สิ่งที่ต้องเช็ก..เมื่อไปเซอร์เวย์สถานที่จัดงานแต่งงานมีอะไรบ้าง กูรูมีคำตอบ

จะมีสิ่งใดบ้างน้าที่คุณต้องเช็กเมื่อไปเซอร์เวย์ สถานที่จัดงานแต่งงาน ?

นี่คงจะเป็นคำถามของว่าที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวหลายคู่ที่กำลังจะไปเซอร์เวย์สถานที่แต่งงานกัน เพราะการไปดูสถานที่ที่จะใช้จัดงานแต่งงานไม่เพียงแค่เลือกสถานที่มีความสวยงาม บรรยากาศดี และถูกใจคุณทั้งคู่เพียงเท่านั้นนะคะ เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่คุณจำเป็นต้องคำนึงถึงเผื่อแขกผู้มาร่วมงานของพวกคุณด้วย แล้วทีนี้จะสามารถขอคำปรึกษาจากใครได้บ้างล่ะ? อ่ะแน่นอน เมื่อคุณเข้ามาอ่านเราก็จะไม่ทำให้คุณผิดหวังค่ะ วันนี้เรามีคำแนะนำจากเวดดิ้งแพลนเนอร์มืออาชีพเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องสอบถามยามที่คุณไปดู สถานที่จัดงานแต่งงาน ซึ่งจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้นตามมาดูกันเลยยย

สถานที่จัดงานแต่งงาน

1. จำนวนแขกที่จะมาร่วมงาน

สอบถามกับทางทีมงานผู้ดูแลสถานที่ว่าสถานที่นี้สามารถรองรับแขกได้ทั้งหมดกี่คน เพราะจำนวนแขกถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกสถานที่ ควรเลือกสถานที่ที่มีความพอดีกับแขกของคุณ รองรับได้เพียงพอหรือไม่มีขนาดใหญ่เกินไป ถ้าคนที่จะมาร่วมงานแต่งงานของพวกคุณมีไม่มากก็อาจะทำให้งานแต่งงานกับแขกขาดปฏิสัมพันธ์กัน พื้นที่ดูโล่งและงานก็จะกร่อยได้ในที่สุด หลังจากนั้นให้คำนึงถึงการวางผังงานแต่งงานว่าของต่างๆ จะสามารถวางไว้ส่วนไหนของสถานที่ได้บ้าง ผังโต๊ะที่นั่งสำหรับแขกสามารถรองรับได้กี่โต๊ะ และเมื่อจัดตกแต่งทุกอย่างในงานแล้วแขกของคุณจะสามารถเดิน ยืน นั่งได้สะดวกมากแค่ไหน ไม่ใช่ทุกอย่างดูแออัดไปหมดก็จะลำบากทั้งแขกและคุณเจ้าสาวที่ต้องสวมใส่ชุดแต่งงานสุดอลังการด้วยนะคะ

2. ค่านำเข้าคืออะไร?

ค่านำเข้าคือ สิ่งที่คุณต้องชำระเงินเพิ่มเติมหากไม่ได้ใช้ออแกไนซ์ของทางสถานที่ที่จัดหามาให้ หรือเมื่อคุณเลือกจองสถานที่เพียงอย่างเดียวแล้วหาออแกไนซ์มาเองจากข้างนอก เพื่อมาดูแลการจัดงานแต่งงานให้กับคุณ ทางสถานที่ก็จะมีการเรียกเก็บค่านำเข้าออแกไนซ์เพิ่มเติม รวมไปถึงค่าจัดตกแต่งสถานที่โดยบุคคลข้างนอกด้วยเช่นกัน ส่วนทางโรงแรมจะมีค่านำเข้าในส่วนของอาหารหากคุณเลือกใช้บริการโต๊ะจีนจากข้างนอกไม่ได้ใช้บริการอาหารของโรงแรม แต่ส่วนใหญ่แล้ว 90% ของโรงแรมในกรุงเทพฯ จะมีกฎให้ใช้บริการอาหารจากทางโรงแรมเท่านั้น เนื่องจากต้องการควบคุมมาตรฐานอาหารและสร้างความอุ่นใจว่าอาหารจะถูกหลักอนามัยแน่นอน ดังนั้นถ้าคุณตกลงปลงใจว่าจะเอาสถานที่นี้ ก่อนเซ็นสัญญาก็ควรถามข้อมูลเรื่องค่านำเข้าให้ดีก่อนนะคะ

3. ความสะดวกสบาย

อันดับแรกดูเรื่องวันเวลาที่คุณได้ฤกษ์งามยามดีมาว่าสถานที่ว่างและสะดวกให้บริการคุณอย่างเต็มที่หรือไม่ จากนั้นดูเรื่องความสะดวกสบายในการให้บริการต่างๆ ว่าทางสถานที่มีบริการอะไรในวันงานแต่งงานให้บ้าง เพราะสถานที่ส่วนใหญ่ที่มีราคาสูงมักจะมีการบริการที่ดีเลิศจนคุณสามารถไว้วางใจได้เลย และสุดท้ายแต่ยังไม่ท้ายสุดคือความสะดวกสบายเรื่องการเดินทาง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แขกอยากมางานด้วยนะคะ อย่างเช่น คุณเลือกจัดงานในวันหยุดใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยว การเดินทางด้วยรถยนต์อาจไม่สะดวกเท่าไรนัก เพราะรถติด การจราจรคับคั่ง ไม่มีรถไฟฟ้าหรือรถไฟใต้ดินผ่าน แขกผู้ใหญ่บางท่านก็อาจจะไม่สะดวกที่จะออกไปไหนมาไหนในช่วงเวลาแบบนี้นะคะ

4. การตรวจเช็กอุปกรณ์ต่างๆ

ในข้อนี้ถ้าคุณจ้างออแกไนซ์ก็จะง่ายขึ้นมากเลยค่ะ เพราะทีมออแกไนซ์มีประสบการณ์การจัดงานแต่งงานมาเยอะ จึงรู้ว่าควรตรวจสอบอุปกรณ์สิ่งใดบ้าง บางชิ้นใช้ยังไง โดยต้องอาศัยผู้รู้ในเรื่องนั้นๆ เช่น อุปกรณ์เครื่องเสียง บ่าว-สาวบางคู่ก็ไม่ได้มีความรู้ในเรื่องนี้เสมอไป เมื่อไปดูสถานที่จึงต้องรบกวนผู้รู้ช่วยตรวจดูว่ายังสามารถใช้การได้เป็นปกติหรือไม่ เครื่องมีส่วนไหนช็อต เสียงเพี้ยนหรือเปล่า หรือสถานที่บางแห่งคุณสามารถพูดคุยกับทีมเซลล์ให้ช่วยตามผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนที่จะนำมาใช้ในงานเพื่อให้แน่ใจว่าจะปลอดภัยไม่เกิดอันตรายร้อยเปอร์เซ็นต์

5. เมนูอาหารที่จะเสิร์ฟในงาน

หากคุณเลือกใช้บริการอาหารของสถานที่ที่คุณจะเลือก คุณควรถามถึงเมนูอาหารด้วยว่าสามารถเลือกได้กี่เมนูและมีเมนูอะไรให้คุณเลือกบ้าง ที่สำคัญมีบริการเทสต์รสชาติอาหารก่อนตัดสินใจไหม ถ้าสามารถเทสต์รสชาติได้ให้คุณลองชิมเมนูที่คิดว่าจะเลือกเสิร์ฟในงาน โดยคำนึงถึงแขกส่วนใหญ่ที่จะมาร่วมงานด้วยว่าอยู่ในวัยไหน เพราะถ้างานของคุณส่วนใหญ่แขกร่วมงานเป็นผู้ใหญ่ มีความจำเป็นอย่างมากที่รสชาติอาหารต้องอร่อย ถูกปาก การมางานแต่งงานของผู้ใหญ่ที่มีอายุส่วนมากก็ไม่ค่อยจะโฟกัสบรรยากาศหรือการตกแต่งสถานที่เท่าไรนัก แต่จะประเมินงานแต่งงานของคุณจากรสชาติอาหารเป็นหลัก ซึ่งคุณก็ต้องเข้าใจเรื่องความต่างของวัยด้วย เจ้าบ่าว-เจ้าสาวบางคนแม้จะถูกใจสถานที่มากกกก แต่ถ้าลองชิมอาหารแล้วรู้สึกไม่ประทับใจถึงกับเปลี่ยนสถานที่ก็มีมากนะคะบอกเลย

เมื่อคุณตัดสินใจเลือกสถานที่จัดงานแต่งงานได้แล้ว สนใจมาเซฟคอร์สกันหน่อยมั้ย? เพื่อที่งบการจัดงานแต่งงานของคุณจะได้ไม่บานปลาย เพราะหากลดค่าใช้จ่ายในส่วนของสถานที่ได้ คุณอาจมีเงินเหลือเก็บไว้ฮันนีมูนอีกด้วยน้า สามารถมาเรียนรู้วิธีจัดการงบประมาณค่าสถานที่ได้ใน >>> เคล็ด(ไม่)ลับอีกต่อไป 5 วิธี ลดค่าใช้จ่ายสถานที่จัดงานแต่งงานของคุณ <<< คลิกเลย!

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : คุณเอฟ Wedding Planner – Hug Wedding Planner
ภาพจาก : bakersranch.com

Recommended