3 มารยาทงานแต่งงานหลักๆ ที่แขกผู้มีเกียรติต้องมีเมื่อไปงานแต่ง

ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องมีมารยาท แม้กระทั่ง มารยาทงานแต่งงาน ก็ต้องมีเหมือนกันนะ

ว่าด้วยเรื่องของแขกผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญให้ไปร่วมงานแต่งงาน บางคนที่ไปบ่อยๆ ไปจนชินก็อาจจะรู้งาน และทำทุกอย่างได้ถูกต้องเหมาะสม แต่สำหรับแขกมือใหม่ป้ายแดง ที่ยังเก้ๆ กังๆ ไปไม่ถูก มาค่ะ แพรว wedding จะพาเข้าหลักสูตรแบบ 3 ข้อจบ กับ 3 มารยาทงานแต่งงาน ที่แขกทุกคนต้องทราบ

ใส่ซองเท่าไหร่ดี

หลักการให้ซองที่มักได้ยินกันคือ เขาเคยช่วยงานครอบครัวคุณเท่าไหร่ ให้ทำสมุดจดไว้ แล้วถึงเวลาที่คุณไปงานเขา ควรจะให้มากกว่าที่เขาเคยให้ อีกประการหนึ่งที่นำมาเป็นเกณฑ์ในการใส่ซองคือ ดูจากสถานที่จัดงาน เช่น จัดงานในโรงแรมห้าดาว แต่ใส่ซองไป 500 บาท เพื่อนอาจไม่ว่า เพราะเขาคงไม่ได้มาหวังคืนทุนหรือร่ำรวยจากการจัดงานแต่ง แต่เป็นมารยาทที่แขกต้องคำนึง เช่น โรงแรมห้าดาว ค่าค็อกเทลต่อหัวก็มีราคา 500 บาทขึ้นไปจนถึงหลักพัน ถ้าเป็นงานเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์หรือโต๊ะจีนก็ยิ่งราคาสูงขึ้นตามลำดับ ฉะนั้นควรให้ซองที่ครอบคลุมราคาอาหารต่อหัวของแขก อาจจะพอดีหรือมากกว่า แต่อย่าให้น้อยกว่า เจ้าสาวหลายคนอาจจะเคยบ่นอุบว่า ไม่แต่งงานเองก็ไม่รู้ แต่ก่อนก็ให้ซอง 500 แต่พอนั่งแกะซองงานแต่งตัวเองถึงได้เข้าใจหัวอกคนเป็นเจ้าภาพจัดงานว่าแขกหลายคนก็ใส่ซองมาได้ชี้ช้ำกระหล่ำปลีจริงๆ

มารยาทงานแต่งงาน

ทั้งนี้เป็นเพราะงานแต่งงานไทยไม่ค่อยนิยมให้ของขวัญ แต่ชอบให้ซอง แต่เมื่อเป็นเงิน ใครเล่าจะมาระบุจำนวน คนให้ควรจะตรึกตรองตามความเหมาะสมเองในจำนวนที่ไม่น่าเกลียดและไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนด้วย

 

รับปากไว้แต่ไม่ไป

หลายคนเมื่อได้การ์ดเชิญมาก็เก็บไว้จะไปหรือไม่ไปไว้ตัดสินใจตอนห้าโมงเย็นของวันงาน หรือบ้างก็บอกว่าบ่าวสาวจะไป แต่ถึงเวลาก็เปลี่ยนใจ แน่นอนว่าทุกคู่ก็แต่งงานกันได้แม้ไม่มีคุณไปร่วมงาน แต่เป็นมารยาทอีกนั่นแหละที่
1) รับปากไว้ก็ต้องรักษาคำพูด
2) ถึงแม้ว่าคุณจะได้รับเชิญผ่านทางโซเชียล แล้วคุณยังได้รับการ์ดเชิญเป็นแผ่นๆ อีก แสดงว่าเจ้าภาพเขาคิดแล้วว่าอยากให้คุณไปร่วมงาน คุณก็ควรแสดงมารยาทอันดีด้วยการไปตามคำเชิญ

มารยาทงานแต่งงาน

3) การ์ดเชิญทุกใบมีค่าใช้จ่าย เพราะมันจะถูกนำไปคำนวณค่าอาหารต่อหัวในโรงแรม รวมทั้งค่าชองชำร่วยด้วย เช่น พิมพ์การ์ด 400 ก็แสดงว่าต้องจ่ายค่าอาหาร 400 คน ของชำร่วย 400 ชิ้น ซึ่งเป็นจำนวนขั้นต่ำเพราะเจ้าภาพทุกงานต้องเผื่อแขกมาเกินอยู่แล้ว บอกว่าไปแต่ไม่ไป เจ้าภาพก็คำนวณลำบาก ผิดพลาด และอาจเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ได้
4) สมมติว่าคุณจัดงานอะไรขึ้นมาสักงานหนึ่ง ใจคุณจะตุ๊มๆ ต่อมๆ ว่าคนจะมาเยอะไหม ใครจะมาบ้าง ถ้ามาน้อยงานก็กร่อย ดังนั้นถ้าบ่าวสาวคือเพื่อนหรือคนที่สำคัญต่อชีวิตคุณ ก็ควรไป อย่าคิดว่าเพื่อนจะยุ่งกับการรับแขก ถ้าไปก็แค่ได้ถ่ายรูปหน้าแบ็กดร็อปแป๊บๆ แต่นั่นละคือประเด็น ไม่ว่าแขกจะมาหรือน้อย สิ่งสำคัญคือทุกครั้งที่หันมามอง บ่าวสาวควรจะได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย ซึ่งจะช่วยลดความประหม่า เพิ่มความซาบซึ้งและเติมความหมายดีๆ ให้วันแต่งงานของเขาทั้งสองมากขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าคุณเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่ดีที่จะช่วยซัปพอร์ตบ่าวสาว ถึงแม้จะต้องยืนเก้ๆ กังๆ จิบน้ำตลอดงานก็ตาม แต่ถ้าไปไม่ได้จริงๆ ควรฝากซองหรือนำซองไปให้ทีหลัง วิธีคือห่อเงินด้วยกระดาษแนบการ์ดเขียนอวยพรและใส่ซองอีกชั้น อย่าตีมึนว่า ไม่ไปก็ไม่ต้องให้ซองนะจ๊ะ

เดรสโค้ด

บางคนอายที่จะแต่งตัวตามเดรสโค้ดที่เจ้าภาพกำหนด เพราะกลัวว่าจะแต่งไปคนเดียว สุดท้ายเป็นเจ้าภาพเองที่เก้อ เพราะกำหนดเดรสโค้ดไว้แต่ไม่มีใครแต่ง ขณะที่บางคนก็อายที่ไม่ได้แต่งตัวตามเดรสโค้ดจนถึงกับไม่ไปงานนั้นๆ เลยทีเดียว ข่าวดีคือ หลายๆ งานแขกเหรื่อเริ่มให้ความร่วมมือ สนุก และเห็นว่าเป็นมารยาท เป็นการให้เกียรติบ่าวสาว จึงแต่งตัวตามเดรสโค้ดกันอย่างคึกคัก เรียกว่าถ้าโรงแรมไหนมีงานแต่งหลายงานชนกัน ดูจากสีชุดของแขกก็รู้ได้ทันทีว่าใครมางานไหน ไม่ใช่แต่แขกเท่านั้นที่ควรให้เกียรติเจ้าภาพ ช่างภาพก็เช่นกัน บางทีมถึงกับตัดสูทใหม่ให้เข้ากับธีมหรือเดรสโค้ดทุกงาน ไม่ใช่สูทดำ เทา ขาว เพียงอย่างเดียว เพราะช่างภาพก็ควรจะแต่งตัวให้เหมือนแขกคนหนึ่งเช่นกัน

มารยาทงานแต่งงาน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากงานแต่งงานของบ่าวสาวเป็นงานแต่งที่เป็นทางการมากๆ และมีแต่แขกผู้ใหญ่เป็นหลัก ก็ไม่ควรเลือกเดรสโค้ดที่ยากจนเกินไป อาจจะเล่นเป็นธีมสีสุภาพง่ายๆ ก็พอ แต่หากงานแต่งของคุณเป็นกันเองมากๆ เน้นครอบครัว คนสนิท และเพื่อนฝูง อันนี้จะครีเอทให้มันแค่ไหนก็ไม่มีใครว่า แต่พ่อกับแม่ต้องอนุญาตด้วยนะ

ในเมื่อมีเรื่องที่แขกต้องระวังแล้ว บ่าวสาวเองก็มีเรื่องที่ต้องระวังเช่นกันนะ >>> พึงระวัง!! 4 เรื่องนี้แขกในงานแต่งบ่นแน่ถ้าคุณพลาด

ภาพ insideweddings.com, randolphusa.com, qqtdd.com, weddings-in-santorini.com

Recommended