3 เทคนิคเลือกชุดแต่งงาน ง่ายๆ ให้เหมาะกับรูปร่างและสไตล์ส่วนตัว

วันสำคัญใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ธีมงานก็มีแล้ว เพื่อนเจ้าสาวก็มีแล้ว การ์ดแต่งงานกับของชำร่วยก็พร้อม แต่ชุดแต่งงานนี่สิที่ว่าที่เจ้าสาวยังตัดสินใจเลือกไม่ได้สักที แถมแฟชั่นบนรันเวย์เจ้าสาวก็ขยันปล่อยคอลเลคชั่นมากระชากใจทุกที ยิ่งมีเวลาเป็นตัวกดดันเจ้าสาวก็ยิ่งคิดหนักเข้าไปอีก แต่ก่อนที่สาวๆ จะตกลงปลงใจกับชุดไหนสักชุด แพรว wedding มี 3 เทคนิค เลือกชุดแต่งงาน แบบยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวมาฝาก คือเป็นชุดที่ทันสมัยแถมสะดวกสบายต่อการเคลื่อนไหวด้วย

1. เตรียมพร้อมสำหรับการฟิตติ้ง

การเลือกชุดแต่งงานหรือการไปฟิตติ้งเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ว่าที่เจ้าสาวจะต้องวางแผนล่วงหน้าไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ แต่ก่อนที่ว่าที่เจ้าสาวจะเลือกชุดแต่งงานจะต้องมีสองสิ่งนี้ก่อนคือ วันที่จัดงานและสถานที่จัดงาน

เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่เจ้าสาวจะเลือกชุดแต่งงานโดยที่ยังไม่สามารถมองเห็นตัวเองในสถานที่นั้นได้ ซึ่งส่วนมากสไตลิสต์หรือร้านชุดจะปลาบปลื้มเป็นพิเศษหากว่าที่เจ้าสาวมาพร้อมกับธีมงานหรือสถานที่ หรือมาพร้อมกับไอเดียรูปแบบชุดแต่งงานที่อยากได้ เพราะจะทำให้ร้านชุดหรือสไตลิสต์เห็นภาพชัดเจนและเป็นไปในทางเดียวกับเจ้าสาว และสามารถนำสิ่งนั้นไปพัฒนาให้เกิดเป็นชุดแต่งงานที่เจ้าสาวอยากได้ต่อไป

และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ จำนวนคนที่จะติดตามเจ้าสาวไปฟิตติ้ง ซึ่งน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี โดยส่วนมากแล้วจำนวนผู้ติดตามที่กำลังดีคือ 2 คนไม่เกินนี้ ซึ่งคนที่เจ้าสาวเลือกมาจะต้องเป็นคนที่สามารถให้คำแนะนำ ติชมเจ้าสาวได้ และเป็นคนที่เจ้าสาวไว้ใจ ที่สำคัญหากเลือกคนที่มีรสนิยมทางด้านแฟชั่นไปด้วยจะช่วยให้การฟิตติ้งนั้นผ่านฉลุย

และสิ่งสำคัญสำหรับคนที่จะมาฟิตติ้งกับเจ้าสาวอีกอย่างก็คือ คนๆ นั้นจะต้องเป็นคนที่รู้จักเจ้าสาว และเข้าใจสไตล์ส่วนตัว ความชอบ และรสนิยมของเจ้าสาวเป็นอย่างดี เพื่อที่พวกเขาจะได้สามารถช่วยคุณเลือกชุดที่สมบูรณ์แบบสำหรับวันสำคัญได้อย่างไร้ที่ติ

ซึ่งเหตุผลที่ไม่ควรมีผู้ติดตามเจ้าสาวไปฟิตติ้งเยอะจนเกินไปก็เพราะว่า มากคนเท่าไหร่ก็มากความคิด มากความคิดเห็นเท่านั้น จนอาจสร้างความสับสนให้กับเจ้าสาวได้ทำให้ไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ซึ่งสถานการณ์นี้มันเหมือนว่าที่เจ้าสาวกำลังคัดคนออก แต่อย่าไปกลัวหรือกังวลค่ะ เพราะคนที่ไม่ได้ไปฟิตติ้งกับเจ้าสาว คุณสามารถให้พวกเขามีส่วนร่วมในเรื่องอื่นๆ ในงานแต่งงานของคุณได้ตามความถนัดของแต่ละคน เท่านี้พวกเขาก็ได้มีความรู้สึกว่าตัวเองมีส่วนร่วมแล้ว

2. ให้ความใส่ใจเรื่องบุคลิกและสไตล์ส่วนตัว

บุคลิกภาพและสไตล์ของเจ้าสาวเป็นสิ่งสำคัญที่แท้จริงที่จะทำให้เจ้าสาวได้ชุดแต่งงานที่สมบูรณ์แบบ บุคลิกภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาเพื่อให้แน่ใจว่าชุดแต่งงานชุดนี้ดูเป็นตัวตนของเจ้าสาวมากที่สุด

เช่น หากคุณเป็นว่าที่เจ้าสาวจอมเนี้ยบที่ไม่อยากให้มีรอยยับย่นอยู่บนชุดแต่งงาน คุณอาจจะต้องใส่ใจในการเลือกเนื้อผ้า เช่น เลือกเป็นผ้าลูกไม้ที่นั่งหรือเดินเท่าไหร่ก็ไม่เผยให้เห็นรอยยับในวันสำคัญ หรือหากคุณเป็นว่าที่เจ้าสาวสายปาร์ตี้ที่รักการแดนซ์ ก็อาจจะต้องเลือกชุดแต่งงานที่มีเนื้อผ้าบางเบาเพื่อให้สะดวกต่อช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ไปเลย เป็นต้น

3. เลือกรูปทรงชุดแต่งงานที่เสริมจุดเด่นของรูปร่าง

สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ไม่ควรมองข้ามคือ การเลือกชุดแต่งงานให้เหมาะกับรูปร่าง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อให้เจ้าสาวรู้สึกสะดวกสบายและมั่นใจในวันงาน

เช่น หากคุณเป็นเจ้าสาวหน้าอกใหญ่ อาจจะต้องเลือกสวมชุดชั้นในหรือชุดแต่งงานที่มีซับในที่รองรับและพอดีกับขนาดหน้าอก และอาจเลือกช่วงเนคไลน์ที่สามารถพรางหรือเสริมให้ช่วงอกของคุณดูดีได้แบบไม่โป๊จนเกินงาม เป็นต้น เพราะฉะนั้นในการเลือกชุดแต่งงานเจ้าสาวจะต้องไม่ลืมเลือกชุดที่เข้ากับสรีระของตัวเองด้วย

>>>> เทคนิคเลือกชุดแต่งงานให้เข้ากับรูปร่าง สวยด้วยแถมเป๊ะปั๊วะไปอีก <<<< คลิกเลย!

แต่ไม่ว่าจะยังไง สุดท้าย เราก็อยากให้ว่าที่เจ้าสาวได้รู้สึกสนุกและมีความสุขไปกับทุกขั้นตอนและช่วงเวลาพิเศษๆ แบบนี้ที่จะเกิดแค่ครั้งเดียวในชีวิต เชื่อได้เลยว่าโมเม้นต์นี้จะเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาดีๆ ที่เจ้าสาวจะเก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆ และแชร์ให้กับคนอื่นไปได้อีกนานเลยทีเดียว

ภาพ pinterest, pexels.com

Recommended