เคล็ดลับ ชีวิตคู่ยืนยาว แบบฉบับ หนูแหม่ม-สุริวิภา และบ๊อบบี้-โรเบิร์ต

ใช้ชีวิตคู่ยาวนานร่วม 20 กว่าปี ไม่รวมที่ศึกษาดูใจกันก่อนแต่งงานอีก 3 ปี ถือว่า คู่ของคุณหนูแหม่ม-สุริวิภา กุลตังวัฒนา และคุณบ๊อบบี้-โรเบิร์ต พูนพิพัฒน์ นั้นมี ชีวิตคู่ยืนยาว มากๆ แพรว wedding มีโอกาสได้พูดคุยกับทั้งคู่ว่าทำยังไงให้ ชีวิตคู่ยืนยาว ได้ถึงขนาดนี้ ซึ่งก็ได้ข้อคิดดีๆ กลับมาเพียบเลย

มีเคล็ดลับในการใช้ชีวิตคู่ยังไง?

หนูแหม่ม : จริงๆ แล้วชีวิตคู่ต้องเรียนรู้กันทุกวัน อย่างทุกวันนี้ก็ยังไม่เลิกที่จะเรียนรู้ เมื่อไหร่ที่เราเลิกเรียนรู้กันและกันก็แสดงว่าเราไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว เคล็ดลับการอยู่ด้วยกันของหนูแหม่มคือ เราต้องไม่เป็นเจ้าของซึ่งกันและกัน ซึ่งมันยากนะ ทุกวันนี้ก็ไม่รู้จะบอกคนอื่นยังไง เพราะบริบทของแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน เราก็ไม่รู้จะเป็นตัวอย่างให้คนอื่นได้ยังไง แต่เราจะพูดเสมอว่าเมื่อไหร่ที่คุณคิดว่าคุณเป็นเจ้าของเขา ความสัมพันธ์นั้นมันจะสั้น

บ๊อบบี้ : กว่าเราจะมาถึงจุดนี้ คู่เราก็ผ่านการทะเลาะกันเหมือนคนปกติ เราต้องคุยกันเพื่อแก้ปัญหา เมื่อไหร่ที่คนใดคนหนึ่งเงียบ มันจะประทุอยู่ภายในแล้วรอวันระเบิด ถ้าไอไม่สบายใจอะไร ก็จะบอกหนูแหม่ม หนูแหม่มไม่สบายใจก็จะบอกไอ

หนูแหม่ม : เราผ่านการคุย การทะเลาะ การตกลงกันต่างๆ เราผ่านมาแล้วทุกขั้นตอน จนมาคิดได้ว่า เราต้องรู้สึกว่าเขาเป็นเพื่อนเรา และเราไม่ใช่เจ้าของเขา แต่อีกคนก็ต้องทำให้ไว้ใจด้วยนะ อย่างบ๊อบบี้เขาชอบปาร์ตี้ มีเพื่อนเยอะ เราก็จะมีลิมิตให้เขา

แหม่มบ๊อบ

เหมือนให้อิสระซึ่งกันและกัน ?

บ๊อบบี้ : เวลาไอจะไปไหน ไอก็จะบอกเขา และจะไม่เอาปัญหามากระทบหนูแหม่ม

หนูแหม่ม : แต่ถ้าเขาไม่บอกแล้วเรามารู้ทีหลัง ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนะ ก็แสดงว่าเขาไม่อยากที่จะบอกเรา คนอื่นอาจจะโกรธ แต่เราจะแซวเขามากกว่าว่า แหม ไม่บอกกันเลยน๊า พูดดีๆ แล้วมันจะกลายเป็นเรื่องเบา เราต้องมีวิธีการพูด หนูแหม่มกับบ๊อบบี้เราจะไม่ยุ่งโทรศัพท์กัน ถ้าจะดูก็จะขอเขาดู ไม่แอบหยิบ มีแต่บ๊อบบี้แหละที่มาแอบดูของเรา (หัวเราะ)

บ๊อบบี้ : ก็จะเอารูปให้หนูแหม่มดูว่าไปนี่มานะ ไปกับใครบ้าง เขาก็จะดูแล้วบอกคนนี้สวย คนนี้ไม่สวย

หนูแหม่ม : บ๊อบบี้เขาจะบอกตลอดว่า ผมจะไปที่นี่นะแหม่ม มีผู้หญิงไปด้วยนะ หรือบางทีไปดูคอนเสิร์ตยังมาขอซื้อตั๋วให้ผู้หญิงเลย หนูแหม่มก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะหนูแหม่มไม่ชอบไปดูคอนเสิร์ต ความสุขของคนนึงมันต้องเป็นความสุขของอีกคนด้วยเหรอทั้งที่อีกคนไม่ชอบ ทำไมเขาต้องเอาเราไปผูกมัด และทำไมเราต้องห้ามเขาไม่ให้ไปเพราะเราไม่ชอบ สุดท้ายจะไม่มีใครได้ความสุขเลย ถ้าเรามัวแต่ดึงดันว่าเธอต้องมาอยู่ในความสุขของฉัน

บ๊อบบี้ : เราไม่ได้ไปซื้อคอนโดให้เขา เราแค่ไปดูคอนเสิร์ตกัน หรือบางทีไอจะไปกินซูชิ แต่แหม่มไม่ชอบกินปลาดิบ

หนูแหม่ม : เราก็ให้เขาไปกับแก๊งค์เขา เขาก็จะบอกว่าขอพาเพื่อนผู้หญิงไปด้วยได้มั๊ย เราก็ให้ไปได้ ก็เราไม่ชอบเราก็ไม่ไปกิน เราจะใช้ชีวิตสบาย เพื่อนเรามีความสุข เราก็มีความสุข

 

ในรายการกับในชีวิตจริงๆ แตกต่างกันไหม ?

หนูแหม่ม : เหมือนกันเลยค่ะ มีเฮฮา มีทะเลาะ

เคยทะเลาะกันรุนแรงไหม ?

หนูแหม่ม : 3 ปีแรก 5 ปี 7 ปี เราทะเลาะกันจนแทบจะกระโดดตึกตายมาแล้ว  เราทะเลาะกันรุนแรงมากๆ ตอนช่วงครบรอบ 5 ปีที่เราแต่งงานกัน เราทำอะไรเขาไม่ได้ ด้วยความที่ต่างคนต่างไม่เคยถูกสอนมาให้ทำร้ายกัน เราก็จะข่วนตัวเอง อยากกระโดดตึกตาย อยากวิ่งหัวชนข้างฝา มันเป็นเพราะเราอยากเป็นเจ้าของเขา เราผ่านมาได้เพราะเราคุยกัน เราบอกบ๊อบบี้ว่าไม่ไหวแล้วนะ

บ๊อบบี้ : อะไรที่แหม่มไม่ชอบ เราก็จะไม่ทำ ไม่พูดแบบนั้นอีก

เติมความหวานให้ชีวิตคู่ยังไง ?

บ๊อบบี้ : ทำกับข้าวให้แหม่มกินตอนเช้าทุกวัน

หนูแหม่ม : ไม่มีอะไรจะบอกรักได้ดีกว่านี้แล้ว และอีกอย่างหนึ่งคืออยู่ห่างกันบ้างจะทำให้คิดถึงกันมากขึ้นกว่าเดิม

บ๊อบบี้ : ตอนแรกเลยที่เราแต่งงานกัน วันรุ่งขึ้นผมต้องไปทำงานต่างประเทศ 6 เดือน คือแต่งเสร็จก็ห่างกันเลย ทำให้เรามาเจอกันอีกทีเรายิ่งประทับใจ

หนูแหม่ม : เขาขอไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อนก็ให้เขาไป แล้วเราก็ไปทำอะไรส่วนตัวของเรา มันก็จะพอดีกัน

เหตุผลที่ทำให้อยู่ด้วยกันมายาวนานถึงขนาดนี้ ?

หนูแหม่ม : เริ่มต้นจากความรัก และเราเลือกแล้วที่เราจะอยู่ด้วยกัน

บ๊อบบี้ : แหม่มเคยบอกไอว่า ผู้หญิงที่ไอพาไปกินข้าว แล้วบอกว่ารักไอน่ะ เขาโกหก

หนูแหม่ม : ถ้าผู้หญิงมาเกาะแกะบ๊อบบี้แล้วบอกว่า Love you all the time เชื่อเถอะว่าเขาโกหก ไม่มีใครรักยูได้ตลอดเวลาหรอก เราสองคนยังมีโกรธ มีเกลียด มีทะเลาะ คนเราต้องมีขาดความรักไปบางช่วงบางตอน อย่างไอนะ บางวันไอรักยูแทบตาย แต่บางวันไอก็เกลียดยูแทบตายเหมือนกัน นี่คือธรรมชาติของคน

แนะนำคู่รักที่คิดจะแต่งงาน

บ๊อบบี้ : อย่าแต่งงานเพราะคิดว่าจะได้ผลประโยชน์จากเขา

หนูแหม่ม : อย่าแต่งงานเพราะเราจะเปลี่ยน อย่าแต่งงานเพราะเขาจะเปลี่ยน หนูแหม่มตัดสินใจแต่งงานกับคนที่เขารักหนูแหม่ม ไม่ใช่กับคนที่หนูแหม่มรักเขามาก สมมติว่าเรามีตัวเลือกในวันที่เราต้องเลือก ระหว่างคนที่เขารักเรากับคนที่เรารักเขา หนูแหม่มจะเลือกคนที่เขารักหนูแหม่ม เพราะถ้าเขารักเราเขาจะดูแลเรา แต่ถ้าเราเลือกคนที่เรารักเขามาก เราจะต้องการครอบครองเขา ต้องการเป็นเจ้าของเขา อันนี้คือเทคนิคในการเลือกคู่ชีวิตของหนูแหม่ม

บ๊อบบี้ : ผมจะไม่เลือกคนที่หน้าตา แต่จะดูที่จิตใจ จิตใจเขาต้องดี ตอนที่เจอหนูแหม่ม ไอมีผู้หญิงสวยกว่า หุ่นดีกว่า แต่ว่าไออยู่กับหนูแหม่มแล้วไอสบายใจ และเราต้องเลือกคู่ชีวิตที่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น ดึงกันขึ้น ไม่ใช่พากันลง ก่อนแต่งงานและหลังแต่งงานเราต้องเหมือนเดิม บางคนหลังจดทะเบียนสมรสปุ๊ป เปลี่ยนเลย ห้ามให้คู่ของเราไปเที่ยว ห้ามกินเหล้า ห้ามนู่นนี่นั่น

หนูแหม่ม : ถ้าเขาดื่มเหล้ามาก สูบบุหรี่จัด เราต้องดูตั้งแต่ตอนเลือกเขาแล้ว ถ้าเขาผ่านเกณฑ์มาได้ ก็น่าจะไม่มีปัญหาในอนาคต บางคนเจ้าชู้มากรู้ทั้งรู้แต่ก็ยังจะเลือกเขา ถ้าคุณคิดแบบนี้คุณต้องยอมรับว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต เขาจะหายเจ้าชู้หลังจากแต่งงานกับคุณมั๊ย หนูแหม่มว่าเป็นไปไม่ได้ และที่สำคัญต้องคิดว่าเป็นเพื่อนกัน อย่าคิดว่าเป็นผัวเมีย เพราะผัวเมียเป็นตั้งแต่เราเมคเลิฟกันแล้ว แต่ถ้าคุณสามารถทำให้อยู่ด้วยกันแบบเพื่อนได้แล้วคุณจะอยู่ด้วยกันได้นาน

คู่รักแหม่ม-บ๊อบคือ?

หนูแหม่ม : เป็นเพื่อน

นับถือความคิดของคู่คุณหนูแหม่มและคุณบ๊อบบี้จริงๆค่ะ ใครที่มีปัญหาในชีวิตคู่ลองนำไปปรับใช้ดูให้เข้ากับคู่ของตัวเองกันนะคะ

คู่รัก

แหม่มบ๊อบ

เครดิตภาพ : pinterest, ไอจี @mamsurivipa

ติดตามไอเดียและเทคนิคต่างๆเกี่ยวกับงานแต่งงานได้ที่ praewwedding

Recommended