Do & Don’t ฮาวทูเดทให้แฮปปี้ ถ้าเริ่มต้นดีรับรองรักนี้ยาวนาน

ความรักคือเรื่องระหว่างคนสองคน แต่จะ เดทให้แฮปปี้ มันมีอะไรมากกว่านั้น

แล้วคนเราจะชอบหรือรักกันได้นั้นต้องทำอย่างไรล่ะ? แค่จ้องตาก็เป็นไปได้แล้วเหรอ? เราว่าคงไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน แต่การจะเข้าใจและรักกันได้ ต้องเกิดจากการพูดคุยต่างหากที่จะสามารถสื่อสารความรู้สึกจากใจเราให้เขารับรู้ได้ ซึ่งการพูดคุยกันระหว่างออกเดทจึงเป็นเหมือนการเปิดโลกของเราให้เขาเข้ามาร่วมแบ่งปัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อให้ต่างฝ่ายได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน หาความเหมือนความแตกต่างเพื่อที่จะได้เข้าใจกันได้มากขึ้นจนเกิดเป็นความรักที่อยากจะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป แต่ในการพูดคุยนั้นก็มีทั้งสิ่งที่เราควรถามเพื่อที่จะได้รู้จักเขาให้มากขึ้น และสิ่งที่ไม่ควรถามเพราะอาจจะไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวเบื้องหลังที่ทั้งเราอาจจะไม่แฮปปี้ และเขาเองก็คงไม่รู้สึกดีเท่าไหร่ แพรว wedding เลยขอมาเป็นเทรนเนอร์หัวใจแบบเฉพาะกิจ กับสิ่งที่ควรและไม่ควรถามขณะออกเดทเพื่อการ เดทให้แฮปปี้ รู้ไว้จะได้ไม่นกเนอะ

DO

1. เขามีความสัมพันธ์กับคนสนิทเป็นอย่างไร?

คนสนิทในที่นี้คือ พ่อ แม่ พี่น้อง และเพื่อนๆ ของเขา เพราะบุคคลเหล่านี้ เป็นคนที่ใกล้ชิดกับเขามาก่อนเรา ทั้งผ่านเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยกันมาทั้งสุขและทุกข์ เพราะฉะนั้นการพูดคุยถึงเหตุการณ์เก่าๆ หรือปัญหาที่เคยประสบพบมากับบุคคลกลุ่มนี้ ก็จะทำให้คุณได้เรียนรู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน หรือเมื่อเกิดความขัดแย้งเขาเคยจัดการและแก้ไขปัญหาอย่างไร ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เหมือนเป็นการเรียนรู้ภูมิหลังของเขา เพื่อให้เราได้เขยิบเข้าใกล้เขาอีกก้าวหนึ่ง ได้รู้จักตัวตน และได้เรียนรู้ถึงการดูแลเอาใจใส่ความสัมพันธ์ของเขาต่อคนใกล้ตัว และยังเป็นแนวโน้มที่เขาอาจจะปฏิบัติต่อเราด้วย

เดทให้แฮปปี้

2. ถ้าเขายังติดต่อกับแฟนเก่าล่ะ?

เมื่อถึงจุดจบของทุกความสัมพันธ์ ซึ่งมีทั้งจุดจบที่ดีและไม่ดีจนต้องตัดขาดกันไป หากแฟนของคุณยังติดต่อกับแฟนเก่า อาจจะทำให้คุณไม่ชอบใจนัก แต่การที่เขาพูดคุยกับคนเก่า ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะนอกใจคุณ เพราะหลังจากการเลิกลากันไปแล้ว บางคู่ก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นเพื่อนที่ช่วยเหลือและสนับสนุนกันได้ ซึ่งสิ่งสำคัญของข้อนี้คือ ความเข้าใจระหว่างกันและกัน การที่เขาสม่ำเสมอกับเรา และแยกแยะเรื่องราวในอดีตกับปัจจุบันได้ แบบนี้การันตีได้เลยว่าเขาเป็นคนรักที่ดีได้แน่นอน

เดทให้แฮปปี้

3. แล้วความสัมพันธ์ของเราจะเป็นอย่างไรต่อไป?

อย่างที่ได้พูดไปแล้วว่าการเดท คือ การดูใจระหว่างชายและหญิง เป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ไปสู่คู่รัก และการแต่งงานต่อไป และแน่นอนว่ากว่าจะถึงขั้นนั้นได้ มันต้องเป็นความสัมพันธ์ที่มากกว่าความรู้สึกชอบเพียงอย่างเดียว เพราะความชอบ คือความสุขที่ได้อยู่กับเขาและเป็นช่วงเวลาที่พิเศษ แตกต่างจากความรักที่มาจากความรู้สึกก้นบึ้งของหัวใจ เป็นความรู้สึกที่ควบคุมไม่ได้ และแสดงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ดังนั้น ความสัมพันธ์ของเราทั้งสองจะเป็นอย่างไรต่อไป อย่ารีบร้อนนะ ค่อยๆ ใช้เวลาเรียนรู้กันไป ว่าเขาคือคนที่ใช่สำหรับคุณจริงหรือเปล่า?

เดทให้แฮปปี้

DON’T

1. วันนี้คุณใช้เงินซื้ออะไรไปบ้าง?

ได้โปรดอย่าลืมว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณทั้งสองคนยังไม่ถึงขั้นแต่งงานกันเลย เพราะนั่นยังเป็นชีวิตส่วนตัวของเขาที่เราควรให้ความเคารพและให้พื้นที่ระหว่างกัน คุณจึงไม่ควรถามถึงรายจ่ายในแต่ละวันของเขานะจ๊ะ ก็แหม ยังแยกกระเป๋าตังค์กันใช้อยู่เลย จริงไหม? … แต่ถึงอย่างนั้นเราก็มีเคล็ดลับการถามแบบอ้อมๆ เพื่อประเมินการใช้จ่ายของเขาได้ เช่น อาจจะพูดคุยถึงรสนิยม ไลฟ์สไตล์ หรือการแต่งตัวของเขา เท่านี้ก็ช่วยให้เรารู้รายจ่ายคร่าวๆ ของเขาได้แล้วว่ามีพฤติกรรมในการเปย์แบบไหน

เดทให้แฮปปี้

2. แฟนเก่าของคุณ เธอ/ เขาเป็นอย่างไรเหรอ?

เราเชื่อว่าใครๆ ก็อยากหาความเหมือนและความแตกต่างระหว่างคุณกับแฟนเก่าของเขา แต่ว่าการพูดถึงอดีตจะทำให้เกิดความอึดอัดทั้งสองฝ่าย และอาจส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ด้วย นอกจากว่าเขาจะเต็มใจพูดโดยปราศจากความกดดัน เป็นการพูดแบบเล่าสู่กันฟัง หรือเป็นบทเรียนในชีวิตมากกว่า แต่ยังไงก็ตาม ปัจจุบันสำคัญกว่าอดีตนะจ๊ะ ความสุขในวันนี้เป็นความทรงจำที่สวยงาม เพราะฉะนั้นจงคิดไว้เสมอว่าคุณคือปัจจุบันของกันและกันดีกว่านะ

3. ทำไมเขาถึงติดตามเธอคนนั้นในโซเชียลมีเดีย?

โซเชียลมีเดีย เป็นสังคมที่เชื่อมโยงผู้คนให้เข้าหาและติดต่อกันได้อย่างสะดวก แต่บางครั้งก็สามารถสร้างความขัดแย้งให้กับความสัมพันธ์ได้เช่นกัน ซึ่งนอกจากเพื่อนของเขาแล้ว เราไม่รู้เลยว่าคนที่เขาติดตามนั้นเป็นใครบ้าง เขาจะแอบชอบใครคนอื่นอีกหรือเปล่า? นี่เขาหักหลังเราจริงๆ เหรอ!! เพราะเราไม่สามารถอ่านใจเขาหรือเธอออกได้ว่าทำไปแบบจริงจัง หรือเผลอไผลโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดและลดความเครียดดราม่าที่ทำให้เสียสุขภาพจิต เราอยากแนะนำให้พูด-ถามเขาและเธอไปตรงๆ จะได้เป็นการปรับความเข้าใจที่ชัดเจน

Inspiration : marthastewartweddings.com

อ่านบทความเพิ่มเติม

ครอบครัวเธอใหญ่ ครอบครัวฉันเล็ก ปัญหาชีวิตคู่ ทำยังไงให้ลงตัว

5 พฤติกรรมชวนยี้ที่คุณอาจต้องเจอหลังแต่งงานแบบไม่ทันตั้งตัว

5 นิสัยคนมีคู่ต้องรู้และต้องเปลี่ยนเมื่อคิดจะย้ายเข้าบ้านอีกฝ่าย

Recommended