ครบสูตรทุกขั้นตอนกับ พิธีแต่งงานไทย แบบสเต็ปบายสเต็ป

หนึ่งในปัญหาคับอกของว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวคือ พิธีแต่งงานไทย เพราะมีหลายขั้นตอน ทั้งยังหาคนที่ “รู้งาน” ค่อนข้างยาก จะทำอะไรก็กลัวจะผิดจะพลาดไปหมด เราเข้าใจคุณผู้อ่านดี จึงขอช่วยแบ่งเบาด้วยสกู๊ปพิธีแต่งงานแบบไทยตามสมัยนิยมมาให้ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ใช้เป็นแนวทาง

เจรจาสู่ขอ

ตามธรรมเนียมไทยนั้นเมื่อหมายมั่นจะขอลูกสาวบ้านไหน พ่อแม่ฝ่ายชายจะต้องหา “เถ้าแก่” ซึ่งก็คือผู้หลักผู้ใหญ่ที่น่านับถือไปทาบทามผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง ทางฝ่ายหญิงจึงต้องถามไถ่ถึงนิสัยใจคอของว่าที่เจ้าบ่าวว่าเป็นคนดีไหม ขยันขันแข็งไหม ฯลฯ เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถดูแลลูกสาวของตัวเองได้ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของเถ้าแก่ฝ่ายชายที่จะต้องช่วยรับรองให้ เดี๋ยวนี้ว่าที่พ่อตาแม่ยายอาจจะรู้จักมักจี่ว่าที่ลูกเขยกันอยู่แล้ว แต่ก็ยังคงถามตามธรรมเนียม ประมาณว่าได้ยินผู้ใหญ่รับประกันแล้วสบายใจขึ้น (แม้จะรู้ว่าเถ้าแก่ก็ต้องพูดแต่สิ่งดี ๆ ก็ตาม) เมื่อฝ่ายหญิงตอบตกลงจึงจะเป็นการเจรจาเรื่องสินสอดทองหมั้นและเตรียมหาฤกษ์งามยามดีรอไว้

พิธีหมั้น

เมื่อถึงฤกษ์หมั้น ฝ่ายชายจะจัดพานขันหมากหมั้นซึ่งประกอบด้วยหมาก พลู และของหมั้นอื่น ๆ ตามที่ตกลง ผูกผ้าห่อมาอย่างดี พานแหวน กรณีให้บ้านพร้อมที่ดิน อาจทำกิมมิกเก๋ ๆ ด้วยการปั้นขนมปังสีเป็นรูปบ้านน่ารักๆ วางมาด้วยก็ได้ ท้ายขบวนตามมาด้วยพานขนมมงคลอีกตามสมควรไปยังบ้านฝ่ายหญิงโดยไม่มีการแห่เหมือนขันหมากแต่ง (ยกเว้นบางพื้นที่) พอผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงเปิดดูข้าวของว่าถูกต้องครบถ้วนก็ยกไปเก็บแล้วตามตัวเจ้าสาวออกมารับหมั้น

สมัยนี้นิยมหมั้นเช้าแต่งเย็น ก็จะยุบขั้นตอนนี้ไปรวมไว้ในวันแต่งเลย หรือถ้าจะมีการหมั้นก่อนก็อาจแค่หยิบกล่องแหวนหมั้นออกมาสวมโดยไม่มีขันถาดหมากพลู ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับการตกลงกัน

 

แห่ขันหมาก

ฝ่ายเจ้าบ่าวจะตั้งขบวนขันหมากแห่มายังบ้านเจ้าสาวอย่างครึกครื้นเพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าลูกสาวบ้านนี้ขายออก เอ๊ย ออกเรือนแล้วจ้า

กั้นประตูเงินประตูทอง

คราวนี้ละ บรรดาญาติ ๆ และพื่อน ๆ ของเจ้าสาวมักจะนำสายสร้อยบ้าง มาลัยดอกไม้บ้าง มากั้นเป็นประตูเงินประตูทองเพื่อเรียกค่าผ่านทาง สมัยนี้เพื่อนที่สนิทกันก็อาจแกล้งให้เจ้าบ่าวทำอะไรเพี้ยนๆ เพื่อพิสูจน์รักแท้เช่น ตะโกนบอกรักเจ้าสาว ฯลฯ เป็นที่สนุกสนานแต่จากประสบการณ์ของ เราขอแนะนำว่า ควรให้อยู่ในขอบเขตของความเหมาะสม เพราะถ้าแกล้งมากไปทั้งขบวนอาจยกขันหมากรอจนเซ็ง หรือบางงานมีประตูเยอะหลายสิบประตูแขกผู้ใหญ่ก็ต้องรอนาน จนบางครั้งต้องส่งคนออกมาเตือนว่าจะเลยฤกษ์แล้วก็มี เอาพอหอมปากหอมคอ แหม…เจ้าสาวรอผู้ชายคนนี้มาทั้งชีวิตแล้ว ให้พวกเขาได้สมรักกันเสียทีเถอะค่า

ชิญขันหมาก

หลังฝ่าด่านอรหันต์มาได้แบบเหงื่อตกฝ่ายเจ้าสาวจะส่งเด็กหญิงหน้าตาน่ารักถือพานเชิญขันหมากออกมาต้อนรับ เถ้าแก่ฝ่ายเจ้าบ่าวจะต้องรับโดยหยิบหมากมาเคี้ยวพอเป็นพิธีจึงคืนพานให้พร้อมกับซองเงินหรือของรางวัลเล็กน้อย จากนั้นเด็กหญิงจะนำฝ่ายเจ้าบ่าวไปยังที่นั่งที่จัดไว้

พิธีนับสินสอด

เมื่อวางพานเรียบร้อย ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวจะเริ่มจากการเปิดพานขันหมากเอกแล้วจึงเปิดพานสินสอดเพื่อทำการตรวจนับสินสอดว่าครบถ้วนไหม (ออกแนวแอ๊คติ้งมากกว่า เพราะเงินเยอะมาก นับเสร็จคงค่ำพอดี)
ส่วนใหญ่ฝ่ายชายจะใส่เงินเกินกว่าที่ตกลงกันเพื่อเป็นเคล็ดว่าต่อไปเงินทองจะได้งอกเงย จากนั้นผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจะโปรยถั่ว งา ข้าวตอก ดอกไม้ เพื่อสื่อถึงความเจริญงอกงาม จากนั้นคุณแม่เจ้าสาวจะทำการรวบผ้าเพื่อห่อสินสอดทั้งหมดแล้วยกขึ้นบ่าแล้วพูดเอาเคล็ดทำนองว่า “เงินหนักจริง ๆ คงจะมีเงินทองงอกเงยมากมาย”…ช็อตนี้เขินกันทุกราย ฝากแม่เจ้าสาวซ้อมท่าไว้ก่อน ถ่ายรูปแล้วจะได้ออกมาสวย

พิธีหมั้น

ส่วนใหญ่จะมีฤกษ์งามยามดีในการสวมแหวน ดังนั้นเมื่อได้ฤกษ์มาแล้วให้เผื่อเวลาไว้สักครึ่งชั่วโมงสำหรับตั้งต้นยกขบวนขันหมาก ครั้นได้เวลา ญาติฝ่ายเจ้าสาวจะไปตามตัวเจ้าสาวลงมานั่งเคียงข้างเจ้าบ่าวแล้วจึงค่อยสวมแหวน เมื่อสวมเสร็จเจ้าสาวจะกราบเจ้าบ่าวหนึ่งครั้ง แล้วเจ้าบ่าวจึงรับไหว้เบา ๆ เป็นนัยว่าฝากฝังตัวให้เธอดูแลฉันนับจากนี้ เคล็ดลับในการสวมแหวนคือ ควรสวมช้า ๆ เมื่อสุดถึงโคนนิ้วให้ค้างไว้เอียงมือ 45 องศา และหันมายิ้มให้กล้อง อย่ามัวสบตากันเพลิน ไม่อย่างนั้นจะมีเสียงเรียกร้องจากกองทัพช่างภาพให้รีเพลย์ซ้ำจนเขินหนักเข้าไปใหญ่

พิธีสงฆ์

คู่บ่าว – สาวนิยมนิมนต์พระมาสวดมนต์ให้พรเพื่อความเป็นสิริมงคล ถวายเพล รับศีล รับพร ประพรมน้ำมนต์ พร้อมเก็บน้ำมนต์ก้นบาตรไว้ใช้ในพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์

พิธีไหว้ผู้ใหญ่

จากนั้นบ่าว – สาวจะต้องทำพิธีไหว้ผู้ใหญ่ โดยยกพานธูปเทียนแพและพานผ้าไหว้ (จะเป็นผ้าขนหนู ผ้าไหม หรือผ้าพื้นก็ได้) กราบผู้ใหญ่ที่เดินเข้ามาทีละคู่ตามลำดับอาวุโส โดยผู้ใหญ่จะอวรพรพร้อมให้ของรับไหว้เป็นของมีราคาตามฐานะ เช่น โฉนดบ้าน โฉนดที่ดิน ทอง เงิน ฯลฯ ธรรมเนียมบางแห่งอาจมีการผูกข้อมือด้วยสายสิญจน์ขณะอวยพร (สำหรับคู่ที่มีผู้หลักผู้ใหญ่จำนวนมาก อาจขยับขั้นตอนนี้ไปไว้หลังพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์แขกท่านอื่นจะได้ไม่ต้องรอรดน้ำนานจนเกินไป)

พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์

ในที่สุดก็มาถึงช่วงไฮไลต์เสียที แม้จะเหนื่อยแค่ไหน แต่เชื่อว่าความสุขของคู่บ่าว – สาวจะทะลักล้นจนกลบความอ่อนล้าได้อย่างมิดชิด แต่ถึงอย่างไรก็อย่าลืมอาศัยช่วงชุลมุนตบแป้งเติมปากให้ฉ่ำหน่อยนะคะ เดี๋ยวจะแพ้บรรดาเพื่อนเจ้าสาวด้านหลังที่เติมความสวยกันเป็นระยะมาตั้งแต่เช้า

เมื่อถึงฤกษ์ที่กำหนด บ่าว – สาวจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยแล้วก็ไปนั่งบนตั่งคู่กันหญิงนั่งซ้าย ชายนั่งขวา มีเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวยืนด้านหลังประธานคล้องพวงมาลัย เจิมหน้าผากและสวมมงคลตามลำดับ จากนั้นจึงหลั่งน้ำพระพุทธมนต์พร้อมกล่าวอวยพร ต่อด้วยพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ และแขกที่มีอาวุโสมากกว่าคู่บ่าว – สาว ส่วนน้องๆ หลานๆ ไม่ต้องรดค่ะ ขืนรดกันทั้งงาน บ่าว – สาวอาจเหน็บกินได้ (หากน้ำมนต์มีน้อย ให้ตักน้ำสะอาดใส่ขันน้ำพานรองแล้วค่อยรินน้ำมนต์ลงไปผสม)

หลังจากเสร็จพิธี ผู้ใหญ่จะปลดด้ายมงคลออกจากศีรษะบ่าว – สาว โดยเชื่อกันว่า ถ้าใครได้ปลดมงคลและลุกจากตั่งก่อนจะได้เป็นใหญ่ในครอบครัว แน่ะ! รู้นะว่าเตรียมชิงลุกก่อนกันเป็นแถว

 

งานเลี้ยง

ส่วนใหญ่นิยมจัดเลี้ยงฉลองสมรสแบบสากลในช่วงเย็นอย่างที่เราคุ้นเคยกันดีแต่ก็มีบางคู่ที่เลี้ยงพระเพลแล้วต่อด้วยการจัดเลี้ยงมื้อกลางวันหลังจากพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์เลยแล้วค่อยไปอาฟเตอร์ปาร์ตี้มัน ๆ กันในหมู่เด็ก ๆ ตอนเย็น หรือจะจบแค่นี้แล้วเอางบจัดเลี้ยงไปฮันนีมูนรอบโลกก็ไม่ผิดแต่อย่างใด

พิธีปูเตียงเรียงหมอน (ส่งตัวเข้าหอ)

แล้วก็ถึงเวลาที่บ่าว – สาวรอคอยนั่นคือการส่งตัวเข้าหอ ซึ่งจะต้องผ่านพิธีปูเตียงเรียงหมอนเสียก่อน โดยเชิญคู่สามีภรรยาอาวุโสที่แต่งงานครองเรือนกันมานานและมีลูกหลานดีทุกคนมาปูที่นอนและเรียงหมอนให้ นัยว่าจะได้ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่เหมือนท่าน

ด้านข้างที่นอนจะวางพานของมงคลซึ่งประกอบด้วยฟักเขียว แมวคราว หินบดยาและถุงเงิน ถุงทองบรรจุถั่วเขียว งาดำ ข้าวตอก ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย หรือดอกไม้ที่มีชื่อเป็นมงคล สื่อความหมายว่าเย็นเหมือนฟัก หนักแน่นเหมือนแฟง แข็งแกร่งเหมือนหินบดยา เจริญงอกงามเหมือนถั่วงา

จากนั้นคู่สามีภรรยาอาวุโสจะได้รับเชิญให้นอนบนเตียง โดยผู้หญิงนอนซ้าย ผู้ชายนอนขวา ทำทีหลับแล้วตื่นขึ้นมาพูดสิ่งที่เป็นมงคล เช่น “ที่นอนนี้นอนสบายจริง ๆ ถ้าใครได้นอนคงจะมีแต่ความสุขความเจริญ” หรือ “ฝันว่ามีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง” ฯลฯ แล้วจึงพรมน้ำมนต์ โปรยข้าวตอกดอกไม้ เสร็จแล้วเจ้าสาวทำความเคารพเจ้าบ่าว กล่าวฝากตัวกันทั้งสองฝ่าย ญาติผู้ใหญ่ให้ศีลให้พร พร้อมโอวาทในการครองเรือน เป็นอันจบพิธี(คู่ที่ส่งตัวที่โรงแรมควรนำผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนใหม่ของตัวเองไปปูทับของโรงแรม เสร็จพิธีแล้วจะได้เก็บมาใช้ต่อที่เรือนหอ)

ขอย้ำอีกครั้งว่า ข้อมูลนี้เรียบเรียงมาสำหรับใช้เป็นแนวทางเท่านั้น หากลำดับพิธีของคุณไม่ตรงกับของเราก็ไม่ได้แปลว่าผิดเพราะธรรมเนียมปฏิบัติของแต่ละท้องถิ่นหรือแต่ละครอบครัวนั้นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความเชื่อและความพึงพอใจของแต่ละครอบครัวเป็นสำคัญ

>> ดูข้อมูลเกี่ยวกับพิธีแต่งงานไทยอื่นๆ เพิ่มเติม คลิกเลย! <<

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก createweddingplanner.com

Recommended