ชวนว่าที่บ่าวสาวมาทำความรู้จักทองบนตัวเรือนก่อนเลือกมาสวมเป็นแหวนแต่งงาน

เวลาที่เห็นตัวเรือน แหวนแต่งงาน สีเงินวาว คุณคิดว่านั่นคือ ตัวเรือนทองขาวหรือแพลตินัมคะ แล้วคุณคิดว่าสองสิ่งนี้ต่างกันยังไง คำถามคือ คุณมั่นใจได้ยังไงว่า เนื้อแท้ของความเงินวาวนั้นเป็นแบบที่คิด วันนี้เรามีคำตอบมาให้ค่ะ

ตัวเรือนแหวนแต่งงานที่เห็นว่าเป็นสีเงินวาว ให้คุณสันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า อาจทำจากตัวเรือน 4 อย่าง คือ ตัวเรือนเงิน (Silver)  ตัวเรือนทองขาว (White Gold) ตัวเรือนทองคำขาวหรือแพลตินัม (Platinum) และ ตัวเรือนทองคำชุบขาว (Yellow Gold) ความต่างของแต่ละชนิดก็คือ

ตัวเรือนเงิน แหวนที่ทำจากตัวเรือนเงินมักจะมีการสลักที่ทองแหวนว่า 925 ซึ่งมีความหมายว่าใช้เนื้อเงิน 92.5% ส่วนที่เหลืออีก 7.5% คือทองแดง ซึ่งเหตุที่ต้องผสมทองแดงเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับเงินจนสามารถขึ้นรูปมาเป็นตัวเรือนแหวนได้ เมื่อขึ้นรูปแล้ว ฝังอัญมณีแล้ว จึงนำไปชุบโรเดี่ยมเพื่อให้เกิดความแวววาวและสวยงาม

ส่วนถ้าคุณอยากรู้ว่าแหวนแต่งงานเนี่ย เขานิยมเลือกตัวเรือนเงินไหม บอกได้ตรงนี้ว่าไม่นิยมค่ะ ตัวเรือนที่นิยมมากๆ ในยุคนี้คือ

ตัวเรือนทองขาว และ ตัวเรือนทองคำขาว ซึ่งเป็นตัวเรือน 2 ประเภทที่มีหลายคนสับสนทั้งชื่อเรียกและเนื้อวัสดุที่ทำขึ้นมาเป็นตัวเรือน ทำความเข้าใจกันง่ายๆ แบบนี้ค่ะ

ตัวเรือนทองขาว คือ แหวนทองคำ (Yellow Gold) ที่มีส่วนผสมของทอง 75% บวกกับส่วนผสมของโลหะอื่นๆ อีก 25% ซึ่งส่วนผสมที่ว่าอาจเป็นโลหะเงิน ผลที่ออกมาคือ แหวนสีเงินที่ออกนวลๆ ตา จากนั้นนำไปชุบโรเดี่ยมเพื่อให้กลายเป็นสีเงินวาว พอใช้ไปสักพัก โรเดี่ยมจะค่อยๆ หลุดออกไป เผยให้เห็นสีเนื้อแท้ของทองขาวนวลๆ บางทีก็ออกเหลือง ถ้าเจอแบบนั้นไม่ต้องตกใจ แต่ให้ยิ้มกว้างๆ เพราะนั่นน่ะ การันตีว่าแหวนทองขาวของคุณมีส่วนผสมของทองจริงๆ ซึ่งถ้าคุณชอบแบบวาวๆ ก็เอาไปชุบเรื่อยๆ เท่านั้นเอง

ส่วน แหวนทองคำขาว หรือ แหวนแพลตินัม อันนี้บอกเลยว่าไม่มีทองเป็นส่วนผสมเลยสักเปอร์เซ็นต์เดียว ส่วนผสมหลักเป็นโลหะล้วนๆ ซึ่งมีความแข็งมากๆ ขึ้นรูปก็ยาก ต้องใช้ช่างผู้ชำนาญและเครื่องมือเฉพาะทาง ส่งผลให้ราคาในการผลิตสูงกว่า (พูดง่ายๆ ว่าไม่ได้แพงเพราะวัสดุ แต่แพงแรงงานผลิต) ข้อดีคือ สีไม่เปลี่ยน ไม่ดำง่ายแถมยังทนมาก

สำหรับ ตัวเรือนทองคำ (ชุบขาว) เนื้อแท้ข้างในก็คือตัวเรือนทองคำนั่นแหละค่ะ แต่เป็นทองคำ 18K คือมีเปอร์เซ็นต์ทองอยู่ที่ 75% ซึ่งบางคนบอกว่า ทำไมไม่ใส่ทองมากกว่านี้แบบว่าให้เป็น 22K ที่มีเปอร์เซ็นต์ทองอยู่ที่ 90% นั่นเพราะยิ่งมีเปอร์เซ็นต์ที่สูง ยิ่งทำให้ตัวเรือนนิ่ม เปลี่ยนรูปทรงบิดเบี้ยวได้ง่าย แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะใช้ไม่ได้นะคะ ขอบอกว่าใช้ได้ เจ้าทอง 22K แต่ต้องเลือกดีไซน์แหวนที่ออกแบบให้หนามเตยและก้านแหวนแข็งแกร่งสักหน่อย เพชรที่ฝังไปจะได้ ซึ่งเมื่อขึ้นรูปแบบตัวเรือนได้แล้ว ก็นำมาชบโรเดี่ยมจนเห็นเห็นตัวเรือนสีเงินวาวเช่นกันนั่นเอง

ยังมีอีกหนึ่งประเภทตัวเรือนที่ตอนนี้กำลังมาแรงมากๆ นั่นก็คือ ตัวเรือนทองชมพู  (Pink Gold) หรือบางคนเรียกว่า โรสโกลด์ (Rose Gold) ที่แม้จะไม่ได้ชุบโรเดี่ยมให้ความแวววาว แต่ความสวยของสีทองชมพูนั่นโดนใจบ่าวสาวยุคนี้เข้าอย่างจัง

แต่อย่าเพิ่งสับสนระหว่าง ทองชมพู กับ นาก นะคะ เพราะคนละเรื่องกันเลย นั่นเพราะเปอร์เซ็นต์ทองต่างกันแบบครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว ตัวเรือนทองชมพูจะมี ส่วนผสมของทอง 75% เงิน 9% และทองแดง 16% ส่วนนากจะมีส่วนผสมของทอง 37.5% เงิน 20% และทองแดง 42.5% เรื่องราคาคงไม่ต้องบอกนะคะว่าใครมาแรงกว่ากัน เพราะเมื่อคุณอ่านมาตรงนี้แล้วคงเข้าใจใช่ไหมล่ะว่า ราคาทองชมพูสูงกว่านากแน่นอน

รู้จักตัวเรือนแหวนแต่งงานกันไปเรียบร้อยครบทุกประเภทอย่างครอบคลุมแล้ว อยู่ที่ความชอบและงบประมาณในกระเป๋าของคุณแล้วล่ะ ว่าจะเทใจไปที่ชนิดของตัวเรือนไหน

ภาพ : upload.wikimedia.org

Recommended