ช่วงนี้อะไรๆ ก็ฮิตสไตล์วินเทจกันไปหมด ไม่เว้นแม้กระทั่ง ชุดแต่งงาน แพรว wedding เลยจัดชุดเจ้าสาวสุดคลาสสิคในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาว่ามีความสวยงาม อลังการ และเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหนมาฝาก เผื่อว่าที่เจ้าสาวสายฮิปทั้งหลายจะได้แรงบันดาลใจเฉียบๆ ไปปรับใช้กับชุดแต่งงานของตัวเอง แต่แอบกระซิบไว้ตรงนี้เลยว่า สวยสง่าไม่ตกยุคทุกชุดจริงๆ นะจะบอกให้
ยุค 1915
ชุดเจ้าสาวในยุค 1915 เป็นชุดลูกไม้สีขาวงาช้างแบบเรียบหรู กระโปรงทรงตรงทำให้เดินเหินสะดวกสบาย จุดเด่นอยู่ที่เจ้าสาวจะต้องหยิบถุงมือสีขาวยาวถึงข้อศอก มาสวมและไม่ลืมติดเวลที่ศีรษะ ให้ลุคโดยรวมสวยหวาน
ยุค 1925
ชุดเจ้าสาวในยุค 1925 มีความทันสมัยและคล่องตัวมากขึ้น จุดเด่นคือเสื้อแยกกับกระโปรง ตัวกระโปรงมีความยาวไม่มากนัก และจะคลุมถึงแค่ช่วงเข่า ความพิเศษอีกอย่างในยุคนี้คือจะมีการประดับมุขคาดบนใบหน้าและสวมเวลยาวลากถึงพื้น แต่ยังคงสวมถุงมือสีขาวยาวถึงข้อศอกเหมือนในยุค 1915 ค่ะ
ยุค 1935
หรูหราและสง่างามขึ้นอีก สำหรับชุดเจ้าสาวในยุค1935 ค่ะ เจ้าสาวในยุคนี้จะสวมเดรสตัวยาวสีขาวด้านในและคลุมด้วยเสื้อลูกไม้แขนยาวลากพื้นด้านนอก บนศีรษะสวมเวลประดับด้วยมงกุฎ เหมือนเจ้าหญิงที่หลุดออกมาจากเทพนิยายเลยจริงๆ ค่ะ
ยุค 1945
ในยุค 1945 ชุดเจ้าสาวในยุคนี้จะเป็นชุดกระโปรงสีขาวแขนยาวทำจากผ้าลูกฟูก มีความเรียบง่ายและสวยงามทันสมัยตามแบบฉบับสาวฮอลลีวูด บนศีรษะสวมหมวกประดับด้วยเวลผ้าโปร่งลากยาวถึงพื้น
ยุค 1955
มาต่อกันที่ยุค 1955 เลยค่ะ ในยุค 50 สาวๆ มีความสนุกสนานมากขึ้นทำให้ชุดเจ้าสาวมีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ชุดเจ้าสาวทำจากลูกไม้สีขาว ด้านในกระโปรงสวมสุ่มเพื่อให้กระโปรงด้านนอกมีความพอง และพลิ้วไหว ความยาวของกระโปรงอยู่ในระดับตาตุ่ม ส่วนศีรษะประดับด้วยเวลติดโครงดอกไม้ยาวถึงกลางหลัง
ยุค 1965
ชุดเจ้าสาวของยุค 1965 นั้นมีความเรียบง่ายมากเป็นเพียงชุดกระโปรงสีขาวทรง A-Line ชุดด้านบนพอดีตัวและพองช่วงล่าง แต่ถ้าดูโดยรวมของชุดนี้นั้นต้องบอกเลยจริงๆ ว่านางมีความโดดเด่นและสะดุดตามากกับเวลที่คลุมใบหน้าที่มีกิมมิคเล็กๆ อยู่ที่การประดับโบว์อันใหญ่ลงไป
ยุค 1975
หากสาวๆ คนไหนชอบชุดเจ้าสาวที่สวย น่ารัก และไม่อยากยุ่งยากลองเอายุคนี้มาเป็นแรงบันดาลใจได้เลยจ๊ะ เพราะชุดเจ้าสาวในยุคนี้ เป็นชุดแต่งงานสไตล์โบฮีเมี่ยน มีความคล่องตัวและใส่ง่ายแถมยังน่ารักด้วยการเพิ่มรายละเอียดช่วงแขนที่พองแบบแขนตุ๊กตา รวมถึงยังมีมงกุฎดอกไม้และสร้อย Choker เป็นเครื่องประดับที่พอมองโดยรวมแล้วชุดนี้น่ารักจริงๆ เลยว่าไหมล่ะ
ยุค 1985
ในยุค 1975 เราจะเห็นชุดเจ้าสาวที่มีความเรียบง่าย ใส่สบายมาแล้ว แต่หากสาวๆ คนไหนอยากจัดเต็มทั้งชุดและเครื่องประดับ ยุค 1985 น่าจะตอบโจทย์ให้คุณสาวๆ ได้ดีเลยทีเดียวเลยแหละ เพราะในยุคนี้ชุดเจ้าสาว จะทำจากผ้าประดับด้วยลูกไม้แขนของชุดจะมีความพองเหมือนชุดตุ๊กตาฝรั่งเศส เวลที่ประดับผมนั้นก็มีความฟูฟ่องไม่แพ้กันเลยทีเดียว ส่วนผู้ที่เคยใส่ชุดนี้ให้เห็นและหญิงสาวหลายคนล้วนใส่ตามก็คือ เจ้าหญิงไดอาน่า เจ้าหญิงผู้เลอโฉมของราชวงศ์อังกฤษ ไงล่ะคะ
ยุค 1995
ชุดเจ้าสาวเปิดไหล่ที่เราเห็นกันอย่างคุ้นตากันมาบ้างแล้วในสมัยนี้ แต่คุณสาวๆ รู้ไหมคะว่าชุดนี้มีต้นกำเนิดในปี 1995 เพราะนอกจากสวยงามแล้วยังหรูหรามีรูปทรงที่ทันสมัยทำให้เจ้าสาวในสมัยนี้ยังหยิบมาใส่ให้เห็นกันอยู่จ๊ะ เวลประดับผมเป็นผ้าโปร่งที่มีความยาวไม่มากนัก นำมาประดับด้วยกิ๊บสวยๆ ก็เพิ่มความหรูหราให้กับชุดนี้มากเลยจ๊ะ
ยุค 2005
ชุดเจ้าสาวทรง “Sheath” หรือชุดเจ้าสาวทรงตรงเว้าช่วงเอวเล็กน้อย เพื่อเผยให้เห็นสัดส่วนเจ้าสาว เป็นที่นิยมอย่างมากในยุค 2005 ชุดเจ้าสาวทรงนี้ความเรียบง่าย แต่แฝงความมีเสน่ห์จริงๆ ในส่วนของเครื่องประดับนั้นมักเป็นสร้อยคอเพชรเส้นเล็ก สร้อยข้อมือมุกประดับเพชร และเวลที่เราเห็นแทบจะทุกยุค ยุคนี้ก็ไม่มีแล้วนะจ๊ะเป็นเพียงตาข่ายประดับผมปิดลงมาถึงใบหน้าเพียงเล็กน้อย ทำให้ราแอบคิดว่าสาวๆ ในยุคนี้คงต้องหุ่นดีและแอบหวานซ่อนเปรี้ยวจริงๆ
ยุค 2015
มาถึงยุคสุดท้ายกันแล้วจ้า สาวๆ ในยุคสมัยนี้นิยมใส่ชุดแต่งงานที่คล้ายกับยุค 2005 แต่มีดีทีเทลชุดมากขึ้นเช่น ด้านหน้าของชุดแหวกให้เห็นเนินอกเล็กน้อย ช่วงเอวมีเข็มขัดประดับเพชรหรือผ้าคาดเอวให้ชุดมีรายละเอียดมากขึ้น หรือจะเป็นด้านหลังที่มีความโค้งเหว้าโชว์แผ่นหลังของเจ้าสาว ส่วนเวลก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง โดยเป็นเวลผ้าโปร่งแต่ไม่ยาวมากนัก แต่สิ่งสำคัญในยุคนี้คือ เจ้าสาวจะนั้นจะใส่ชุดที่แมทกับเจ้าบ่าวและเป็นธีมเดียวกัน ตามแบบงานที่จัดขึ้น
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : www.marthastewartweddings.com,www.mode.com, marieclaire.co.uk, www.southernliving.com