ทรีตเม้นต์ เสริมความงามเจ้าสาวก่อนแต่งงาน อันไหนควรทำเมื่อไหร่ มาดูกัน

โบท็อกซ์ควรทำเมื่อไหร่? อยากไปเลเซอร์ผิวหน้าควรเริ่มตอนไหน? แพรวเวดดิ้งรวบรวมไทม์ไลน์ ทรีตเม้นต์ เจ้าสาว ก่อนแต่งงานมาให้แล้ว

การทำ ทรีตเม้นต์ เพื่อเตรียมความงามให้กับใบหน้าเจ้าสาว เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ว่าที่เจ้าสาวหลายคนเมื่อเซตวันแต่งงานแล้วจะรีบค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมกันรัวๆ เพราะวันสำคัญของเราทั้งทีก็อยากสวยเป็นพิเศษใช่ไหมคะ? แต่ปัญหาคือ ท่ามกลางคอร์สทรีตเม้นต์มากมายในตอนนี้ นอกจากจะไม่แน่ใจว่าควรจะทำอะไรดีแล้ว ยังไม่รู้อีกว่าเราควรจะเดินเข้าไปหาคุณหมอผิวหนังที่คลินิกเมื่อไรดี ถึงจะไม่ช้าเกินไปจนทำไม่ทัน หรือเร็วเกินไปจนเมื่อถึงวันแต่งงานผลลัพธ์อาจจะไม่เต็มที่เหมือนเดิมแล้ว เราจึงรวบรวม Timeline ทรีตเม้นต์และการรักษาผิวหน้าแต่ละชนิดที่เจ้าสาวสามารถทำได้ เรียงตามลำดับจากเนิ่นๆสุด ไปถึงใกล้วันแต่งงานที่สุด ซึ่งเราได้จากคำแนะนำของเหล่าคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ มาให้ว่าที่เจ้าสาวกันแล้วค่ะ

ทรีตเม้นต์
diva-in-me.com

1 ปีก่อนแต่งงาน

สำหรับว่าที่เจ้าสาวหรือเจ้าบ่าว ที่มีปัญหาสิวเรื้อรัง การรักษาสิวเพื่อให้สภาพผิวแข็งแรงขึ้นและลดการเกิดสิว เป็นอะไรที่ใช้เวลามากที่สุด คุณหมอจึงแนะนำให้รีบไปหาเสียแต่เนิ่นๆ นอกจากนั้นยารักษาสิวบางประเภทอาจจะทำให้ผิวหน้าแห้งลอกกว่าปกติ ถ้าหากไปรักษาใกล้วันแต่งงานเกินไป นอกจากจะหายไม่ทัน ผิวหน้าที่แห้งลอกเพราะได้รับผลข้างเคียงจากยารักษาสิวอาจจะทำให้ช่างแต่งหน้าเรากุมขมับเอาได้ค่ะ

6 เดือนก่อนแต่งงาน

ช่วงเวลานี้เหมาะสำหรับการทำทรีตเม้นต์ประเภทเลเซอร์ต่างๆ เช่น เลเซอร์รักษารอยแผลเป็นจากสิว เลเซอร์กำจัดขน เลเซอร์ลบกระ ฝ้า ไฝ หรือจุดด่างดำต่างๆ เพราะเลเซอร์เหล่านี้มักจะมีผลข้างเคียงคือทำให้ผิวของคุณตกสะเก็ด ก่อนจะค่อยๆหลุดอกออกแล้วเผยผิวใหม่ที่เนียนใสกว่าเดิม นอกจากนั้นต้องทำหลายครั้งติดต่อกัน และแต่ละครั้งต้องทิ้งระยะเวลาสักพัก จึงควรเริ่มทำก่อนแต่งงานประมาณ 6 เลยทีเดียวค่ะ

ทรีตเม้นต์
fashionisers.com

2-3 เดือนก่อนแต่งงาน

ช่วงนี้เหมาะสำหรับทำทรีตเม้นต์ประเภทยกกระชับ อย่าง เธอร์มาธ หรือ อัลเธอร่า เพราะทรีตเม้นต์ประเภทนี้ไม่ได้ทำให้เกิดรอยแผลภายนอก แต่เป็นการใช้แสงชนิดพิเศษต่างๆ เข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายใต้ชั้นผิว ซึ่งระยะเวลาที่คอลลาเจนใต้ชั้นผิวของเราจะสร้างขึ้นมาอย่างเต็มที่คือประมาณ 2-3 เดือน นั่นเองค่ะ

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะทำทรีตเม้นต์เพื่อยกกระชับผิวได้ คุณหมอมักจะตรวจดูก่อนว่าสภาพผิวหน้าของคณแข็งแรงพอ หากคุณยังมีสิวเรื้อรัง คุณหมออาจจะต้องขอรักษาสิวคุณให้หายก่อนถึงจะค่อยทำได้ค่ะ

1-2 เดือนก่อนแต่งงาน

ช่วงเวลานี้เหมาะสำหรับทรีตเม้นต์ขั้นสุดท้ายเพื่อความสมบูรณ์แบบของรูปหน้า อย่างการฉีดสารคล้ายกล้ามเนื้อ (โบท็อกซ์) หรือ สารเติมเต็ม (ฟิลเลอร์) สารเหล่านี้เห็นผลทันทีหลังฉีด แต่คุณหมอมักจะนัดคุณเข้ามาพบอีกครั้งประมาณ 2 อาทิตย์ให้หลัง เพื่อเช็คความเรียบร้อยและอาจจะต้องฉีดเพิ่มหากคุณหมอเห็นว่าใบหน้ายังไม่เข้ารูปดี

ถึงแม้ทรีตเม้นต์เหล่านี้จะเห็นผลทันทีก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้าสาวควรจะทำช่วงใกล้วันงานมากเกินไป (ไม่ควรทำหลัง 2 อาทิตย์ ก่อนแต่งงาน) เพราะผลข้างเคียงของสารคลายกล้ามเนื้อหลังฉีดมาใหม่ๆ จะทำให้ใบหน้าของคุณเคลื่อนไหวได้ไม่เต็มที่ และอาจจะยังทิ้งรอยเข็มฉีดยา และในบางกรณีอาจจะมีรอยช้ำเล็กๆ บนผิวหน้าด้วยค่ะ

ทรีตเม้นต์

ได้ความรู้กันไปเต็มๆแล้วนะคะ สำหรับระยะเวลาที่คุณว่าที่เจ้าสาวควรเข้าไปทำทรีตเม้นต์ประเภทต่างๆ เพื่อความงามก่อนวันวิวาห์ ใครที่ชอบคอนเท้นต์นี้ของเรา คลิกอ่าน เหล่าทรีตเม้นต์เจ้าสาวที่เราเคยรวบรวมมาให้พร้อมสัมภาาร์คุณหมอผู้เชี่ยวชาญ ได้ที่ด้านล่างนี้เลย

EP1. รวมของเด็ด! ทรีทเม้น เตรียมผิวเจ้าสาว EP. 1: แก้ปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียน

EP2.  รวมของเด็ด! ทรีทเม้น ผิวเจ้าสาว EP. 2: รูปหน้าสวยด้วยโบท็อกซ์และฟิลเลอร์

EP3. รวมของเด็ด! ทรีทเม้น เตรียมผิวเจ้าสาว EP. 3: กำจัดขนเพื่อผิวเนียนเรียบถึงขีดสุด

Recommended