัญหาอาจอยู่ที่คุณไม่ชัวร์เรื่องปริมาณแขก แถมยังมั่นใจเกินไปจนไม่ปรึกษาหรือเชื่อคำที่เจ้าของสถานที่ผู้มีประสบการณ์ดูแลลูกค้าแนะนำ เมื่อปัญหานี้เกิดขึ้น สิ่งที่คุณต้องเจอมีอยู่ 2 อย่างคือ แขกเม้าส์ว่าห้องเล็กจังประหยัดเงินเหรอ กับ ว้าย…ทำไมไม่ค่อยมีแขกเลย หรือบ่าวสาวคู่นี้ไม่น่าคบ!!!
6. วางลำดับพิธีโดยลืมดูแสงแดดสายลม
บ่าวสาวที่ต้องการจัดงานแต่งริมทะเลและงานในสวน มักลืมไปว่า ช่วงเวลาในการทำพิธีสวมแหวนต้องการแดดอ่อนๆ ลมกลางๆ ที่เอื้ออำนวย ลองคิดดูสิว่า ถ้าแดดเปรี้ยงตอนที่คุณจะสวมแหวน ภาพที่ออกมาจะเป็นแบบไหน ไหนจะสภาพเหงื่อท่วมของคุณอีก หรือบางนางลืมดูทิศทางลม จัดสวมแหวนริมทะเลทีเวลปลิวตีหน้า เอ่ยปากให้คำสัตย์สาบานก็ทรายปลิวเข้าปาก แบบนี้ไม่โออย่างแรงนะคะ
7. เซ็นสัญญาโดยไม่อ่านรายละเอียด
เรื่องนี้พลาดไม่ได้เด็ดขาด แต่หลายคู่ก็ยังคงพลาด อาจเพราะมีหลายสิ่งต้องเตรียม การลงรายละเอียดเงื่อนไขการจ้างงานในแต่ละส่วนจึงถูกละเลย บางคู่คิดว่าอ่านดีละเอียดแล้วแต่เอาเข้าจริงตกหล่นจนโดนเอาเปรียบ แล้วต้องมานั่งเจ็บใจทีหลัง ฉะนั้นเพื่อป้องกันความเสียหายก็ต้องรอบคอบเสมอนะคะ แต่ถ้าคุณคิดว่าทั้งคุณและคนรักยุ่งมากจนไม่มีสติพอที่จะตั้งใจอ่าน ก็จงหาเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้มาช่วยอ่านช่วยพิจารณาอีกทางก็ดีนะ
8. พยายามเอาใจทุกคนมากเกินไป
เคยได้ยินไหมคะว่าคุณไม่สามารถเอาใจทุกคนได้ครบหมดหรอกค่ะ เพราะถ้าคุณทำแบบนั้น ความเป็นคุณจะเหลืออยู่หรือเปล่า จริงอยู่ที่บางคู่โดนกดดันจากครอบครัวมา จึงอยากตัดปัญหาด้วยการยอมและพยายามทำให้ทุกสิ่งอย่าง แต่ถามใจคุณไหมว่าคุณโอเคหรือเปล่า และที่สำคัญที่เราอยากให้คุณแคร์คือ คู่ของคุณโอเคด้วยไหม ถ้าคุณอยากเอาใจญาติพี่น้องฝั่งคุณ ถามความเห็นเขาด้วยนะ แล้วลองเปลี่ยนจากการเอาใจทุกคนมาเป็นทำให้เท่าที่สามารถและไม่ขัดต่อความรู้สึกของคุณทั้งคู่ดีไหม
9. ลืมใส่ใจรายละเอียดในการ์ดแต่งงาน
การ์ดแต่งงานสมัยนี้ไม่ได้จบแค่พ่อแม่เป็นใคร บ่าวสาวชื่ออะไร จัดงานที่ไหน แต่คุณควรลงรายละเอียดประเภท Dress Code รวมถึงประเภทการจัดเลี้ยงลงไปด้วย นอกจากนี้ถ้าไม่ลำบากอย่าลืมแนบแผนที่ลงไปอีกนิด ให้ข้อมูลกับแขกให้ครบมากที่สุด (ยกเว้นเรื่องที่จะเก็บไว้เซอร์ไพร้ส์) ถือซะว่าพิมพ์การ์ดครั้งเดียวบอกครบ จะดีกว่าให้แขกงงๆ ต้องยกหูโทรฯ ถาม
10. คิดเองเออเอง
อาจเพราะขี้เกียจมากเรื่อง อยากเตรียมงานให้เรียบง่ายที่สุด หรือคิดว่านี่งานของเราจะทำยังไงก็ได้ เวลาตัดสินใจเรื่องใดๆ จึงถามแค่ใจตัวเอง ผลที่ตามมาคือ คุณอาจเจอภาวะเตรียมงานไม่จบสักเรื่อง เช่น สั่งการ์ดเชิญไม่ถามครอบครัวให้แน่ชัดว่าจะเชิญแขกเท่าไหร่ ทีนี้ทำไงล่ะเมื่อการ์ดเชิญไม่พอ ก็ต้องสั่งพิมพ์เพิ่มทีหลังเสียเงินมากไปอีก หรือประเภทว่าคิดเอาเองว่าอีกฝ่ายคงโอเค แต่แท้จริงแล้วอีกฝ่ายคิดคนละแบบ ผลคือ ไม่ได้ข้อสรุปแถมยังตีกันอีก
อ่านครบจบทั้ง 10 ข้อแล้วลองเช็คคู่ของตัวเองดูนะคะว่า หลงลืมหรือละเลยข้อไหนไปบ้าง จะได้อุดรอยรั่วได้ทัน เพื่อให้งานแต่งงานของคุณทั้งคู่ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากอุดรอยรั่วแล้วยังหลุด อย่าเสียใจ แต่ให้มองให้เป็นความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้มีร่วมกันซะ เพราะงานแต่งงานคือเรื่องดีๆ ที่มีคุณกับคนรักเป็นหัวใจสำคัญนี่นา
ส่วน 5 ข้อเจ้าสาวควรทำก่อนงานแต่งงาน 1 สัปดาห์! สำหรับเจ้าสาวโดยเฉพาะ
ภาพ Pinterest, pexels.com