1 เดือนก่อนวันแต่ง กับ 7 สิ่งที่ห้ามทำก่อนแต่งงานบนผิวหน้าของคุณ

1 เดือนก่อนแต่งงาน ถือเป็นโค้งสุดท้ายของการเตรียมตัว มาดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้างที่ ห้ามทำก่อนแต่งงาน กับผิวหน้าของเราเด็ดขาดถ้าไม่อยากหน้าเยินช่วงใกล้วันงาน!

1 เดือนก่อน แต่งงาน ถือเป็นโค้งสุดท้ายของการเตรียมตัว เหล่าว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายคงเตรียมพร้อมกันไปเกือบๆ 80-90% แล้วใช่ไหมคะ? (เช็คดูซิ ว่าสิ่งเหล่านี้เราเตรียมไปหรือยัง?) นอกเหนือจากสิ่งต่างๆที่เจ้าสาวควรทำเพื่อเตรียมความสวยให้ตัวเองแล้ว เรายังต้องรู้ด้วยนะคะว่ามีอะไรบ้างที่ไม่ควรทำกับผิวหน้าของเรา เพราะถ้าพลาดขึ้นมาช่วงใกล้วันงานมากๆ คุณหมอก็แก้ให้ไม่ทันนะคะ! มาดูกันดีกว่าว่า 7 สิ่งที่เราแนะนำว่า อย่าทำกับผิวหน้า ช่วง 1 เดือนก่อน แต่งงาน มีอะไรบ้างค่ะ

แต่งงาน ความงามเจ้าสาว1. เริ่มรักษาสิว เพราะขั้นตอนการรักษาสิวในช่วง  1-2 เดือนแรกนั้น อาจจะมีอาการสิวเห่อมากกว่าปกติในกรณีที่คุณหมอต้องการขับสิวใต้ผิวหนังออกมา รวมทั้งยารักษาสิวบางประเภทที่ทำให้ผิวหน้าแห้งลอกเป็นขุย ถ้าหากคุณว่าที่เจ้าสาวมีปัญหาสิวเรื้อรังอยู่แล้ว ควรรีบไปหาคุณหมอผิวหนังเพื่อรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ดีกว่าช่วงใกล้วันแต่งงานค่ะ (แต่ในกรณีที่เกิดเป็นสิวอักเสบขึ้นมาช่วงใกล้วันงานมากๆ อันนี้เราแนะนำให้ไปหาคุณหมอนะคะ!)

2. Peeling หรือลอกผิวหน้า การลอกผิวหน้าด้วยสกินแคร์หรือสิ่งที่มีสารเคมีเพื่อผลัดเซลล์ผิวใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์ที่ดูไว้ใจได้แค่ไหนก็ไม่ควรทำในช่วง 1 เดือนก่อนแต่งงานค่ะ เพราะการสร้างเซลล์ผิวใหม่ของคนเราใช้เวลาประมาณ 1 เดือนพอดี แต่ช่วงระหว่างการผลัดเปลี่ยนเซลล์ชุดใหม่นี้ ผิวของเราจะอ่อนแอกว่าปกติ และถ้าหากเจอแสงแดด อาจจะทำให้เกิดจุดด่างดำหรือผิวไหม้มากกว่าเดิมได้ค่ะ

แต่งงาน ความงามเจ้าสาว

3. ลองสกินแคร์ใหม่ ช่วงนี้ควรยึดติดกับสิ่งที่ใช้อยู่แล้วจะดีกว่าค่ะ เพราะถ้าหากเกิดอาการแพ้กับกินแคร์ตัวใหม่ขึ้นมาจะไม่คุ้มกัน แต่ทั้งนี้ถ้าคุณว่าที่เจ้าสาวอยากลองสกินแคร์ตัวใหม่ ลองได้ แต่ควรลองตั้งแต่ก่อนแต่งงานเนิ่นๆ เช่น 1 ปี ถึง 6 เดือนก่อนแต่งงานดีกว่าค่ะ

4. ออกแดดจัด ช่วง  1 เดือนก่อนแต่งงาน งดไปเที่ยวทะเล ออกรอบตีกอล์ฟ หรือเล่นกีฬากลางแดดจ้าไปก่อนนะคะ เพราะถึงแม้ว่าเราจะทาครีมกันแดดดีแค่ไหน ผิวของเราก็อาจจะคล้ำลงกว่าปกติได้ และการฟื้นฟูสีผิวให้กลับมาดูกระจ่างใสเหมือนปกตินั้นใช้เวลานานกว่า 1 เดือนแน่ๆค่ะ

แต่งงาน ความงามเจ้าสาว

5. กัดสีผม เข้าใจว่าคุณว่าที่เจ้าสาวอาจจะอยากได้สีผมที่สว่างขึ้น แต่ถ้าคุณไม่ได้แน่ใจจริงๆว่านี่คือสีผมที่ใช่ที่สุดในสามโลก ให้ทำสีผมใหม่โดยเลี่ยงการกัดสีผมออกไปก่อน เพราะถ้าหากสีผมได้ถูกกัดออกไปแล้ว แล้วเราไม่ชอบสีผมที่ทำมาใหม่ การใส่สีเข้มลงไปเพื่อให้สีผมกลับมาดูเป็นธรรมชาติเหมือนในตอนแรกนั้นอาจจะช่วยได้แค่ชั่วคราว แต่เมื่อเราสระผมไปเรื่อยๆ สีเข้มก็จะค่อยๆหลุดออก กลายเป็นสีผมที่ถูกกัดค่อยๆเผยออกมาเหมือนเดิมค่ะ

6. ทำทรีตเม้นต์บางประเภท เช่น เลเซอร์อี เมทริกซ์ หรือทรีทเม้นต์ประเภทที่ทิ้งร่องรอยบนผิวหน้า เพราะร่องรอยเหล่านี้อาจจะจะใช้เวลาถึง 5-7 วันกว่าจะหายดี ทางที่ดีหากอยากทำอะไรในช่วงนี้ บอกคุณหมอให้ชัดเจนว่าเราแต่งงานวันที่เท่าไร และเราสามารถทำได้หรือไม่ จะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ จะดีกว่าค่ะ

7. บีบสิวเอง ใครที่เครียดจัดเรื่องการเตรียมงานจนสิวอักเสบขึ้นมาละก็ อย่าได้มันส์มือบีบสิวเองเชียวละคะ! เพราะนอกจากจะทิ้งรอยแดง รอยดำ ไว้ให้ช่างแต่งหน้าเจ้าสาวกุมขมับ หากมือเราไม่สะอาด แผลจากการบีบสิวอาจจะติดเชื้อและลุกลามไปเป็นสิวเม็ดที่สองและสามไปเรื่อยๆอีกได้

สุดท้ายแล้วนอกเหนือจาก 7 สิ่งต้องห้ามเหล่านี้ ว่าที่เจ้าสาวก็อย่าลืมทำใจให้สบาย หาวิธีคลายเครียดที่เหมาะกับตัวเองด้วยนะคะ เพราะสุขภาพจิตใจของว่าที่เจ้าสาวก็ส่งผลต่อผิวพรรณเช่นกันค่ะ

credit: lovecrear.com, fabmood.com

Recommended