รักครั้งนี้กับ มนุษย์ฟรีแลนซ์ แค่ความเข้าใจพอหรือไม่ให้รักได้ไปต่อ

ลองนึกดูซิคะว่า ถ้าคุณเป็นพนักงานแบบ “ฟูลไทม์” เข้างาน 8 โมงเช้าเลิกงาน 5 โมงเย็น แต่ดันเกิดไปปิ๊งปั๊งกับผู้ที่เรียกตัวเองว่า “ มนุษย์ฟรีแลนซ์ ”  คราวนี้ความรักของคุณจะดำเนินไปเช่นไร มีอะไรที่ต้องทำความเข้าใจกันและกันบ้าง ถ้าอยากรู้ตามไปอ่านกันเลยจ้า

สำหรับหนุ่มสาวมนุษย์ฟูลไทม์ที่กำลังจะเริ่มความสัมพันธ์กับมนุษย์ฟรีแลนซ์นั้นคงต้องทำความเข้าใจในอาชีพและตัวตนของเขาสักหน่อยค่ะ อย่างแรกเลยคือ เขาเหล่านั้นมักเป็นผู้ที่ “รักอิสระ” ไม่ชอบเข้า-ออกงานตามเวลาเช้าเย็น ไม่ชอบการทำงานซ้ำๆ แบบวนลูป รวมถึงฟรีแลนซ์บางคนก็อาจไม่ชอบอยู่ใต้กฎเกณฑ์ที่ถูกกำหนดมาให้ทำตามด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเขาหรือเธอจึงเลือกมาเป็น “ฟรีแลนซ์”

อย่างที่สองก็คือ ฟรีแลนซ์ส่วนใหญ่มักจะ “จัดระเบียบตารางชีวิตตัวเองเก่ง” เนื่องจากการทำงานแบบฟรีแลนซ์นั้นจะเรียกว่าทำงานอยู่บนความไม่แน่นอนก็ได้ ถ้าเมื่อไหร่ “ไม่มีงาน” นั่นก็หมายความว่า “ไม่มีเงิน” ด้วยเช่นกัน ดังนั้นมนุษย์ฟรีแลนซ์ส่วนใหญ่จึงมักจะ “รับงานมาทำหลายอย่างพร้อมกัน” อยู่เสมอ และเพื่อให้งานที่รับมาส่งทันตามกำหนด พวกเขาจึงมักจะจัดสรรเวลาได้อย่างยอดเยี่ยม วันนี้ทำงานนั้น วันนั้นทำงานนี้ บางคนทำก่อนวันส่งงานแบบ “ไฟลนก้น” นั่นก็ยังถือว่าแบ่งเวลาเก่งพอตัว (เก่งวันสุดท้ายแบบอัจฉริยะข้ามคืนไง!) จึงไม่ต้องแปลกใจว่าตารางเวลาของชาวฟรีแลนซ์จะแน่นเอี๊ยด ไม่ได้ว่างอย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ

อย่างที่สามคือ ฟรีแลนซ์ส่วนใหญ่ “ทำงานไม่เป็นเวลา” เพราะในขณะที่ชาวฟูลไทม์ทำงาน 8 แปดโมงเช้าถึง 5 โมงเย็น เสาร์-อาทิตย์ก็ได้หยุด แต่สำหรับชาวฟรีแลนซ์แล้วล่ะก็ เวลาเริ่มงานของชาวฟูลไทม์อาจเป็นเวลาพักผ่อนนอนหลับของเหล่าฟรีแลนซ์ก็ได้ แถมเสาร์-อาทิตย์ก็ยังคงต้องนั่งหน้าคอมฯ ปั่นงานให้ทันส่งอีกด้วย (แหม มันยุ่งจริงๆ นะ!)

เมื่อ “มนุษย์ฟูลไทม์” ริจะรักกับ “มนุษย์ฟรีแลนซ์”

ตามที่ได้เกริ่น (แบบยาวๆ) ไปแล้วข้างต้นถึงชีวิตฟรีแลนซ์ หลายคนคงจะเห็นว่าตารางชีวิตของคนทำงานแบบฟูลไทม์กับฟรีแลนซ์แทบจะตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นปัญหาใหญ่ของความรักระหว่างมนุษย์ 2F (Fulltime & Freelance) ก็คือ “เวลา”  ถ้าอยากให้รักครั้งนี้ไปรอดและยืนยาวต้องอาศัย 2 สิ่งนี้

1. เข้าใจ

ความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญของความรัก หนุ่มสาวชาวฟูลไทม์ที่มีเวลาการทำงานแน่นอนควรจะเข้าใจคนรักที่เป็นฟรีแลนซ์บ้างนะจ๊ะ เพราะเขาอาจโดนกดดันหลายทางจากงานที่รับมาเยอะๆ ไหนจะต้องเร่งทำงาน ไหนจะรักษาลูกค้า เอาเป็นว่าคอยรับฟัง เข้าใจ และเป็นกำลังใจให้กับเขาแล้วกันนะ

2. แบ่งเวลา

แม้ว่าคนที่เป็นฟรีแลนซ์จะยุ่งเกือบ 24 ชั่วโมง แต่คุณก็ต้องให้เวลาและดูแลคนข้างกายบ้าง ลองหาเวลาว่างตรงกัน หรือกำหนดวันหยุดพักผ่อนไปเลยว่า วันนี้จะไม่ทำงาน ไม่รับงาน เพื่อเติมความหวานให้กับชีวิตรัก ออกไปเดท ดูหนัง ดินเนอร์บ้าง คนข้างกายจะได้รู้สึกว่ายังเป็นคนสำคัญสำหรับคุณอยู่และชีวิตรักครั้งนี้จะได้ยั่งยืน

ส่วนคนฟูลไทม์ก็ต้องปรับทัศนคติเรื่องเวลาการทำงานของมนุษย์ฟรีแลนซ์ข้างกายหน่อยนะ เพราะเขาอาจไม่ได้มีเวลามากมายเหลือเฟือมาคอยปรนนิบัติพัดวีคุณเช้าเย็น (เหมือนแฟนคนก่อนๆ ) เพราะฉะนั้นถ้าเวลาไหนที่เขางานเร่ง งานรัดตัวก็ยอมๆ ให้เขาหน่อยละกัน แต่อย่าลืมหาวันชดเชยนะ อิอิ

สุดท้ายไม่พูดถึงเรื่องความกลัวคงเป็นไปไม่ได้ ถ้าถามว่า “รักกับมนุษย์ฟรีแลนซ์แล้วกลัวอะไร?” ก็คงต้องตอบตามตรงว่า “กลัวความไม่มั่นคง” เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่ามนุษย์ฟรีแลนซ์ส่วนใหญ่นั้น เงินคืองาน งานคือเงิน ถ้าเมื่อไหร่ “ไม่มีงานก็เท่ากับว่าไม่มีเงิน” ด้วยเช่นกัน หรือบางทีงานมีแต่ได้เงินช้าก็สร้างปัญหาไม่น้อย หนุ่มสาวคนไหนที่คิดจะรักกับชาวฟรีแลนซ์ก็ต้องทำใจยอมรับความเสี่ยงของความไม่แน่นอนนี้ให้ได้ และอาจช่วยเขาวางแผนบริหารเงิน บริหารเวลา ตามวิถีของคนรักที่ดีพึ่งกระทำ เพื่อให้รักครั้งนี้ไร้ปัญหา “เงินช็อต” มากวนใจนะจ๊ะ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

ภาพ : www.shinesobrigthly.com

Recommended